April 26, 2024   6:13:32 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ICHIโตปีละ20% เข้าใจตรงกันนะ
 

thaihoon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 14,583
วันที่: 08/04/2014 @ 08:45:30
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

"อิชิตัน" ผงาด!! ตั้งเป้ายอดขาย 3-5 ปีข้างหน้า โตปีละไม่ต่ำกว่า 20% ลั่นรักษามาร์เก็ตแชร์อันดับ 1 คาดปีนี้ดันอัตรากำไรสุทธิมากกว่า 14% หลังนำเงินจากการขายไอพีโอไปชำระหนี้ ลดต้นทุนการเงิน เล็งเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการส่งออกปีนี้เป็น 5-10% จากปีก่อนอยู่ที่ 1% ขณะที่โรงงานเฟส 2 ดีเดย์เดินเครื่อง Q3/57 เพิ่มกำลังการผลิตดันยอดขายทะลุ 1 หมื่นลบ. โบรกฯ คาดกำไรปกติโตแข็งแกร่งเฉลี่ย 24% ในปี 2014-16 ให้ราคาเป้าหมาย 16.30 บาท ขณะที่ราคาไอพีโอเคาะหุ้นละ 13 บาท เตรียมเปิดจองซื้อ 8-11 เมษายนนี้ ก่อนลงสนามเทรดใน SET 21 เม.ย.นี้ ด้าน"ตัน " การรันตี ราคายืนเหนือจอง

* ICHI ตั้งเป้ายอดขายโตปีละไม่ต่ำกว่า 20% รักษามาร์เก็ตแชร์อันดับ 1

นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายเติบโตปีละไม่ต่ำกว่า 20% ในระยะเวลา 3-5 นับจากปีนี้ (2557- 2561) โดยจะเป็นการเติบโตไปพร้อมกับตลาดชาพร้อมดื่ม ที่คาดว่าจะมีการเติบโตเฉลี่ยปีละอย่างน้อย 20%
นอกจากนี้ ICHI มีเป้าหมายจะรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดชาพร้อมดื่ม ให้อยู่ในอันดับ 1 โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 42% เป็นอันดับ 1 ของอุตสาหกรรม?? "อันดับมาร์เก็ตแชร์เราจะมุ่งมั่นรักษาไว้ให้อยู่ในอันดับที่ 1 ต่อไป ปีนี้คงใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 42% แต่สิ่งที่เราให้ความสำคัญมากที่สุดเป็นการทำกำไร เพราะจะเป็นส่วนที่ทำให้นักลงทุนพอใจที่สุด ด้านรายได้เราตั้งเป้าแบบ conservative ไว้ที่อย่างน้อย 20% ต่อปีตามอุตสาหกรรม แต่ปกติเราจะโตมากกว่าอุตสาหกรรมเสมอ"นายตัน กล่าว

* อัตรากำไรสุทธิปีนี้มากกว่า 14% หลังลดต้นทุน OEM - นำเงิน IPO จ่ายหนี้

นายตัน คาดว่าอัตรากำไรสุทธิของบริษัทฯ ในปีนี้จะมากกว่าปีก่อนที่อยู่ระดับ 14% เนื่องจากบริษัทฯ ได้มีการลดต้นทุนการผลิต และจำหน่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยหลังจากนี้บริษัทฯ จะลดสัดส่วนการว่าจ้างผลิต (OEM) ลงให้เหลือไม่ถึง 10% จากเดิมในปีก่อนที่ 25% ซึ่งต้นทุนจากการทำ OEM เทียบกับการผลิตเองต่างกันราว 2 บาทต่อขวด
นอกจากนี้ หลังจากได้เงินระดมทุนจากการขายหุ้นไอพีโอจำนวน 3,900 ล้านบาทแล้ว บริษัทฯ จะนำเงินไปชำระหนี้เงินกู้จากสถาบันการเงิน และเงินกู้จากคณะกรรมการจำนวน 2,500 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ต้นทุนดอกเบี้ยลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยปัจจุบันต้นทุนดอกเบี้ยเงินกู้ของบริษัทฯอยู่ที่เฉลี่ย 4-5% จากหนี้สินรวม 4,572.60 ล้านบาท
"ส่วนเรื่องปันผลของปี 56 เราได้ขอผู้ถือหุ้นไปแล้วว่าจะงดจ่าย เนื่องจากติดเงื่อนไขกับเจ้าหนี้ที่เป็นสถาบันการเงินว่าจะต้องมี D/E ต่ำกว่า 1.2 เท่า โดยตอนนี้ D/E เราอยู่ในระดับดังกล่าว ซึ่งหลังจากการขายหุ้น IPO และนำเงินไปชำระเงินกู้ 2,500 ล้านบาทแล้ว จะทำให้ D/E ลดลง และสามารถจ่ายเงินปันผลได้ โดยบริษัทฯ มีนโยบายจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ แต่ทั้งนี้ต้องนำเสนอเรื่องนี้ในที่ประชุมคณะกรรมการอีกครั้งหนึ่ง ว่าจะมีการเสนอจ่ายปันผลสำหรับผลประกอบการในปี 57 หรือไม่ โดยต้องดูภาวะเศรษฐกิจ และกระแสเงินหมุนเวียนว่าจะมีการลงทุนใหม่อื่นๆ อีกหรือไม่"นายตัน กล่าว??

* เล็งเพิ่มรายได้จากการส่งออกเป็น 5-10% - รุกตลาดอาเซียน

นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการส่งออกในปีนี้เป็น 5-10% จากปีก่อนที่อยู่ระดับ 1% โดยจะเน้นขยายกลุ่มลูกค้าในภูมิภาคอาเซียน เนื่องจากมีความคล้ายคลึงกันด้านอาหารและเครื่องดื่ม และยังมีโอกาสเติบโตได้อีกในอนาคต ??ทั้งนี้การขยายธุรกิจของ ICHI จะมีทั้งการตั้งตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศ รวมไปถึงสร้างโรงงานในต่างประเทศด้วย แต่ยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษา

*โรงงานเฟส 2 ดีเดย์เดินเครื่อง Q3/57 หวังดันยอดขายอนาคตทะลุ 1 หมื่นลบ.

นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI คาดว่าโรงงานเฟส 2 จะก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วปลายไตรมาส 2/2557 พร้อมเดินเครื่องครบทั้งสองเฟส ในช่วงไตรมาส 3/57 เป็นต้นไป โดยจะทำให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นแตะ 1,000 ล้านขวดต่อปี และ 200 ล้านกล่องต่อปี จากเดิม ที่มีการผลิตบรรจุภัณฑ์แบบขวดอยู่ที่ 600 ล้านขวดต่อปี ส่วนแบบกล่องเป็นการว่าจ้างการผลิต (OEM)
ทั้งนี้ หากบริษัทฯ สามารถเดินเครื่องเต็มกำลังการผลิต 100% ของกำลังการผลิตทั้งหมดหลังจากโรงงานเฟส 2 สร้างเสร็จ จะสามารถสร้างยอดขายได้ถึง 10,000 ล้านบาท โดยคาดว่าหลังจากเริ่มเดินเครื่องการผลิตครบทุกเฟสจะมีอัตราการใช้กำลังการผลิตเบื้องต้นราว 70-80%
ด้านงบการตลาดในปีนี้คาดว่าจะมีการใช้ลดลงที่ 12% ของยอดขาย จากปีก่อนอยู่ที่ 14% ของยอดขาย ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนการบริหารต้นทุนของบริษัทฯ

*ฟินันเซีย ไซรัส คาดกำไรปกติโตแข็งแกร่ง เฉลี่ย 24% ในปี 2014-16

บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า บมจ. อิชิตัน กรุ๊ป (ICHI ) หุ้น IPO ใหม่ เป็นผู้นำตลาดเครื่องดื่มชาเขียวภายใต้แบรนด์ อิชิตัน ที่มีโปรโมชั่นแนวใหม่ถูกใจผู้บริโภค และอาศัยผู้บริหารอย่างคุณตันเป็น Brand Ambassador และ Presenter ทำให้ในปี 2013 ICHI สามารถแซงหน้า OISHI ได้ทั้งส่วนแบ่งการตลาดและผลการดำเนินงาน
เราคาด ICHI จะมีกำไรปกติเติบโตแข็งแกร่งเฉลี่ย 24% ในปี 2014-16 จากการขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 67% การลดการว่าจ้างผู้ผลิตภายนอกซึ่งจะทำให้อัตรากำไรดีขึ้น เราประเมินราคาเป้าหมาย 16.10 บาท คิดเป็น PE 19.4 เท่า

* ทิสโก้ ให้ราคาเป้าหมายที่ 16.30 บาท

บทวิเคราะห์ บล.ทิสโก้ ระบุว่า บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มชาเขียวพร้อมดื่ม โดยมีกำลังการผลิตแบบขวดอยู่ที่ 600 ล้านขวดต่อปี และแบบกล่องยูเอชทีอยู่ที่ 200 ล้านกล่องต่อปี และ ICHI มีส่วนแบ่งครองตลาดขึ้นเป็นอันดับหนึ่ง ณ 2556 จากที่เคยเป็นอันดับ 2 ในปี 55 ที่ผ่านมา ภายในระยะเวลาเพียง 2ปีประเด็นการเติบโต :
1.แนวโน้มการเติบโตของตลาดเครื่องดื่มชาเขียวยังสูง จากกระแสความนิยมการดื่มชาเขียวพร้อมดื่มมีอัตราเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ย 4 ปีที่ผ่านมา +26% เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป มีแนวโน้มของอัตราการดื่มชาเขียวพร้อมดื่มทดแทนการดื่มน้ำอัดลมเพิ่มขึ้น
2.ความเชี่ยวชาญผลิตภัณฑ์และความสามารถของผู้บริหาร ภายในระยะเวลาเพียง 2ปี สามารถพิสูจน์ได้ว่ากลุ่มทีมงานผู้บริหาร เข้าใจอุตสาหกรรมตลาดน้ำดื่มชาเขียวอย่างดี และสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดได้ถึง 42% ณ สิ้นปี 2556
3.ช่องทางการจำหน่ายเติบโตได้อีก โดยปัจจุบันการกระจายสินค้าของตลาดเครื่องดื่มชาเขียวในส่วนของ Modern trade ครอบคลุมทั่วถึงทุกสาขา แต่ในส่วนของร้านค้าปลีกดั้งเดิม ตลาดเครื่องดื่มชาเขียวยังครอบคลุมร้านค้าเพียง 50%-60% ทั่วประเทศ
4.เตรียมสร้างเฟส 2 เพิ่มสายการผลิต ผลักดันมาร์จิ้นเพิ่มขึ้น จากแผนการเพิ่มสายการผลิตขวด 2 สายในปี 57 จะสามารถช่วยเพิ่มกำลังการผลิตได้จาก 600 ล้านขวด เป็น 1,000 ล้านขวด ซึ่งจะทำให้ ICHI สามารถบริการจัดการต้นทุนขายได้ดีขึ้นและสามารถลดขนาดสัดส่วนการจ้างผู้ผลิตภายนอกได้ลงบางส่วน และจะทำให้ ICHI มีอัตราทำกำไรเบื้องต้นได้สูงขึ้นโดย 2556 อยู่ที่ 32% และเราคาดว่าจะอยู่ที่ 38.5% ภายในปี 59Fคาดการณ์กำไรภายใน 3 ปีนี้เติบโตเฉลี่ย +32%
โดยเราคาดรายได้ปี'57F อยู่ที่ 7,568 ล้านบาท (+17% YoY) และปี'58F อยู่ที่ 8,441 ล้านบาท (+12% YoY) โดยบริษัทมีนโยบายเพิ่มเครื่องดื่มรสชาติใหม่ 3-4 รายการต่อปีและมีการจัดทำโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นยอดขายจากการแข่งขันเครื่องดื่มชาเขียวที่เพิ่มขึ้น สำหรับการคาดการณ์กำไรสุทธิเฉลี่ยอยู่ที่ +32% (CAGR3y) โดยปี 57F อยู่ที่ 1,435 ล้านบาท (+62% YoY) และ ปี 58F อยู่ที่ 1,761 ล้านบาท (+23% YoY) การประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของ ICHI
ให้ราคาเป้าหมายที่ 16.30 บาท อ้างอิงวิธีค่าเฉลี่ย PE Sector Beverage (HTC, MALEE, OISHI, SSC, TIPCO) เฉลี่ย 5ปี อยู่ที่ 14.8X โดยคาด EPS ปี 57F ที่ 1.10 บาทโอกาส : ความนิยมดื่มชาเขียวเพิ่มสูงขึ้น ความเสี่ยง : การแข่งขันและความหลากหลายของเครื่องดื่มที่เพิ่มขึ้น

*เคาะราคาไอพีโอ 13 บาท เปิดจอง 8-11 เมษายนนี้ ลงสนามเทรด 21 เม.ย. 57

บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มภายใต้ชื่อการค้าอิชิตัน กรีนที, อิชิตัน ดับเบิ้ลดริ๊งค์, อิชิตัน ดราก้อน แบล็คที, เย็นเย็น และ อิชิตัน ซีเล็คเต็ด เผยการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 300 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ1 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 23.1 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหลักทรัพย์ ว่า บริษัทฯ กำหนดราคาเสนอขายหุ้นไอพีโอหุ้นละ 13 บาท โดยจะเปิดให้นักลงทุนจองซื้อหุ้นดังกล่าวในระหว่างวันที่ 8 – 11 เมษายน 2557 และจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้ในวันที่ 21 เมษายนนี้
ที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) คือ บริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด ส่วนผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย คือ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) นอกจากนี้บริษัทได้แต่งตั้งผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายในครั้งนี้อีก 10 บริษัท คือ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ทิสโก้ จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซียไซรัส จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ ไอ วี โกลบอล จำกัด (มหาชน)
สำหรับผลประกอบการประจำปี 2556 อิชิตันมีรายได้จากการขาย 6,484 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,577ล้านบาท (เติบโต 65.96 %) มีกำไรสุทธิ 884 ล้านบาท (ไม่รวมรายการจากอุทกภัยและการดำเนินงานที่ยกเลิก) เพิ่มขึ้น 578 ล้านบาท (เติบโต 188.89%) ถือเป็นอัตราการเติบโตสูงมากเมื่อเทียบกับตลาดเครื่องดื่มและชาพร้อมดื่มโดยรวม ประกอบกับนโยบายการพัฒนสินค้าใหม่ ภายใต้ชื่อ “เย็น เย็น” ได้รับการตอบรับอย่างดีเกินคาด

* ASP มั่นใจนักลงทุนตอบรับดี

ดร. ก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด (มหาชน) หรือ ASP กล่าวในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ว่าราคาหุ้น บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI กำหนดราคาที่ 13 บาท นั้น คิดเป็นอัตรา P/E เท่ากับ 19.2 เท่า โดยคำนวณจากกำไรสุทธิ สำหรับปี 2556 หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญหลังการเสนอขายหลักทรัพย์ในครั้งนี้รวม 1,300 ล้านหุ้น ที่เท่ากับ 0.7 บาท ต่อหุ้น เมื่อเทียบกับกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกันที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในช่วงระยะเวลา6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 2ตุลาคม 2556 จนถึงวันที่ 1 เมษายน 2557 คิดเป็นอัตราส่วนเท่ากับ 30 เท่า หรือมีส่วนลด 36%
ทั้งนี้ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินเชื่อว่าหุ้น ICHI จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วไปมาก เห็นจากผลตอบรับล้นหลามจากนักลงทุนสถาบัน เนื่องจากอิชิตันเป็นธุรกิจที่เข้าใจง่าย ทีมผู้บริหารมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจ กลยุทธ์การตลาดได้การตอบรับจากผู้บริโภคอย่างสูงเสมอมา สนับสนุนให้ “อิชิตัน” สามารถครองส่วนแบ่งตลาดอันดับหนึ่งในปี ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ความสามารถในการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ มีโครงสร้างเงินทุนแข็งแกร่งด้วยอัตราส่วน D/E 1.2 เท่า (คำนวณตามข้อกำหนดของธนาคารที่ไม่รวมเงินกู้ยืมกรรมการ) คาดว่าจะลดลงอีกหลังเสนอขายหุ้น IPO ครั้งนี้ ส่งผลให้อิชิตันมีผลประกอบการเติบโตก้าวกระโดดในระยะเวลารวดเร็วและต่อเนื่อง ประกอบกับโอกาสที่เพิ่มขึ้นจากการขยายธุรกิจในตลาด AEC จึงถือได้ว่าอิชิตันเป็นหุ้นพื้นฐานแข็งแกร่งมาก มั่นใจ ICHI ซึ่งกำลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเป็นอีกบริษัทที่ได้รับความสนใจและได้รับการตอบรับจากนักลงทุน

* "ตัน" การรันตี ราคายืนเหนือไอพีโอที่ 13 บาท

นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI กล่าวว่า การเข้าซื้อขายวันแรกในวันที่ 21 เม.ย. นี้ มั่นใจว่าราคาหุ้นจะสามารถยืนเหนือราคาไอพีโอที่ 13 บาทได้ เนื่องจากหุ้น ICHI ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นจำนวนมาก ขณะที่สามารถให้ความเชื่อมั่นนักลงทุนได้ว่า ICHI จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต ซึ่งบริษัทฯ พร้อมทั้งทีมงานคุณภาพและศักยภาพของการผลิต- การตลาด
"ผมมั่นใจว่าจะไม่มีการขายกิจการเหมือนคราวก่อนอย่างแน่นอน ซึ่งอยากให้นักลงทุนมั่นใจในศักยภาพการทำงานของผมและทีมงาน ขณะที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ก็ไม่มีนโยบายลดสัดส่วนการถือหุ้นแต่อย่างใด"นายตัน กล่าว
นายตัน กล่าวต่อว่า บริษัทฯ ไม่กังวลกับปัญหาภาวะการเมืองในการนำหุ้นเข้าซื้อขายในวันที่ 21 เม.ย. นี้ โดยทุกอย่างต้องดำเนินการไปตามแผนและธุรกิจเครื่องดื่มก็ไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากในปีนี้เกิดภาวะอากาศร้อนกว่าปกติ ซึ่งจะทำให้ยอดขายดีตามไปด้วย
ด้านนายเล็ก สิขรวิทย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัสในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ ICHI เปิดเผยว่า ราคาไอพีโอที่ 13 บาท ถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสม คิดเป็นอัตรา P/E เท่ากับ 19.2 เท่า ซึ่งเทียบกับกลุ่มอุตสาหกรรมที่มี P/E เท่ากับ 30 เท่า หรือคิดเป็นส่วนลด 36% ซึ่ง ICHI มีศักยภาพทั้งการดำเนินงานการเงิน และการตลาดที่แข็งแกร่ง เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี
"การตั้งราคาไอพีโอของ ICHI ที่มีส่วนลดมากถึง 36% เทียบกับ P/E ของอุตสาหกรรมเดียวกันในประเทศ ไม่ได้เป็นเพราะว่าเรากังวลการเมืองจึงมีส่วนลดมาก แต่เหตุผลหลักคือเราให้ความสำคัญในการเทียบกับกลุ่มธุรกิจเดียวกันในภูมิภาคเอเชีย ที่มี P/E เฉลี่ยที่ 26 เท่า ซึ่งที่ราคา 13 บาท คิดเป็น P/E ประมาณ 19.2% ก็มีส่วนลดจากภูมิภาคประมาณ 20% แต่หากเทียบกับอุตสาหกรรมในประเทศที่ P/E อยู่ที่ 30 เท่า เลยดูเหมือนมีดิสเคาท์เยอะ" นายเล็กกล่าว

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com