kaisel สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 3,380 | วันที่: 07/08/2008 @ 09:09:06 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต .--บล. โกลเบล็ก
Distributor - Bisnews AFE
SET 676.35 +9.23 +1.38%
H / L : Day 678.80 / 667.17
H / L : Week 679.12 / 661.02
H / L : Year 886.57 / 660.16
แนวโน้มกลับตัวขึ้นต่อ
ระยะสั้น ดัชนีเกิดแนวกลับตัว DOUBLE BOTTOM พร้อมเกิดแท่งเทียน HAMMER ซ้อนกัน เพิ่มน้ำหนัก
ผ่านยืนแนวต้าน SMA 5 วัน เป็นแรงซื้อต่อเนื่องเกิดแรงส่งดัชนีให้ขึ้นต่อ
ระยะสั้น ดัชนีแนวโน้มกลับตัวขึ้นต่อหลังสร้างแนวรับจุดต่ำที่ 660 เกิดรูปแบบกลับตัว DOUBLE
BOTTOM ตามมา มักจะเกิดในช่วงที่เปลี่ยนแนวโน้มเป็นขึ้น เมื่อเสริมกับค่าสัญญาณทางเทคนิค RSI ที่แกว่ง
ตัวขึ้นและอยู่ในระดับต่ำกลับมาสอดคล้องกับค่าสัญญาณ MACD ที่แกว่งตัวเป็นขาขึ้นต่อเนื่องตลอดทางการปรับ
ตัวลงของดัชนี จากภาพที่กลับมาสอดคล้องขาขึ้นของค่าสัญญาณและมีสัญญาณบวกเสริมแท่งเทียน ทำให้ดัชนีมี
แนวโน้มกลับตัวขึ้นต่อ แต่การขึ้นไม่มีความรุนแรงเนื่องจาก VOLUME ไม่ได้เพิ่มตามอย่างมีนัยสำคัญ แต่ยัง
เป็นจังหวะเล่นรอบระยะสั้นได้เนื่องจากยังมีช่วงห่างการขึ้นที่เป้าหมายกรอบขาลง 685 การขึ้นต่อเนื่องยัง
คงต้องมี VOLUME ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ กลยุทธ์ ซื้อเก็งกำไรระยะสั้นมีโอกาสกลับตัวขึ้น
ระยะกลาง ดัชนีเริ่มสร้างแนวรับ DOUBLE BOTTOM เป็นแนวรับที่มีภาวะ OVER SOLD และค่า
สัญญาณทางเทคนิคเป็นบวกมากขึ้นจาก MACD เสริมดัชนี มีโอกาสสร้างกรอบจำกัดขาลงให้แคบมากขึ้น ทำ
ให้การปรับตัวช่วงนี้จะเป็นจังหวะเริ่มซื้อถือระยะกลางบางส่วนโดยมีแนวรับตามกรอบที่ 770-660 เป็น
แนวรับเริ่มต้นในการซื้อสะสม กลยุทธ์ ปรับตัวซื้อบางส่วนแนวรับ
แนวรับ : 671 / 664
แนวต้าน : 680 / 685***
ENERG 15681.44 RSI
ความเห็น: ดัชนีหลุดแนวรับการถดถอย 2/3 พร้อมกับแกว่งตัวอยู่ใต้เส้น SMA 5,10 วัน
ทำให้ดัชนีมีแนวโน้มปรับลงต่อแต่จะเริ่มมีกรอบจำกัดเพิ่มโอกาสสร้างฐานสำหรับขึ้นรอบต่อไปเนื่องจากมี
สัญญาณขัดแย้งขาขึ้นกับ RSI และดัชนีเริ่มไม่ทำจุดต่ำใหม่อย่างมีนัยสำคัญ กลยุทธ์ ปรับตัวซื้อถือแนวรับ
แนวรับ 15383 / 14935
แนวต้าน 15856 / 16017
BANK 245.64 BULLISH FLAG
ความเห็น: ดัชนีฟื้นตัวขึ้นด้วย VOLUME ที่มีนัยสำคัญและผ่านยืนแนวต้าน SMA ขึ้นมาได้หลังเกิดแรง
ซื้อขั้นต้นเมื่อผ่านแนวต้าน DOWN TREND ทำให้เกิดภาพของสัญญาณซื้อ BULLISH FLAG ตามมา ค่าสัญญาณ
ทางเทคนิคเป็นบวก มีโอกาสขึ้นต่อ กลยุทธ์ ซื้อเก็งกำไรระยะสั้น
แนวรับ 239 / 236
แนวต้าน 247 / 250
:lol:
|
kaisel สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 3,380 | #1 วันที่: 07/08/2008 @ 09:09:39 : .--รอยเตอร์
*ตลาดหุ้นสหรัฐปิดเมื่อวานนี้ปรับขึ้น ขณะที่การร่วงลงของราคาน้ำมันและแนวโน้มผลประกอบการ
ที่สดใสจากบริษัทซิสโก ซิสเทมส์ ได้ช่วยบดบังความวิตกเกี่ยวกับภาวะสินเชื่อ
*ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนก.ย. ปิดเมื่อวานนี้ลดลง 59 เซนต์หรือ
0.5% มาที่ 118.58 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ตัวเลขของรัฐบาลแสดงให้เห็นว่าสต็อกน้ำมันดิบ
เพิ่มขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
*ผู้อำนวยการสศค.มองว่า การทำนโยบายการเงินการคลังที่สอดประสานกลมกลืนกัน
ถือเป็นลำดับความสำคัญแรกของประเทศ ในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจในขณะนี้ และเตือนว่า
ภาพรวมการจัดทำนโยบายเศรษฐกิจของไทยขณะนี้ ยังไม่ไปในทางเดียวกัน ยังมีจุดมุ่งหมาย
หรือมองวัตถุประสงค์ที่ต่างกัน
*มาสเตอร์การ์ด เวิลด์วายด์ เผยผลสำรวจครึ่งหลังปี 51 คนไทยจะเดินทางไปท่องเที่ยว
ต่างประเทศเพิ่มขึ้น 10.3% หรือคิดเป็น 2.1 ล้านคน เช่นเดียวกับการเดินทางออกนอก
ประเทศของนักท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สวนกระแสเศรษฐกิจ
ที่ชะลอตัว และสภาวะเงินเฟ้อสูงในภูมิภาค
*บลจ.ไทยพาณิชย์ แนะนักลงทุนที่ต้องการซื้อกองทุน LTF ให้ทยอยเข้าลงทุนในช่วงสัปดาห์
ที่ 3-4 ของเดือนส.ค.นี้ หลังมองว่าแรงกดดันจากเงินเฟ้อจะเริ่มลดลง ตามการอ่อนตัว
ของราคาน้ำมัน และคาดว่าช่วงเวลาดังกล่าวปัจจัยการเมืองน่าจะชัดเจนมากขึ้นแล้ว
*รมว.พาณิชย์ คาดว่าการส่งออกทั้งปี 51 จะขยายตัวเกินไปกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 15% และ
น่าจะโตได้ถึง 20% เพราะต้นทุนการผลิตลดลงจากราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มลดลง ทำให้ความ
สามารถในการแข่งขันของไทยดีขึ้น ขณะที่จะควบคุมเงินเฟ้อทั้งปีไม่ให้เกิน 6% พร้อมดึงงาน
ด้านข้าวกลับมาดูแลเอง
*ธปท.เผยแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงินระยะที่ 2 ซึ่งจะเริ่มใช้ในต้นปีหน้า จะเปิดโอกาสให้
ธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศในไทย มีบทบาทมากขึ้นทั้งในแง่การขยายขอบเขตทางธุรกิจ การ
เพิ่มจำนวนสาขา หรือช่องทางการให้บริการ รวมถึงการพิจารณาเพื่อเพิ่ม"ผู้เล่นรายใหม่"ที่จะ
เข้ามาในระบบ แต่ต้องเป็นการช่วยสร้างมูลค่าเพิ่ม
*หนังสือพิมพ์เผย รมช.คลังระบุผลการจัดเก็บรายได้ของกรมศุลกากร รอบ 10 เดือนแรกของปี
งบประมาณ 51 จัดเก็บได้ 8.23 หมื่นลบ. สูงกว่าประมาณการอยู่ 9.15 พันลบ.หรือ 12.5%
*หนังสือพิมพ์เผย รมว.คลังระบุ จะออกมาตรการเพิ่มเติม เพื่อผลักดันจีดีพีปีนี้ให้ขยายตัวที่ 6%
โดยเน้นสร้างรายได้ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ซึ่งศสค.ประเมินว่าหากไม่มี
มาตรการใหม่ จีดีพีจะโตเพียง 5.7%
*หนังสือพิมพ์เผย รมว.อุตสาหกรรม ระบุจะหารือบีโอไอเพื่อกำหนดแนวทาง สร้างความเชื่อมั่น
การลงทุนให้เพิ่มขึ้น โดยอาจมีการปรับโครงสร้างของบอร์ดบีโอไอใหม่ รวมถึงเป้าหมายการ
ขอรับการส่งเสริมการลงทุนปีนี้ที่กำหนดไว้ 6 แสนลบ. หลังมองว่าขณะนี้ประเทศเพื่อนบ้านดึง
การลงทุนจากต่างประเทศไปมากแล้ว
*หนังสือพิมพ์เผย รมช.คมนาคม เบรกรถร่วมบขส.ขอขึ้นค่าโดยสารอีกกิโลเมตรละ 3 สตางค์
เหตุราคาดีเซลมีแนวโน้มลดลง ขณะที่ผู้ประกอบการระบุว่า ราคาน้ำมันดีเซลขณะนี้ยังสูงกว่า
ราคาน้ำมันที่ใช้เป็นฐานคำนวณค่าโดยสาร
*หนังสือพิมพ์เผย รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ เล็งเปิดพื้นที่ป่าให้เอกชนร่วมทุน เพื่อทำบริการที่
พักและการบริการในอุทยานแห่งชาติ เพื่อกระตุ้นรายได้และเศรษฐกิจ โดยจะเริ่มที่อุทยาน
แห่งชาติเขาใหญ่
*หนังสือพิมพ์เผย ธปท.ระบุ แบงก์พาณิชย์ไทยมีปัจจัยพื้นฐานที่ดี เชื่อว่าจะสามารถรับมือกับความ
ผันผวนทางเศรษฐกิจของโลกได้ แต่ก็จะต้องระมัดระวังความเสี่ยงมากขึ้น พร้อมเผยครึ่งปีแรก
แบงก์พาณิชย์ไทยมีกำไรสุทธิรวม 5.7 หมื่นลบ.และสินเชื่อขยายตัว 10%
*หนังสือพิมพ์ ฮัทช์ฮ่องกง ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของฮัทช์ ประเทศไทย ชะลอการลงทุนในไทย เนื่อง
จากกังวลต่อปัจจัยลบทั้งภาวะเศรษฐกิจระดับมหภาคของไทย รวมถึงรัฐบาลที่ยังไม่มีเสถียรภาพ
เท่าที่ควร จึงทำให้ฮัทช์ ประเทศไทยยังไม่มีแผนการลงทุนใดๆเพิ่ม --จบ--
(โดย วิรัช บูรณกนกธนสาร เรียบเรียง--บร--)
:lol: |