May 14, 2024   6:10:21 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ตลาดวันนี้
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 30/09/2008 @ 09:28:39
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

.--บล.กิมเอ็ง

Distributor - Bisnews AFE

แนวโน้มตลาดวันนี้
มุมมองตลาด: หุ้นสหรัฐตกลงแรงคาดว่าจะทำให้หุ้นไทยเปิดตัวลงราว 4%-5% ไปที่ระดับ 570-
577 จุดในวันนี้
แนวคิดหลัก: แต่นักลงทุนก็อาจจะหาจังหวะเทรดลักษณะถูกขายลงมามากเกินไปและเก็งการฟื้นตัว
ของหุ้นต่อไปได้ ศักยภาพการเติบโตของกำไรบริษัทไทยและเสถียรภาพค่าเงินบาทยังเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้น

ปัจจัยตลาด:

* หุ้นไทยจะได้รับผลลบจากรัฐสภาสหรัฐฯ ไม่ผ่านร่างแผนฟื้นฟูวิกฤติการณ์เงินเมื่อคืนนี้
1. หุ้นสหรัฐฯ ลงหนัก 7%-9% จะทำให้เกิดแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ในวันนี้
2. ราคาทองคำ ปรับตัวขึ้นเพราะนักลงทุนเข้าไปหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัยมากขึ้น
3. ดอลลาร์ร่วงลง เทียบกับเงินเยนราวๆ 104 เยน เงินบาท คงตัวอยู่ประมาณ 34บาท/US$.
4. ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 10 ปี ตกลง 25 จุดเป็น 3.6%
5. น้ำมันดิบตกลง 10% เหลือ US$96.37 ต่อบาร์เรลบนความกังวลจากเศรษฐกิจสหรัฐหดตัวลง
จะเป็นผลลบต่อหุ้นพลังงานขนาดใหญ่ เช่น PTTEP, TOP, PTTAR และ BANPU
6. ค่าระวาง BDI ตกลง 6.5% เหลือ 3,504 จุดเมื่อคืนนี้

* ความตึงเครียดของการเมืองในประเทศยังมีต่อเนื่อง งจากความไม่เชื่อมั่นในศักยภาพของ
คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ อย่างไรก็ตามตลาดก็ได้สะท้อนความเสี่ยงดังกล่าวแล้ว

แนวการเทรดหุ้น:

* TRADERS may look to TRADE: นักเก็งกำไรอาจหาโอกาสเทรด:
1. BBL ที่ระดับราคาต่ำกว่า 97 บาทต่อหุ้น จากคาดการณ์มูลค่าทางบัญชีต่อหุ้นที่ 94 บาท
2. LH ที่ระดับราคาต่ำกว่า 6 บาทต่อหุ้น จากความสนใจต่อหุ้นกลุ่มอสังหาฯ ของนักเก็งกำไร
หลังจากที่หุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ถูกเทขายออกมาอย่างหนัก
3. DTAC ที่ระดับราคาต่ำกว่า 37 บาทต่อหุ้น จากกำไรของบริษัทในปี 2551 และในไตรมาส
3/51 ที่ค่อนข้างมีเสถียรภาพ
4. ITD ที่ระดับราคาต่ำกว่า 3.6 บาทต่อหุ้น จากต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวลงและการประมูล
โครงการขนส่งมวลชน
5. TTW at round Bt4.3/share on its defensive nature and capacity
growth ที่ราคาราว 4.3 บาทต่อหุ้น จากการขยายกำลังการผลิตและเป็นหุ้นประเภท defensive

* นักลงทุนอาจหาโอกาสสะสมหุ้น CPN, MINT, KBANK และ PTT จากพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง
และราคาน่าสนใจ

กลยุทธ์หุ้น
เก็งกำไร BBL ที่ราคาต่ำกว่า 97 บาทต่อหุ้น
BBL คาดว่ามูลค่าทางบัญชีต่อหุ้นในปีนี้จะอยู่ที่ 94 บาทต่อหุ้น ซึ่งนักวิเคราะห์เราคาดว่า BBL
ซึ่งเป็นธนาคารชั้นนำของไทยจะมีอัตราการขยายตัวของสินเชื่อในระดับเลข 2 หลัก และส่วนต่างอัตรา
ดอกเบี้ยจะดีขึ้นในปีนี้ แม้จะมีความกังวลต่อระบบการเงินของโลกก็ตาม

สัดส่วนการลงทุน
เราเพิ่มสัดส่วนการถือครองเงินสดเป็น 60% จากคาดการณ์ว่าดัชนีจะปรับตัวลงไปที่ระดับ
570-580 จุด และเป็นโอกาสดีที่จะเข้าเทรดหุ้น

สัดส่วนใหม่ สัดส่วนเดิม หุ้นหลัก
เงินสด 40% 50%
หุ้นขนาดใหญ่ 24% 20% BBL, KBANK, SCB, LH, ADVANC และ PTT
หุ้นไวต่อดัชนี 22% 18% BAY, TCAP, QH, AP, ITD และ DTAC
หุ้นมีประเด็น 14% 12% CPN, TTW, และ TVO
หุ้นขนาดเล็ก 0% 0%

หุ้นน่าจับตา
LH จะผจญแรงขายอีกระลอก แต่ระดับราคาที่ต่ำกว่า 6 บาทต่อหุ้นจะเป็นโอกาสดีในการเทรด
หุ้น จากแนวโน้มผลกำไรเติบโตโดดเด่นในปีนี้ รวมถึงศักยภาพในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับกิจการในระยะ
ปานกลางด้วย (จากการถือครองบริษัทพัฒนาอสังหาฯรายอื่น, ธนาคารเพื่อการพัฒนาอสังหาฯ, ร้านค้าปลีก
และการลงทุนในธุรกิจอื่นๆ)

สรุปข่าว

สภาคองเกรสล้มแผนกู้วิกฤต 7 แสนล้านเหรียญสหรัฐ (แปลจาก Bloomberg.com 30/9/51):
สภาคองเกรสลงมติด้วยคะแนนเสียง 228 ต่อ 205 เสียง ไม่รับรองร่างกฎหมายกอบกู้วิกฤติการ
เงินของรัฐบาลมูลค่า 700,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้นักลงทุนเทขายหุ้นออกมาอย่างหนัก เนื่องจาก
หวั่นวิตกว่าวิกฤติการเงินอาจจะเลวร้ายลงอีกและส่งผลให้ธนาคารและสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่หลายแห่งอาจ
ต้องล้มละลายหรือขายกิจการ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลสหรัฐฯกำลังปรับปรุงแผนดังกล่าวอีกครั้ง ก่อนเสนอกลับไปให้
สภาพิจารณาใหม่ในคืนวันพฤหัสบดีนี้

วิกฤต US สูญเสีย 1.5 ล้านล้านดอลล์ (ผู้จัดการรายวัน 30/9/51):
ก้องเกียรติ เผยมูลค่าความเสียหายจากวิกฤตการเงินสหรัฐฯ คงเหลืออีก 1 ล้านล้านดอลลาร์
สหรัฐ หลังรับรู้ไปแล้ว 5 แสนล้านดอลลาร์ รวมทั้งสิ้นกว่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ คาดต้องใช้เวลาคลี่คลาย
นานถึง 1 ปี ด้านแบงก์ชาติยัน สภาพคล่องในระบบแบงก์ไทยเพียงพอ และไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการ
เงินสหรัฐฯ

วิกฤติสินเชื่อกดดัน 3 ชาติยุโรป อัดฉีดฟอร์ติส 1.6 หมื่นล.ดอลล์ (กรุงเทพธุรกิจ 30/9/51):
เบลเยียม-เนเธอร์แลนด์-ลักเซมเบิร์ก ยันพร้อมลงขันแก้วิกฤติสินเชื่อผลพวงจากซับไพร์ม อัดฉีด
กว่า 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ บรรเทาปัญหาสภาพคล่องให้ ฟอร์ติส แบงก์ใหญ่สุดของภูมิภาค ด้านอังกฤษเล็ง
เทคโอเวอร์แบรดฟอร์ด แอนด์ บิงลีย์ แบงก์ปล่อยกู้อสังหาริมทรัพย์ใหญ่ที่สุดของประเทศหวังป้องเงินฝาก
เกือบ 4 หมื่นล้านดอลลาร์หลังจากธนาคารขาดทุนหนักฉุดหุ้นดิ่ง

สื่อ รุกทีวีดาวเทียมชิงเค้กโฆษณา (กรุงเทพธุรกิจ 30/9/51):
กฎหมายวิทยุทีวีเปิดทางเคเบิล-ทีวีดาวเทียมมีโฆษณา ขาใหญ่วงการสื่อประกาศแผนรุกผุดทีวีดาว
เทียมเพียบ คาดปีหน้าเม็ดเงินลงทุนทะลุพันล้าน "อสมท" เปิด 2 ช่อง เอ็มคอท 1 และ 2 ด้านจีเอ็มเอ็ม
แกรมมี่ ประเดิม 5 ช่อง เล็ง 3 ปี เปิดครบ 10 ช่อง ชี้ได้เปรียบคอนเทนท์และการตลาด

รถไฟฯเตรียมเซ็นสีแดงกับยูนิคต.ค.นี้ บางซื่อ-รังสิตส่อวุ่นเจบิคเงื่อนไขโหด (ข่าวหุ้น 30/9/51):
บอร์ดรถไฟฯ เห็นชอบผลประกวดราคาสีแดง บางซื่อ-ตลิ่งชันแล้ว เตรียมเซ็นสัญญาก่อสร้างกับ
UNIQ ต.ค.นี้ ขณะที่ช่วงบางซื่อ-รังสิต ส่อเค้ายุ่ง เหตุเจบิควางเงื่อนไขสุดโหดให้รถไฟฯรื้อย้ายชุมชนใน
เขตทางให้เสร็จภายใน 1 ปี ถึงจะปล่อยกู้ ผู้ว่ารถไฟฯยันรับไม่ได้จวกก้าวก่ายเกินเหตุ เตรียมหารือ สนข.
ขอคำชี้แนะ ก่อนเจรจาต่อรองลดเงื่อนไขอีกครั้ง

รฟท.ไฟเขียวเซ็นทรัลเช่าที่ลาดพร้าว20ปี (โพสต์ทูเดย์ 30/9/51):
บอร์ดรถไฟได้อนุมัติตามที่คณะกรรมการมาตรา 13 ของ พ.ร.บ.การร่วมทุน ที่เห็นชอบให้ต่อ
สัญญาให้กับผู้รับสัมปทานเดิมคือ กลุ่มเซ็นทรัลพัฒนาที่จะให้ต่ออายุ 20 ปี คิดมูลค่าปัจจุบันที่ 1.15 หมื่นล้าน
บาท และมีค่าปรับปรุงอาคารอีก 2,400 ล้านบาท และเมื่อนำมารวมกับค่าดอกเบี้ยในอนาคตอีก 5-6% แล้ว
จะทำให้ ร.ฟ.ท.ได้รับเงินจากสัญญานี้ตลอดระยะเวลา 20 ปี รวม 2.15 หมื่นล้านบาท (ไม่รวมค่าปรับ
ปรุงอาคาร) อย่างไรก็ตาม หากกลุ่มเซ็นทรัล มีรายได้เกินกว่าที่ประมาณการไว้ ก็จะแบ่งส่วนแบ่งรายได้
ให้กับ ร.ฟ.ท.อีก 5%

ยอดใช้จ่าย เคทีซี ไตรมาส 3 ขยาย 10% (กรุงเทพธุรกิจ 30/9/51):
นายวรวุฒิ นิสภกุลธร ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการตลาดและส่งเสริมการขาย
บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ เคทีซี เปิดเผยว่า ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรไตรมาส 3 เติบโต
ถึง 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งๆ ที่ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมไม่ค่อยดีนัก

TUF ให้บ.ย่อยทุ่มเกือบ 70 ล้านบาทซื้อ"เอสออฟไดมอนด์"เสริมแกร่ง (ผู้จัดการรายวัน 30/9/51):
TUF ให้ ไทร-ยูเนี่ยน ซีฟู้ดส์ ซื้อเครื่องหมายการค้า "เอสออฟไดมอนด์" มูลค่า 2 แสนเหรียญ
สหรัฐ เพื่อเสริมความแกร่งให้เครื่องหมาย ชิคเก้นออฟเดอะซี ในตลาดปลาทูน่าบรรจุกระป๋องที่สหรัฐ
อเมริกา

สาระ มั่นใจฟอร์ติสไม่ทิ้งหุ้น ย้ำฐานะปึ้ก ล่ำซำ-กสิกรไทย กุมหุ้นใหญ่ 75% (กรุงเทพธุรกิจ 30/9/51):
เมืองไทยประกันชีวิต ชี้ฟอร์ติสแบงก์ประสบปัญหาการเงินไม่ส่งผลต่อบริษัท เหตุฟอร์ติสอินชัวรันส์ฯ
ซึ่งถือหุ้น 24.99% ยืนยันไม่มีนโยบายขายหุ้นในเมืองไทยออก ย้ำหนักแน่นตระกูลล่ำซำ-กสิกรไทยถือหุ้นใหญ่
รวมกันถึง 75% ด้านเมืองไทยประกันภัย ก็เชื่อฟอร์ติสจะไม่ขายเงินลงทุนในบริษัท ลงทุนมานาน-พอใจกำไร
ที่ดี

HMPRO คึกส่งท้ายปี เอ็กซ์โปดัน 500 ล้าน (ข่าวหุ้น 30/9/51):
HMPRO ทุ่มงบ 100 ล้านบาท จัดงานโฮมโปรเอ็กซ์โปครั้งที่ 8 ลดสูงสุด 80% เพิ่มโซนให้ครบ
วงจรดึงคน 700,000 คนดันยอดขายเพิ่ม 500 ล้านบาท ครึ่งปีหลังยังโต"ณัฏฐ์"มั่นใจปีนี้โต 15% จากเพิ่ม
สาขา-จัดโปรโมชั่น

SVI ยอดขาย 7 พันล้าน ออเดอร์ตปท.ทะลัก ดันมาร์จิ้นขยับอีก11% (ข่าวหุ้น 30/9/51):
SVI คงเป้ายอดขายปี51 ที่ระดับ 210 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 7,000 ล้านบาท
เนื่องจากยังมีคำสั่งซื้อจากลูกค้าในยุโรปและสหรัฐเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เงินบาทที่อ่อนค่าส่งผลดีต่ออัตรา
กำไรขั้นต้น ดันมาร์จิ้นปีนี้สูงขึ้นเป็น 11% ส่วนโรงงานใหม่ได้เห็นปี 2553

:lol:

 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#1 วันที่: 30/09/2008 @ 09:29:24 :
.--รอยเตอร์


*นักวิเคราะห์คาดหุ้นไทยวันนี้ปรับลงตามตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยมองว่านักลงทุน

ต่างชาติยังจะเทขายหุ้นไทยต่อเนื่อง จากความกังวลวิกฤติสถาบันการเงินโลก หลัง

สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ไม่ผ่านแผนการให้ความช่วยเหลือภาคการเงิน ขณะที่ราคา

น้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับลงแรง จะฉุดหุ้นในกลุ่มพลังงาน

*ตลาดหุ้นสหรัฐปิดเมื่อวานนี้ทรุดตัวลงอย่างหนัก โดยดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลง 777.68

จุด หรือ 6.98% ซึ่งเป็นการปรับลดลงรุนแรงที่สุด หลังสมาชิกสภานิติบัญญัติสหรัฐ

ปฏิเสธแผนฟื้นฟูภาคการเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งสร้างความวิตกให้กับ

นักลงทุนที่กังวลกับอนาคตของตลาดทั่วโลก และภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ

*ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนพ.ย.ปิดเมื่อวานนี้ ทรุดลง

10.52 ดอลลาร์ หรือ 9.84% มาที่ 96.37 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังสภาผู้แทน

ราษฎรสหรัฐ ไม่เห็นชอบแผนช่วยเหลือภาคการเงินวงเงิน 7 แสนล้านดอลลาร์

*สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติวานนี้ คว่ำร่างกฎหมายฟื้นฟูภาคการเงิน วงเงิน 7

แสนล้านดอลลาร์ด้วยคะแนนเสียง 228-205 เนื่องจากมีความไม่มั่นใจเกี่ยวกับ

ความจำเป็นของมาตรการดังกล่าว และประสิทธิภาพในการกระตุ้นตลาด

*วันจันทร์ต่างชาติขายสุทธิ 1.30 พันลบ.จากวันศุกร์ขายสุทธิ 300.64 ลบ.

*เช้านี้บาท/ดอลลาร์อยู่ที่ 34.09/12 จากเมื่อวันจันทร์ อยู่ที่ 34.04/07


"วันนี้ ตลาดคงลงแรงตามตลาดหุ้นในภูมิภาค...วันนี้น่าจะลงได้ประมาณ 3-3.5%

แนวรับวันนี้อยู่ที่ 580 และ 575" นายโกสินทร์ ศรีไพบูลย์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์

บล.ยูโอบี เคย์เฮียน(ประเทศไทย) กล่าว

เขาคาดว่า วันนี้นักลงทุนต่างชาติ ยังจะเทขายหุ้นไทยต่อเนื่อง และน่าจะขายใน

ปริมาณที่สูงระดับเป็นพันล้านบาทเหมือนเมื่อวานนี้ ซึ่งปัจจัยหลักก็ยังมาจากความวิตกปัญหา

สถาบันการเงินสหรัฐฯที่ลุกลามอยู่ในขณะนี้

ขณะที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวลงแรงเมื่อคืนนี้ ยังจะทำให้มีแรงเทขายหุ้น

ในกลุ่มพลังงานด้วย นอกจากนี้ อาจจะเริ่มมีการบังคับขายเกิดขึ้นสำหรับหุ้นขนาดกลางและ

เล็กหากตลาดปรับตัวลงแรง

นายโกสินทร์ แนะว่า สำหรับนักลงทุนระยะยาว ให้ชะลอการลงทุนไปก่อน เนื่องจาก

เชื่อว่าผลกระทบจากปัญหาสถาบันการเงินสหรัฐน่าจะยังไม่ยุติ โดยเฉพาะประเทศจีนและญึ่ปุ่น

ที่ขณะนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ เกี่ยวกับผลกระทบดังกล่าว

สำหรับนักลงทุนระยะสั้น ให้รอดูสถานการณ์จากนี้ 1-2 วัน เพื่อดูว่าหลังสภาฯสหรัฐ

ไม่ผ่านแผนการให้ความช่วยเหลือภาคการเงินแล้ว ผลกระทบที่เกิดขึ้นจะเป็นอย่างไร โดย

ให้รอจังหวะเข้าซื้อที่แนวรับ 580 และ 575 และขายทำกำไร เมื่อหุ้นดีดกลับ


ดัชนีตลาดหุ้นสำคัญ

*ดัชนีตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันจันทร์ ปิดลบ 17.68 จุด หรือ 2.86% มาที่ 601.29

ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 10,050 ล้านบาท

*ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เมื่อวันจันทร์ ปิดลบ 777.68 จุด หรือ 6.98% มาที่

10,365.45 และดัชนีแนสแดค ปิดลบ 199.61 จุด หรือ 9.14% มาที่ 1,983.73

*ตลาดหุ้นในภูมิภาคเช้านี้ปรับลง โดยสิงคโปร์ ลบ 3.52%, ฮ่องกง ลบ 4.48%,

เกาหลีใต้ ลบ 2.71%, ญี่ปุ่น ลบ 4.64% และไต้หวัน ลบ 6.03%


จับตาหุ้น

*GRAMMY คาดปีนี้กำไรสุทธิราว 30-40%, เปิดตัวธุรกิจทีวีดาวเทียม

*BT คาดกำไร Q3/51 ดีกว่า Q2 หลังบันทึกกำไรขาย CDO

*UNIQ หนังสือพิมพ์เผย รฟท.จะเซ็นสัญญาจ้างรับเหมาก่อสร้างรถไฟสีแดงในต.ค.

*MTI ระบุไม่ได้รับผลกระทบกรณีฟอร์ติสประสบปัญหา, ถือหุ้นเพียง 10%

*OISHI ผู้ถือหุ้นไทยเบฟเวอเรจ มีมติให้ซื้อหุ้นบริษัทแล้ว 43.9% ราคาหุ้นละ 37 บาท--จบ--

:lol:
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#2 วันที่: 30/09/2008 @ 09:30:04 :
.--บล.บีที

Distributor - Bisnews AFE

กย - ตค ประกาศผลการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง
ตค Matching Fund เริ่มลงทุนในตลาดฯ
8 ตค ธปท. กำหนดทิศทางดอกเบี้ย

Market Outlook
* ทิศทางตลาดวันนี้ ปรับตัวลดลงรุนแรงตามตลาดต่างประเทศ
* สภานิติบัญญัติสหรัฐคัดค้านแผนกอบกู้ภาคการเงินสหรัฐ
* ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลดลมากที่สุดเป็นประวัติการณ์
* ราคาน้ำมันส่งมอบเดือน พ.ย. -US$10.52/Barrel
* แรงขายจากนักลงทุนต่างชาติ
* ความกังวลต่อปัญหาภาคการเงินทีคาดว่าจะลุกลามไปถึงยุโรบ
* Market Outlook Recommends: PTTEP, SCB

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ปัจจัยบวก
ไม่มี

ปัจจัยลบ
1) ตลาดหุ้นต่างประเทศ DJIA - 777.68 จุด NASDAQ -199.61 จุด, DAX -209.9 จุด,
ตลาดหุ้นทั้งสหรัฐและยุโรบปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง หลังจากที่สมาชิกสภานิติบัญญัติคัดค้านแผนการช่วยเหลือ
ภาคการเงินวงเงิน 7 แสนล้านดอลลาร์ ทำให้นักลงทุนแห่เทขายหุ้นออกมาถือพันธบัตรสหรัฐแทนเพื่อลด
ความเสี่ยง
2) ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน พ.ย. ลดลง US$ 10.52/Barrel อยู่ที่ US$
96.37 /Barrel จากความกังวลต่อแนวโน้มการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจทั่วโลก
3) ต่างชาติขายสุทธิ 1,304.03 ล้านบาท ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปี -124,435 ล้านบาท

ทิศทางตลาดวันนี้
ทิศทางตลาดวันนี้ ตลาดหุ้นไทยคงจะหนีไม่สามารถหลีกเลี่ยงข่าวร้ายในวันนี้ไปได้ เราคิดว่าตลาดน่า
จะมีโอกาสปรับตัวลดลงไปถึงระดับ 570 จุด ซึ่งคิดเป็นระดับ PE08 SET ประมาณ 9.5 เท่า เราคิดว่า
หุ้นกลุ่มพลังงาน และ หุ้นสถาบันการเงิน คงจะได้รับผลกระทบมากที่สุด แต่เราไม่แนะนำให้ Cut Loss ที่
ระดับดัชนีต่ำกว่า 570 จุด เนื่องจากราคาหุ้นไม่น่าจะปรับลดลงไปมากกว่าระดับดังกล่าวมากนัก สำหรับหุ้น
ในกลุ่มอื่นๆ ไม่จำเป็นต้อง Cut Loss เนื่องจากราคาหุ้นไม่น่าจะปรับตัวลงรุนแรงเท่า 2 กลุ่มแรก
สำหรับการลงทุนในช่วงนี้สำหรับคนที่มีสภาพคล่องเหลืออยู่ น่าจะใช้กลยุทธ์เดิม คือทยอยสะสมหุ้นฟื้นฐานดี
โดยเฉพาะบริเวณดัชนีประมาณ 570 จุด เช่น TOP, PTT, BEC, MAJOR, LH, TSTH, TTA, ADVANC
เป็นต้น
:lol:
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com