.--บมจ. หลักทรัพย์ เอเชีย พลัส

Distributor - Bisnews AFE

SET แกว่งตัว.. รอแผนฟื้นฟูสหรัฐ

ภาพวันวาน
อิทธิพลการปรับตัวลงของตลาดหุ้นต่างประเทศ กดดันให้ดัชนีตลาดหุ้นไทย ปรับตัวลงในทิศทางเดียว
กัน ปิดตลาดดัชนีปรับตัวลง 2.17 จุด พร้อมมูลค่าการซื้อขายที่ลดลงเหลือเพียง 7,378 ล้านบาท ต่างชาติ
ยังขายสุทธิ ต่อเนื่อง ด้วยมูลค่า 300.64 ล้านบาท

การลงทุนชะลอตัว รอความชัดเจนแผนฟื้นฟูวงเงิน 7 แสนล้านเหรียญสหรัฐ
ตลาดทั่วโลกทั้งในตลาดเงินและตลาดทุน ยังคงรอผลสภาคองเกรสลงมติแผนฟื้นฟูภาคการเงินของ
สหรัฐวงเงิน 7 แสนล้านเหรียญฯ ในขณะที่ล่าสุด ธ.พ ขนาดใหญ่อันดับ 2 คือเจพีมอร์แกน ได้เข้าซื้อ
กิจการวอชิงตัน มิวชวล (WAMU) ช่วยหนุนความเชื่อมั่นนักลงทุน และน่าจะส่งผลให้ดัชนี DJIA แกว่งตัวใน
กรอบ 11,000-11,500 จุดในระยะสั้น ซึ่งจะเป็นอิทธิพลต่อตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียให้ผันผวนตามใน
ระยะสั้นนี้ด้วยเช่นกัน และช่วยให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเหนือค่าเงินสกุลเอเชียโดยในระยะ 1
สัปดาห์ที่ผ่านมา ค่าเงินวอนอ่อนค่าสูงสุดในภูมิภาคเอเชีย 1.82% ตามมาด้วย รูปีย์ และเปโซ 1.55%
และ 0.41% ตามลำดับ ตรงกันข้ามกัลเงินบาทไทยกลับแข็งค่าเหนือดอลลาร์สหรัฐราว 0.70% ในระยะ 1
สัปดาห์ที่ผ่านมา และเนื่องจากยังมีแรงกดดันจากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ คาดว่าจะทำให้เงินบาท
แกว่งตัวในกรอบ 33.7-34.2 บาทต่อเหรียญฯ ส่งผลให้ทิศทางตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวผันผวนในกรอบการ
แกว่งตัว 580-640 จุด

ราคาสินค้าโภคภัณฑ์แกว่งตัว จากความกังวลต่อภาคการเงินโลก
ด้วยปัญหาภาคการเงินในสหรัฐ นอกเหนือจากก่อให้เกิดความผันผวนในการลงทุนในตลาดทุนดังกล่าว
ข้างต้นแล้ว ยังส่งผลให้ภาวะการลงทุนในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์มีความผันผวนในระยะสั้นด้วยเช่นกัน โดยใน
ระยะ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทองคำดีดตัวขึ้นมาสร้างฐานที่บริเวณ 860-900 เหรียญฯต่อออนซ์ ในขณะที่
น้ำมันดิบดูไบแกว่งตัวในกรอบ 96-100 เหรียญฯต่อบาร์เรล ทั้งนี้ คาดว่าหากเกิดความชัดเจนต่อแผนการ
ฟื้นฟูภาคการเงินของสหรัฐในเชิงบวกแล้ว คือแนวทางการใช้วงเงิน 7 แสนเหรียญฯ เกิดขึ้นอย่างเป็น
รูปธรรมได้ในทันที จะทำให้เกิดแรงขายทำกำไรระยะสั้นในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ อย่างไรก็ตาม สำหรับใน
ส่วนของน้ำมันนั้น เชื่อว่าจะสามารถยืนเหนือแนวรับ 90 เหรียญฯต่อบาร์เรลได้ บวกกับหากพิจารณาราคา
เฉลี่ยจากต้นปีจนถึงปัจจุบันอยู่ที่ 107 เหรียญฯต่อบาร์เรล ซึ่งใกล้เคียงกับสมมุติฐานของฝ่ายวิจัย ASP ที่
ระดับ 100 เหรียญฯต่อบาร์เรล จึงยังแนะนำรอการอ่อนตัวเพื่อซื้อและทำกำไรตามการแกว่งตัวของราคา
หุ้น PTT และ PTTEP

INVESTORS PLUS
แนวรับ / แนวต้านใน 1 สัปดาห์ของดัชนีตลาด : 580/650 จุด
ตลาดวันนี้ : คาดวันนี้ดัชนีแกว่งตัวด้านข้าง แนวรับ 610 จุด แนวต้าน 630 จุด
กลยุทธ์วันนี้ : เก็งกำไรระยะสั้นในกรอบแนวรับ และแนวต้านของหุ้นรายตัว SCB(70/75),
KBANK(64/70), SCC(133/143)

:lol:

.--บมจ.ซิกโก้

Distributor - Bisnews AFE

สัปดาห์แห่งความหวัง
* ในปลายอาทิตย์ที่ผ่านมาเราคงจะทราบผลว่าแผนที่จะเข้าไปซื้อหนี้ของสถาบันการเงินมูลค่า 700
พันล้านดอลลาร์ จะออกมาอย่างไร หากแผนนี้ผ่านในเงื่อนไขเดิมคือ ได้รับเงินเต็มจำนวนที่ขอ โดยไม่แยก
จ่ายเป็นงวด ๆ ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน แต่หากผลการเจรจาของ 2 พรรคการ
เมืองสหรัฐที่จะยอมรับในแผนยังไม่ลงเอยในสัปดาห์นี้ก็คงจะรู้เรื่อง มีการเปรียบเทียบไว้ว่าวิกฤติทางการ
เงินที่เคยในโลกนี้ เม็ดเงินที่เข้าไปช่วยเหลือในวิกฤตครั้งนี้จะมากที่สุดคือที่ประมาณ 1000 พันล้านดอลลาร์
เมื่อเทียบกับครั้งที่เกิดในสหรัฐในปี 1986-95 ที่เรียกว่า Saving & Loan ที่ใช้เงินไป 273 พันล้าน
ดอลลาร์ หลังจากนั้นก็เป็นวิกฤติการเงินในญี่ปุ่นปี 1990-99 ใช้เงินไป 745 พันล้านดอลลาร์และครั้งสุด
ท้ายคือ วิกฤติเศรษฐกิจในเอเชียปี 1998-99 ใช้เงินไป 404 พันล้านดอลลาร์
* หากแผนความช่วยเหลือสถาบันการเงินในสหรัฐสามารถผ่านไปได้ อย่างน้อยจะช่วยสร้างความ
เชื่อมั่นให้กับระบบการเงิน และพยุงไม่ให้ราคาสินทรัพย์หรือหนี้เสียปรับตัวลงไปลึกมากจนที่สุดไม่สามารถที่
จะรื้อฟื้นกลับมาได้ แม้ตัวแผนจะยังมีข้อถกเฉียงในแง่ของรายละเอียดในการเข้าซื้อว่าจะซื้ออย่างไร?
กรอบของระยะเวลาและใช้อะไรเป็นมาตรฐานในการซื้อ ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้คงต้องดูไปอีกระยะหนึ่ง
เพราะแผนที่ร่างขึ้นมาเป็นแผนฉุกเฉิน ที่อาจจะต้องมาปรับเปลี่ยนในรายละเอียดอีกที แต่ที่สำคัญที่สุดในช่วง
ของการเกิดวิกฤติทั้งหมด คือการเรียกความเชื่อมั่น ซึ่งต้องการความรวดเร็วในการเข้าไปดูแลแม้จะมี
ความเจ็บปวดเกิดขึ้นในภายหลังก็ตาม ตรงนี้รัฐบาลสหรัฐ น่าจะกลับมาดูว่าสิ่งที่สหรัฐ เคยแนะนำประเทศ
ในเอเชียช่วงเกิดวิกฤติปี 1997 ว่าห้ามนำเงินภาษีเข้าไปช่วยสถาบันการเงินที่ล่ม แต่ตอนนี้กลับเป็นว่า
สหรัฐเป็นเสียเอง
* ความผันผวนที่จะเกิดในสัปดาห์นี้ว่าจะมากหรือน้อย ยังต้องจับตาดูว่าแผนการซื้อหนี้มูลค่า 700 พัน
ล้านดอลลาร์ จะผ่านหรือไม่เร็วที่สุดคงจะทราบในเสาร์หรืออาทิตย์ที่ผ่านมา แต่หากยืดเยื้อในสัปดาห์นี้คงรู้
ผล ในทางกลับกันหากไม่ผ่านแล้วมีแผนอื่นมาใช้แทน เรามองว่าจะอันตรายเพราะหากเวลาที่ยื้อออกไปอีก
จะส่งผลต่อความเชื่อมั่น โดยดูได้จากคำพูดของนาย Paulson รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐ ที่พูดไว้
เมื่อวันที่ 18 ก.ย. ว่า If the $ 700 billion doesn t pass, then heaven help us all.
คำพูดตรงนี้พอจะชี้ให้เห็นว่าระบบการเงินสหรัฐกำลังอยู่ในวิกฤติอย่างมาก ปัจจุบันดัชนีที่แสดงความผันผวน
ของดาวโจนส์ ยังทรงตัวเหนือระดับ 30 คืออยู่ที่ 32 แต่ก็ลดลงจากจุดสูงสุดที่ 35 ตรงนี้มองได้ว่าความ
ผันผวนของตลาดหุ้นดาวโจนส์ยังมีอยู่ หากจะให้ปลอดภัย ต้องให้ดัชนี VIX ปรับตัวลงต่ำกว่า 30 เพราะ
ระดับนี้จากข้อมูลในอดีต เมื่อลงต่ำกว่า 30 แล้วส่วนใหญ่จะลงต่อไปอีก
* ดังนั้นในช่วงต้นสัปดาห์นี้ ดัชนี SET จะปรับตัวขึ้นตามข่าวดีในดาวโจนส์ และอาจจะมีข่าวดีใน
ประเทศหนุน คือการทำดัชนีเพื่อปิดงบรายไตรมาส

:lol: