Toon
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 973 |  วันที่: 25/09/2008 @ 14:12:36 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต ระวังหุ้นไทยชอบสวนชาวบ้าน! (คิดว่าขึ้นกลับลง คิดว่าลงกลับขึ้น)
ลุ้นดาวโจนส์เด้ง! รับข่าวบริษัท Berkshire Hathaway ของนาย Warren Buffet
เข้าลงทุน 5 พันล้านดอลลาร์ ใน Goldman Sachs ส่งผลให้ Dow Jones Future พุ่งสูงขึ้น ทำให้นัก
ลงทุนคาดหวังว่าเปิดตลาดหุ้นสหรัฐจะปรับตัวขึ้นเช่นกัน รวมถึงข่าวสภาคองเกรสสามารถบรรลุเงื่อนไขใน
แผนกู้วิกฤตการเงิน 7 แสนล้านดอลลาร์ ในเบื้องต้นแล้ว เหลือแต่ข้อตกลงในการบรรจุเงื่อนไขเพิ่มเติม
โดยเฉพาะประเด็นปรับค่างวดในการชำระหนี้เงินกู้จากการจำนองให้ต่ำลง บริษัทที่โอนหนี้เสียให้รัฐบาล
เข้าไปดูแล และรัฐบาลจะต้องถือหุ้นในบริษัทที่ขายหนี้เสียให้รัฐบาล ดังนั้นหากทุกอย่างบรรลุข้อตกลงกันได้
แล้ว คาดว่าสภาคองเกรสจะผ่านความเห็นชอบแผนกู้วิกฤตการเงินได้อย่างเร็วในสัปดาห์นี้ ทำให้นักลงทุน
คาดหวังว่าหุ้นกลุ่มการเงินของสหรัฐน่าจะพุ่งรับข่าว ส่วนนักลงทุนชาวไทยประเภทหูไวตาไวเข้าเก็งกำไร
ล่วงหน้าในหุ้นกลุ่มธนาคารกันอย่างคึกคัก โดยเฉพาะ BAY BBL KBANK และ SCB สำหรับผลที่คณะ
กรรมการธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด เห็นชอบให้ Morgan Stanley และ Goldman Sachs เปลี่ยน
สถานะเป็นธนาคาร ทำให้ Morgan และ Goldman ต้องทำตามกฎของธนาคารพาณิชย์ในการดำเนินการ
ลงทุนเพียง 12 เท่าของเงินกองทุนตามเกณฑ์ BIS อยู่ที่ 8.5% ขณะที่ทั้ง 2 บริษัทลงทุนเกินกว่าเกณฑ์
โดย Morgan มีเงินลงทุนสูงกว่ากองทุนถึง 24 เท่า ส่วน Goldman มีเงินลงทุนสูงกว่ากองทุนประมาณ
30 เท่า จึงมองว่าในอนาคตน่าจะมีการขายสินทรัพย์ด้อยสภาพและหนี้เสียออกมา อย่างไรก็ตาม ถ้า
ทุกอย่างจบลงได้ง่ายๆ อย่างที่กล่าวมาทั้งหมดก็คงจะดี ซึ่งจะทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐที่เป็นตลาดหลักที่มีส่วนชี้นำ
ตลาดทั่วโลก แต่ดูความไม่เป็นเอกภาพของผู้มีอำนาจในการตัดสินใจทั้งในสภาคองเกรส เฟด และ รม
ว.คลังสหรัฐ ทำให้เกิดอาการหวั่นใจว่าแผนฟื้นฟูในภาคปฏิบัติจะเป็นไปได้ยาก แม้เบื้องต้นมีลุ้นว่าจะสรุป
แผนได้โดยเร็ว แต่คำถามที่ถกเถียงในสภาคองเกรสดูเหมือนจะหาทางออกได้ค่อนข้างยากอยู่ที่ 1.กองทุน
ดังกล่าวมีขอบเขตนิยามการซื้อหนี้เสียครอบคลุมขนาดไหน! และอะไรจะเป็นตัวชี้วัดว่าสามารถประเมินหนี้
ทั้งระบบได้ครบถ้วนจริงหรือ! และหากต้องใช้เงินมากถึงระดับล้านล้านดอลลาร์ เงินจะมาจากไหน 2.
ราคาซื้อหนี้จะต้องถูกต่อรองส่วนลดเท่าไร! เพราะคาดว่าสถาบันการเงินจำนวนมากเตรียมพร้อมต่อการ
ขายหนี้เสียอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เพื่อแลกกับสภาพคล่อง ขณะเดียวกันแต่ละแห่งย่อมมีคุณภาพหนี้และการตั้ง
สำรองที่ไม่เท่ากัน ฉะนั้นการนำเงินภาษีจากประชาชนมาแบกรับภาระ มันต้องถูกมองถึงความชอบธรรม
และรัฐต้องระวังผลเสียหายในการนำเงินภาษีมาช่วยเหลือให้กระทบน้อยที่สุด ดังนั้นจะเห็นการต่อรองครั้ง
ใหญ่ ต่ำๆ ก็ต้องลดจากมูลค่าทางบัญชีราว 85-90% นั่นหมายความว่าธุรกิจต่างๆ ที่ได้รับการช่วยเหลือ
สภาพคล่อง ต้องยอมรับกับการบันทึกขาดทุนทันที ซึ่งประเมินได้เลยว่าราคาหุ้นในกระดานคงต้องปรับตัวลง
ตามแน่ จึงอยู่ในสถานะที่ต้องจับตาต่อไป ไม่ใช่ว่าสภาคองเกรสอนุมัติแผนและมีการจัดตั้งกองทุนขึ้นมาแล้ว
จะหมายความว่าเป็นยาวิเศษที่สามารถแก้ปัญหาของระบบการเงินได้ทันที หรือทำให้ Fundamental
เปลี่ยนแปลง ฟันธงมาเนีย ยังมีความเห็นเหมือนเดิมอย่างที่ได้เคยเขียนไว้แล้ว ในช่วงผันผวนตามข่าวราย
วัน วันไหนมีข่าวดีหุ้นก็ขึ้น วันไหนมีข่าวร้ายหุ้นก็ลง กลยุทธ์ในสถานการณ์เช่นนี้ต้องเข้าให้ถูกจังหวะจึงจะ
ได้มีกำไร และที่แปลกประหลาดสำหรับหุ้นไทยเดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย "เค้าขึ้น เราลง" ต้องระวังให้ดีอย่า
ชะล่าใจเด็ดขาด ไม่ใช่นั้น "เสร็จทุกราย" สำหรับแนวโน้มตลาดวันนี้ ต้องระวังแรงขายทำกำไรแถวๆ
620 - 630 จุด และรอซื้อคืนที่ 610 - 605 จุด สอยเล่นสั้น BT คาดว่า รมว.คลังคนใหม่ จะตัดสินใจ
ตัดขายหุ้นให้ CIMB ทันตามกำหนด สำหรับเทคนิคมีสัญญาณกลับตัวขึ้น คาดว่ามีลุ้นทดสอบ EMA 200 วัน ที่
1.58 บาท หรือ 1.65 บาท พร้อมระวังแรงขายหากหลุด 1.40 บาท และตัดขาดทุนหากหลุด 1.34 บาท
By วีระชัย ครองสามสี[/size:eb7d9c88b4">
|
