Toon สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 973 | วันที่: 18/09/2008 @ 09:07:21 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต ดัชนีหุ้นวันที่ 17 ก.ย. 51 ปิดที่ 605.14 จุด ลดลง 19.42 จุด นิวโลว์รอบกว่า 4 ปี มีมูลค่าการซื้อขาย 15,114 ล้านบาท ต่างชาติ ขายสุทธิ 2,161.70 ล้านบาท
ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ไซรัสชี้ว่า วิกฤติการเงินสหรัฐฯส่ง ผลให้นักลงทุนต่างชาติและกองทุนเทขายหุ้นออกมาอย่างหนัก และยังเป็นที่วิตกกันไปทั่วโลกว่าวิกฤติครั้งนี้จะทำให้ สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯล้มละลายเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ มองแนวโน้มตลาดคาดว่าดัชนีมีโอกาสปรับตัวลงต่อจากแรงขายของกองทุนต่างชาติที่ยังคงเทขายหุ้นออกมาต่อเนื่อง ส่วนการเมืองในประเทศต้องจับตาว่าการเข้ามาของนายกรัฐมนตรีคนใหม่จะช่วยให้ความขัดแย้งคลี่คลายลงได้หรือไม่
ยังคงแนะให้ชะลอการลงทุนและถือเงินสด ด้านเทคนิคให้แนวรับไว้ที่ 600 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 610 จุด บทวิเคราะห์ บล.ฟินันซ่าระบุว่า ตลาดหุ้นเอเชียปันป่วน ถ้วนหน้าเพราะผวาพิษซับไพร์มสหรัฐฯ แม้ผลกระทบทางตรงต่อไทยยังอยู่ในวงจำกัด แต่ผลกระทบทางอ้อมใหญ่หลวงนัก
ดังนั้น การที่ความเสี่ยงมีสูงขึ้นแต่ราคาหุ้นยังดิ่งลงแรง การลงทุนช่วงนี้จึงต้องใช้กลยุทธ์ หากดัชนีลงแรงให้ซื้อ-ดัชนีดีดขึ้น (แรง) รีบขาย ขณะที่ดัชนีระยะสั้นยังมีลุ้นรีบาวน์
ปิดท้าย มนตรี ศรไพศาล บิ๊กกิมเอ็งชี้ว่า ตลาดหุ้นไทยได้รับผลกระทบจากวิกฤติซับไพร์มรวมถึงการล้มละลายของเลห์แมนฯ น้อยกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค เพราะไทยได้รับบทเรียนจากวิกฤติเศรษฐกิจปี 40 ทำให้มีความระมัดระวังการลงทุนมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ปัจจัยที่ทำให้หุ้นไทยน่าสนใจคือหุ้นราคาถูก P/E แค่ 8.4 เท่า ราคาน้ำมันปรับตัวลงทำให้อัตราเงินเฟ้อลดลง แต่ต้องติดตามสถานการณ์ต่างประเทศเพื่อหาจังหวะลงทุน.
ไทยรัฐ ปีที่ 59 ฉบับที่ 18503 วันพฤหัสบดี ที่ 18 กันยายน 2551[/size:ba6d6d43ed">
|