April 26, 2024   2:30:23 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > EWC โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ คุมเกมราคาหุ้น
 

?????????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 103
วันที่: 14/10/2005 @ 15:26:45
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

จับตาอนาคต อีสเทิร์นไวร์ (EWC) ภายใต้นายใหม่ โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ ท่ามกลางความหวั่นวิตกลึกๆ หาก โกมล คือ ไม้สุดท้าย ปล่อยหุ้นออกมาเมื่อไหร่ รายย่อย จะถูก ลอยแพ ทันที


ความเคลื่อนไหวของ บมจ.อีสเทิร์นไวร์ (EWC) หลังการปรับกระบวนผู้ถือหุ้นรายใหญ่จาก ภิรมย์ ปริยวัต และ บ.แอสเซ็ท บิลเลี่ยน ซึ่งมักถูกโยงใยความเกี่ยวพันกับกลุ่ม ลาภวิสุทธิสิน อย่างชัดเจน ...ก่อนจะส่งไม้ต่อมาให้แก่ โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ เจ้าของกิจการ ซัมมิท ฟุตแวร์ (ผู้ผลิตรองเท้า) ที่ตัดสินใจก้าวขึ้นมาเป็นผู้ถือหุ้น อันดับ1 (17 ล้านหุ้น) หรือในสัดส่วน 17%

เส้นทางการเข้ามาครอบงำหุ้นส่วนใหญ่ใน EWC ของ โกมล สวยงามตั้งแต่เริ่มต้น...จาก 1 กันยายน 48 รับซื้อหุ้นในส่วนของ ภิรมย์ ปริยวัต จำนวน 10 ล้านหุ้น ...หรือ 10% ของหุ้นทั้งหมด ณ ราคาหุ้นละ 11.80 บาท

ต่อมาเมื่อวันที่ 16 กันยายน 48 โกมลจึงเข้าไปกว้านซื้อหุ้นในส่วนของ อรวรรณ กาญจนชูศักดิ์ และ บ.แอสเซ็ท บิลเลี่ยน มาอีกจำนวน 7 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 7% ตกลงราคากันที่หุ้นละ 23.10 บาท

เท่ากับว่า โกมล ต้องควักเงินซื้อหุ้นไปทั้งหมด 279.7 ล้านบาท ...ที่ราคาเฉลี่ย 16.45 บาท

นั่นคือ ต้นทุน ของหุ้นทั้งหมด โดยมี โจทย์ ว่า ราคาหุ้น EWC ต้องสูงกว่า

ขณะที่ราคาหุ้น EWC (ณ 11 ต.ค.) ถูกปั่นขึ้นไปถึงหุ้นละ 25.50 บาท

หมายความว่า ถ้าหาก โกมล ตัดสินใจเททิ้งหุ้นทั้งหมด เขาจะโกยกำไรส่วนต่างทันที 153.8 ล้านบาท

โดยยังไม่นับรวมหุ้นในพอร์ตของกองทุน แอดวานซ์ เวลธ์ โซลูชั่น ซึ่งจดทะเบียนอยู่บนเกาะ บาฮาร์มาส ฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ก่อนจะผ่านเงินเข้ามาพักไว้ที่ประเทศสิงคโปร์ในบัญชี DBS Vickers Securities ปัจจุบันถือหุ้น EWC อยู่ 4.5%

กองทุนแอดวานซ์ เวลธ์ โซลูชั่น เข้ามารับช่วงซื้อหุ้น EWC ต่อจาก ภิรมย์ ครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2548 จำนวน 6 ล้านหุ้น และครั้งที่สอง...วันที่ 20 กันยายน 2548 อีก จำนวน 4.5 ล้านหุ้น โดยระหว่างนั้น (13 ก.ย.) กองทุนแห่งนี้ได้ระบายหุ้นออกขายไปจำนวน 3 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 11 บาท

ขณะที่วงการล้วนตั้งข้อสังเกตว่ากองทุนแห่งนี้...อาจเป็น นอมินี ของ โกมล อีกทอดหนึ่งหรือไม่

และทั้งหมดคือชนวนเหตุที่ทำให้ นักลงทุนรายย่อย หวาดระแวงว่า...โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ จะดอดทิ้งหุ้นไปวันไหน

สนทยา น้อยเจริญ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ ของ อีสเทิร์นไวร์ ชี้แจงว่า การเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของกองทุนแอดวานซ์ เวลธ์ โซลูชั่น น่าจะเป็นการถือโดยชาวต่างชาติ ...แต่คงไม่สามารถตอบได้ว่า กองทุนแห่งนี้จะถือหุ้น EWC นานแค่ไหน

ตอนนี้กองทุนสิงคโปร์เขาถือหุ้นของเราต่ำกว่า 5% เมื่อทำการซื้อๆขายๆก็ไม่จำเป็นต้องส่งรายงานให้กับ ก.ล.ต.

จึงเป็นไปได้ว่ากองทุนแห่งนี้จะทำหน้าที่เป็นเพียง ตัวแทน ในการเคาะราคาซื้อขายหุ้น EWC ให้กับเจ้าของหุ้นตัวจริงได้อย่างคล่องตัวที่สุด โดยเฉพาะในจังหวะที่หุ้นได้ราคา และยังลดความเสี่ยงจากการถูกเพ่งเล็งได้ในระดับหนึ่ง

ขณะที่รายงานล่าสุด ปรากฏชื่อ ภิรมย์ ปริยวัต ยังคงถือหุ้น EWC อยู่ 3% หลังออกจากโผทีมผู้บริหาร จึงสามารถเทรดหุ้นได้โดยไม่ต้องแจ้งต่อ ก.ล.ต. โดยเชื่อว่าเขาน่าจะทิ้งหุ้นออกไปจนเกลี้ยง เช่นเดียวกับ บ.แอสเซ็ท บิลเลี่ยน ที่คาดว่าได้ทำการทยอยระบายหุ้น EWC ออกไปหมดแล้วเช่นกัน

เป็นการปิดฉาก EWC ในเกมของ ภิรมย์ ปริยวัต อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ เพื่อเริ่มต้น ปั้นต่อ ใน ภาคสอง ภายใต้การกำกับโดยตรงของ โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ ...พร้อมๆกับการถอยร่น (ขายหุ้น) ของกลุ่ม ลาภวิสุทธิสิน และบรรดา นอมินี

ก่อนที่จะดึง ดร.นพ สัตยาศัย เข้ามาเสียบในตำแหน่งเอ็มดีคนใหม่ ของ EWC

และแม้ โกมล จะพยายามวางภาพตัวเองว่าเขาเป็นเพียง นักลงทุน รายหนึ่ง โดยจะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับตำแหน่งต่างๆในบริษัท แต่ก็คงยากที่นักลงทุนจะสลัดภาพเดิมๆของหุ้น EWC

...ซึ่งผู้เชี่ยวชาญมองว่า การสร้างระยะบทบาทของ โกมล ที่มีต่อ EWC นั่นเพื่อ ปกป้อง ตัวเองในกรณีที่บริษัทเกิดปัญหากับตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต.

ดร.นพ สัตยาศัย อธิบายหน้าที่ใหม่ในฐานะผู้นำองค์กรว่า เขาต้องพยายามสร้างผลประกอบที่แข็งแกร่งให้กับบริษัท บนความตั้งใจว่าจะทำให้ผู้ถือหุ้นได้รับผลตอบแทนในอัตราที่ดีกว่าการนำเงินไปฝากธนาคาร หรือซื้อพันธบัตร เพื่อรอรับดอกเบี้ย

แต่หุ้นของเราจะมีการจ่ายปันผลหรือไม่นั้น คงต้องให้ผู้ลงทุนวิเคราะห์กันเอง

ด้าน สนทยา น้อยเจริญ อธิบายเสริมในประเด็นนี้ว่า ผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้น EWC ...อาจมีอยู่หลายทาง ไม่ว่าจะมาจาก เงินปันผล หรือจากส่วนต่างของ ราคาหุ้น

และมั่นใจว่า...ทิศทางการเติบโตของบริษัทยังคงน่าสนใจอยู่

เราคงจะพุ่งนโยบายไปที่วิธีการใช้เงินสด ซึ่งตอนนี้เรามีอยู่ประมาณ 1,300 ล้านบาท (ได้มาจากการเพิ่มทุน) ในการเข้าไปร่วมลงทุน หรือเพื่อเทคโอเวอร์กิจการที่น่าสนใจ ภายใต้วงเงินลงทุน 700 ล้านบาท และผลตอบแทนที่ได้ ต้องไม่ต่ำกว่า 15%

ขณะเดียวกันนโยบายการ เทคโอเวอร์ หรือ ร่วมลงทุน ของบริษัท อาจเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมบ้าง เพราะก่อนหน้านั้นบริษัทจะมองไปที่ธุรกิจในกลุ่มก่อสร้าง เพื่อรองรับการทำธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องจากธุรกิจเดิมของบริษัท

แต่เมื่อสภาพเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศเริ่มท้าทายกับ ความเสี่ยง ทั้งด้านอัตราเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ย จึงถือเป็น โจทย์ใหม่ ที่ทีมผู้บริหารจะต้องมาตรวจสอบแผนกันอีกครั้ง

และเพื่อไม่จำกัดกรอบการลงทุนของเราเอง จากนี้เราจะมุ่งเทคโอเวอร์ทุกธุรกิจที่มีประสิทธิภาพด้านการสร้างผลตอบแทน แต่คงต้องศึกษาต่อไปอีกระยะว่าจะเข้าไปลงทุนในธุรกิจอะไร เพราะตอนนี้เราไม่จำกัด

เราพร้อมที่จะซื้อราคาแพง ถ้าหากผลตอบแทนที่ได้กลับมา...มันดีพอ ดร.นพ อธิบายยุทธศาสตร์

ส่วนความกังวลของนักลงทุนว่าบริษัทอาจไม่มีความ เชี่ยวชาญ หากไปเทคโอเวอร์ธุรกิจนอกที่ไม่สันทัด ดร.นพ ชี้แจงว่า เราคงไม่จำเป็นต้องมีความชำนาญในเชิงที่ลึกซึ้งมากนักในธุรกิจนั้นๆ เพราะอาจเป็นการลงทุนเพียงการสนับสนุนด้านเงินทุน ส่วนการตัดสินใจต่างๆ ยังคงเป็นของบริษัทย่อยแห่งนั้น

ขณะที่ผู้ลงทุนต่างมองว่า แผนการเติบโตของ EWC โดยเฉพาะการเทคโอเวอร์...ค่อนข้างที่จะเน้นที่การเติบโตของ ราคาหุ้น มากกว่าการเติบโตจากผลประกอบการ

ที่เราให้น้ำหนักกับการเติบโตของรายได้ผ่านการเทคโอเวอร์มากกว่าวิธีขยายการเติบโตจากตัวธุรกิจเดิม ก็เพราะขณะนี้เราได้ใช้กำลังการผลิตเกือบเต็ม (Full Capacity) หรือมากกว่า 90% แล้ว การที่เราจะไปเร่งขยายกำลังการผลิตก็คงยาก เพราะมันเสี่ยงต่อปริมาณการผลิตที่มากเกินความต้องการ ดร.นพ ชี้แจง ก่อนอธิบายต่อไปว่า

ยืนยันว่าการบริหารของผมจะไม่เกี่ยวกับเรื่องของราคาหุ้น เพราะนั่นเป็นกลไกของตลาด ...และกรณีที่ราคาหุ้น EWC สูงขึ้นมามากนั้น ถือเป็นความหนักใจ นั่นเพราะเราจะยิ่งต้องพยายามสร้าง...กำไรต่อหุ้น ให้ได้มากที่สุด

เขาแสดงความเห็นกรณีที่ โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ ขึ้นมาถือหุ้นใหญ่อยู่ใน EWC ว่า ผมก็ไม่เคยถามท่าน (โกมล) ว่า จะถือหุ้น EWC ยาวนานแค่ไหน แต่เชื่อโดยส่วนตัวว่า คุณโกมล จะถือหุ้นยาว

ถ้าคิดจะถือสั้นๆ แล้วจะเอามืออาชีพอย่างผมเข้ามาทำงานทำไม ท่านก็เพียงแต่หาวิธีสร้างราคาแล้วคอยซื้อๆขายๆไม่ดีกว่าเหรอ[/color:b1b85a6c1a">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com