kaisel สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 3,380 | วันที่: 16/05/2008 @ 09:00:05 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต บล. โกลเบล็ก
SET 855.61 +6.67 +0.79%
H / L : Day 856.00 / 852.27
H / L : Week 856.00 / 837.86
H / L : Year 860.69 / 728.58
ผ่านยืน 856 ได้มีโอกาสกลับตัวขึ้นต่อ
ระยะสั้น ดัชนีเปิด GAP ขึ้นต่อทดสอบแนวต้านจุดสูงที่ 856 แต่ขึ้นไม่ต่อเนื่อง เกิดเป็นแท่งเทียน STAR เป็นสัญญาณลบ ผ่านยืนแนวต้านจุดสูงที่ 856 ไม่ได้มีโอกาสลงทดสอบแนวรับกรอบสามเหลี่ยมอีกครั้ง
ระยะสั้น ดัชนีเปิด GAP ผ่านยืนแนวต้านกรอบสามเหลี่ยมที่ 853 ได้ในระหว่างวัน แต่ขึ้นไม่ต่อเนื่องขึ้นไปทดสอบจุดสูงเดิมก่อนหน้าที่ 856 ก่อนปรับตัวลงมาต่ำกว่า เกิดเป็นแท่งเทียน STAR ตามมาเป็นสัญญาณเตือนเชิงลบ ส่งผลให้แนวต้านกรอบสามเหลี่ยมยังมีแรงกดดันอยู่ เมื่อเสริมกับการที่ดัชนีขึ้นมาห่างเส้น SMA 5 วัน และอยู่ใกล้แนวต้านเส้น BB TOP ทำให้มีความเสี่ยงจากภาวะขึ้นแรงมากเกินไป ในขณะที่ค่าสัญญาณ MACD,RSI ไม่ได้ทำจุดสูงใหม่ตามกันกับดัชนีเป็นสัญญาณขัดแย้งขาขึ้นครั้งที่ 2 เป็น
สัญญาณลบ จากภาพที่เกิดขึ้นจะเห็นได้ว่าดัชนีมีแรงกดดันการขึ้นต่อเนื่องที่มีนัยสำคัญ ดังนั้นเพื่อยืนยันการขึ้นต่อดัชนีต้องผ่านยืนแนวต้านจุดสูงที่ 856 ขึ้นไปยืนได้เท่านั้นเพื่อลดแรงกดดันจากสัญญาณลบที่เกิดขึ้นและเกิดแรงส่งขาขึ้นต่อเนื่องจากรูปแบบสามเหลี่ยม กลยุทธ์ ซื้อเก็งกำไรระยะสั้นเมื่อผ่านยืนแนวต้านจุดสูงเดิมที่ 856 โดยไม่วกกลับลงมาต่ำกว่าเท่านั้น
ระยะกลาง ดัชนียังคงแนวการแกว่งตัวรูปแบบสามเหลี่ยมขาขึ้นได้ แต่ยังมีความเสี่ยงระยะ
สั้นจากภาวะขึ้นแรงมากเกินไป และค่าสัญญาณ MACD ,RSI ยังไม่ทำจุดสูงใหม่ตามกันกับดัชนี กลยุทธ์
ถือ
แนวรับ : 853 / 848
แนวต้าน : 856*** / 865
CONMA 5737.05 สามเหลี่ยม
ความเห็น: ดัชนีมีแนวโน้มขึ้นต่อตามรูปแบบสามเหลี่ยมหลังปรับตัวยืนแนวรับตามกรอบได้และสร้างแนวขึ้น V-SHAPE ตามมา การขึ้นมายืนเหนือเส้น SMA 5,10 วันพร้อมค่าสัญญาณทางเทคนิคปรับขึ้นเป็นสัญญาณบวก กลยุทธ์ ซื้อเก็งกำไรระยะสั้นตามรูปแบบ
แนวรับ 5704 / 5639
แนวต้าน 5900 / 6000
ICT 88.12 GAP
ความเห็น: ดัชนีผ่านยืนแนวต้านกรอบขาลงพร้อมเปิด GAP ขึ้นต่อเพิ่มน้ำหนักการขึ้นต่อ การขึ้นมายืนเส้น SMA 5 วันที่ตัดเส้น SMA 10 วันและปรับขึ้นตามกัน พร้อมค่าสัญญาณทางเทคนิคที่ปรับขึ้น ทำให้มีแนวโน้มจบรอบขาลงและเปลี่ยนแนวเป็นขึ้นรอบใหม่ กลยุทธ์ ซื้อเก็งกำไรระยะสั้น
แนวรับ 85.00 / 82.00
แนวต้าน 90.00 / 92.00
:lol:
|
kaisel สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 3,380 | #1 วันที่: 16/05/2008 @ 09:01:33 : รอยเตอร์
*ตลาดหุ้นสหรัฐปิดเมื่อวานนี้ ปรับตัวขึ้นท่ากลางการซื้อขายที่เบาบาง ขณะที่ราคา
น้ำมันที่ลดลง ช่วยลดความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อ
*ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย. ปิดเมื่อวานนี้ลดลง
10 เซนต์ หรือ 0.08% มาที่ 124.12 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังตลาดซื้อขาย
ผันผวน เนื่องจากการครบกำหนดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบเดือนมิ.ย.
*ดัชนีค่าระวางเรือ (Baltic Dry Index) ปิดเมื่อวานนี้พุ่งขึ้น 418 จุดมาที่
11,067 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์
*คลังรายงานฐานะการคลังช่วง 7 เดือนแรกปีงบประมาณ 51(ต.ค.50-เม.ย.51)
รัฐบาลมียอดขาดดุลเงินสดรวม 1.96 แสนล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 9.9%
ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมาย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตได้ 5.0-6.0% ในปี 51
*รมว.คลัง ระบุขณะนี้ประเทศไทยยังไม่มีความพร้อม ในการนำเอาทุนสำรอง
เงินตราต่างประเทศ ไปจัดตั้งกองทุนเพื่อความมั่งคั่งของประเทศ หรือ
Sovereign Wealth Fund (SWF)
*มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน เม.ย.
อยู่ที่ 73.0 ลดลงจาก 73.8 ในเดือน มี.ค.51
*บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ เผยตัวเลขยอดขายรถยนต์ทั้งระบบในเดือนเม.ย.อยู่
ที่ 54,479 คัน ลดลง 17.59% จากเดือนมี.ค.หลังมีวันหยุดยาวช่วงเทศกาล
สงกรานต์ แต่ยอดขายรถยนต์ทั้งระบบในช่วง 4 เดือนแรกปีนี้ ยังเติบโต 14.55%
*ธปท.เผยจะดูแลค่าเงินบาทให้เคลื่อนไหวเกาะกลุ่มไปกับค่าเงินในภูมิภาค พร้อม
ระบุว่าไม่กังวลกับค่าเงินบาทในขณะนี้ โดยเงินบาทที่อ่อนค่าช่วงนี้ มาจากแรงซื้อ
ดอลลาร์ของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ
*วิปพรรคร่วมรัฐบาล มีมติเสนอให้รัฐบาลเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญ
ระหว่างวันที่ 9-30 มิ.ย.เพื่อพิจารณากฎหมายที่คั่งค้าง ร่างงบประมาณรายจ่าย
ประจำปีงบประมาณ 52 รวมทั้งจะยื่นญัตติแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายรัฐธรรมนูญปี 50
*รมว.พลังงาน เผยค่าเอฟทีสำหรับงวดใหม่ เดือนมิ.ย.-ก.ย.จะลดลง โดย
เบื้องต้นพบว่าต้นทุนค่าไฟฟ้าลดลง 10.7 สตางค์/หน่วย จากการที่การไฟฟ้าทั้ง 3
แห่ง มีเงินลงทุนในปี 49-50 ต่ำกว่าแผนงาน
*รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ขณะนี้มีต่างชาติ 18 ประเทศ สั่งซื้อข้าวไทยแล้ว จำนวน
รวม 6.7 ล้านตัน ขณะที่ราคาข้าวเปลือกในตลาดโลกขณะนี้ ข้าวขาว 5% อยู่ที่
1,025 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันแล้ว
*"สมัคร"เผยว่า อาจปรับครม.เพียงตำแหน่งเดียว เพื่อแทนนายสุธา ชันแสง รมว.
การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่ลาออก เนื่องจากมีปัญหาสุขภาพ
*หนังสือพิมพ์เผย รมว.คลังระบุลูกจ้างรัฐวิสาหกิจควรได้รับการปรับค่าครองชีพเพิ่ม
ขึ้น เช่นเดียวกับกรณีรัฐอนุมัติขึ้นเงินเดือนข้าราชการ 6% รวมทั้งเอกชนก็ควรจะ
ปรับค่าตอบแทนให้ลูกจ้างเช่นเดียวกัน เนื่องจากค่าครองชีพสูงขึ้น
*หนังสือพิมพ์เผย คลังระบุเตรียมกู้เงินจากเจบิค เพื่อก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสาย
สีน้ำเงินส่วนต่อขยายช่วงหัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ ในวงเงินก้อนแรก
ประมาณ 1.5 หมื่นล้านเยน โดยมีเงื่อนไขใกล้เคียงกับการปล่อยกู้สายสีม่วง ที่มี
ดอกเบี้ย ประมาณ 1.4% ต่อปีและปลอดหนี้ 7 ปี
*หนังสือพิมพ์เผย หอการค้าไทยเผยผลสำรวจความคิดเห็นนักลงทุนต่างชาติในไทย 156
ตัวอย่าง พบว่าส่วนใหญ่เห็นว่าปัญหาสำคัญของไทยขณะนี้คือการเมืองยังไม่มีเสถียรภาพ
รองลงมา คือราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ทั้งนี้การเมืองที่ยังไม่นิ่ง และเศรษฐกิจไม่ฟื้นเต็มที่จะ
ทำให้ต่างชาติหันไปลงทุนประเทศอื่นแทน
*หนังสือพิมพ์เผย รมช.คลัง ระบุการเก็บภาษีของกรมสรรพากร 7 เดือนแรกปีงบประมาณ
51 เกินเป้า 2.6 หมื่นลบ. โดยสัญญาณเศรษฐกิจฟื้นตัวชัดเจนขึ้น และผลประกอบการ
กลุ่มแบงก์และพลังงานกำไรดี
*หนังสือพิมพ์เผย สถาบันไอเอ็มดี เผยผลการจัดอันดับขีดการแข่งขันโลกปี 51 พบว่าอันดับ
ของไทยปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่อันดับที่ 27 จากเดิมอันดับที่ 33 หลังมีพัฒนาการหลายด้านโดย
เฉพาะให้อิสระต่างชาติถือครองธุรกิจมากขึ้น แต่มีจุดอ่อนที่ความโปร่งใสของนโยบายรัฐ
*หนังสือพิมพ์เผย สศก.ระบุสถานการณ์ราคาสินค้าเกษตรเดือนเม.ย. อยู่ระดับสูงมากเพิ่ม
ขึ้น 39.89% จากเม.ย.ปีก่อน และเพิ่ม 9.39% จากมี.ค.ที่ผ่านมา โดยสินค้าหลักที่เป็น
ตัวขับเคลื่อนคือข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง
*หนังสือพิมพ์เผย วันนี้ผู้ค้าน้ำมันหลายรายปรับขึ้นราคาขายปลีกดีเซลอีก 50 สตางค์/ลิตร
ทั้งเชลล์,เอสโซ่ และคาลเท็กซ์ ส่งผลให้ราคาขายดีเซลที่ 35.74 บาท/ลิตร--จบ-
:lol: |
kaisel สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 3,380 | #2 วันที่: 16/05/2008 @ 09:04:51 : บมจ. หลักทรัพย์ เอเชีย พลัส
ธ.พ. หนุนดัชนีเดินหน้า
ภาพวันวาน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ระดับ 855.61 บวก 6.67 จุด คิดเป็น 0.79% มีทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเซียหุ้นกลุ่มไอซีทีปรับตัวขึ้นโดดเด่น ADVANC, DTAC รวมถึงหุ้นกลุ่มพลังงานPTT, BANPU และหุ้นกลุ่มธนาคาร KBANK, BBL นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 697.31 ล้านบาท รวมยอดซื้อ
สุทธิเดือน พ.ค. 1,855.20 ล้านบาท
ประเด็นร้อนวันนี้
* ความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือนเมษายน ไม่ฟื้น
รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เดือน เม.ย.ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน อยู่ที่ระดับ 73.0 จุด (จาก 73.8 ในเดือน มี.ค.) ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังไม่ฟื้นกลับภาวะปกติ เหตุจากผู้บริโภคขาดความมั่นใจ เมื่อภาระค่าครองชีพยังคงปรับตัวสูงขึ้นจากราคาน้ำมัน และราคาสินค้า ขณะที่รายได้ยังคงเท่าเดิม ขณะที่สถานการณ์ทางการเมืองที่ยังมีความวุ่นวาย อย่างไรก็ตามด้วยภาครัฐได้เตรียมปรับขึ้นค่าครองชีพข้าราชการ และพนักงานรัฐวิสาหกิจระดับล่าง ในอัตรา
6% บวกกับการเร่งอัดฉีดเม็ดเงินสู่ระบบรากหญ้าผ่านโครงการเอสเอ็มอี จะช่วยบรรเทาผลกระทบได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งคาดหมายได้ว่าอาจทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยของภาคครัวเรือนที่ดีขึ้นได้ในอนาคตอันใกล้ แนะนำซื้อสะสมหุ้นกลุ่มค้าปลีก BIGC(FV@B61.70), HMPRO(FV@B6.04) และกลุ่มสื่อสาร ADVANC
(FV@110.61), DTAC(FV@B54.44)
* อัตราค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) ที่จะจัดเก็บในรอบใหม่
งวดเดือนมิถุนายน จนถึงเดือนกันยายน จะปรับลดต้นทุนค่าไฟฟ้าลง หน่วยละ 10.70 สตางค์ จากการไฟฟ้าที่ลงทุนต่ำกว่าแผนและปรับประสิทธิภาพได้ดีขึ้นทำให้สามารถนำมาลดต้นทุนได้ บวกกับการ
แข็งค่าขึ้นของเงินบาท โดยทุก 1 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ จะมีผลต่อค่าเอฟทีลดลงในอัตราหน่วยละ 3 สตางค์ โดยในขณะนี้ค่าเงินอ่อนค่าลงมาบริเวณ 32.50 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับระดับ 31.50 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ในงวดปัจจุบัน ซึ่งคณะอนุกรรมการกำกับดูแลค่าไฟฟ้าจะพิจารณาปรับค่าเอฟทีทุก 4 เดือน ตามต้นทุนเชื้อเพลิง โดยงวดล่าสุดเดือน ก.พ.- พ.ค. อยู่ที่ระดับ 68.86 สตางค์/หน่วย เมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐานอีก 2.25/หน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้าที่เรียกเก็บในงวดดังกล่าวอยู่ที่ 2.93 บาท/หน่วย
* ความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวของจีน ส่งผลกระทบต่อการผลิตอาหาร
โดยอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยของจีนในปี 2551 อาจขยับขึ้นมาอยู่ที่ 6.5-7.5% เพิ่มขึ้นจาก 4.8% ในปีที่ผ่านมา ถือว่าเป็นระดับสูงที่สุดในรอบ 12 ปี ซึ่งน่าจะส่งผลให้ธนาคารกลางของจีนยังคงดำเนินนโยบาย
การเงินที่เข้มงวดต่อไป หลังจากที่ได้ปรับขึ้นอัตราเงินสำรอง (Reserve Requirement Ratio : RRR)
อีก0.5% เป็น 16.5% ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันอังคารที่ 20 พฤษภาคมนี้เป็นต้นไป นับเป็นการปรับขึ้น
อัตราเงินสำรองของจีนครั้งที่ 4 ตั้งแต่ต้นปี บวกกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งล่าสุด และภัยภิบัติธรรมชาติในพม่า น่าจะส่งผลต่อภาคการผลิตและส่งออกของไทยมีโอกาสเติบโต เพื่อทดแทนอุปทานที่ขาดจากแหล่งดังกล่าว แนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์จากสินเชื่อขยายตัว กลุ่มธ.พ.KBANK(FV@B110), BBL(FV@B155.28),
BAY9FV@B29.73) และกลุ่มเกษตร TVO(FV@B27.65)
INVESTORS PLUS
แนวรับ / แนวต้าน ใน 1 สัปดาห์ของดัชนีตลาด: 840 / 880 จุด
ตลาดวันนี้ : คาดวันนี้ดัชนีแกว่งตัวด้างข้าง แนวรับ 850 จุด แนวต้าน 860 จุด
กลยุทธ์วันนี้ : แนะนำเลือกซื้อหุ้นรายตัวเมื่อราคาอ่อนตัวเข้าสู่แนวรับ DTAC(48/50), KBANK(88/90),
PHATRA(37/38.50), BLS(22/23), SIRI(3.60/3.80), SC(13/14)
:lol: |
kaisel สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 3,380 | #3 วันที่: 16/05/2008 @ 09:34:42 : .--บมจ.หลักทรัพย์ ฟิลลิป
แนวโน้มตลาดวันนี้: ลุ้นทะลุ High เดิมแถวๆ 857 เพื่อไปต่อ
ตลาดโดยรวมยังให้ภาพในเชิงบวกต่อเนื่อง วันนี้น่าจะมีลุ้นปรับขึ้นทดสอบ High เดิม ที่
856.81 อีกครั้ง โดยมีบรรยากาศลงทุนของตลาดอื่นในภูมิภาคเป็นแรงหนุนหลัก ขณะที่ปัจจัยอื่นค่อนข้างทรง
ตัว ยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาในช่วงนี้ ซึ่งหากดัชนีสามารถ ปิดเหนือ 857 ได้สำเร็จ จะมีลุ้นไปต่อถึง 880 และ 902 จุดได้ต่อไป แต่หากไม่สามารถ ผ่านไปได้ อาจเผชิญแรงขายทำกำไรกันอีกรอบก่อนช่วงวันหยุดยาว จึงยังคงคำแนะนำ ให้ Trading buy หุ้นเดินเรือยังน่าจะไปต่อหลังดัชนี BDI บวกไปอีกกว่า 418 จุด
แนวต้าน : 860-865 แนวรับ : 851-847
ปัจจัยเด่นวันนี้
+ ดาวโจนส์ปิดบวก 94.28 จุด ในวันพฤหัสบดี ขณะที่ราคาน้ำมันที่ลดลงช่วยความ วิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อ และสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับแผนการกอบ กู้ตลาดที่อยู่อาศัยได้เพิ่มความหวังสำหรับตลาดที่อยู่อาศัยที่ซบเซา
+ สรรพากรเก็บภาษีปี51 เกินเป้า 2.6 หมื่นล้านบาท ส่งสัญญาณเศรษฐกิจฟื้นตัว ชัดเจน ระบุ
ภาษีนิติบุคคล แว็ตโตแบบก้าวกระโดด
+ คลังเตรียมกู้เจบิคสร้างสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง-บางแค และ ช่วง
บางซื่อ-ท่าพระ วงเงิน 147 ล้านเหรียญ ดอกเบี้ย 1.4% ต่อปี ปลอดหนี้ 7 ปี จาก มูลค่าโครงการทั้งหมด 7.5 หมื่นล้านบาท
- ม.หอการค้าไทย เผยประชาชนกังวลค่าครองชีพ-น้ำมัน ฉุดดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคลด ทุก
หมวดครั้งแรกรอบ 6 เดือน
0 คลังเผย 7 เดือนแรกปีงบ 2551 ขาดดุลเงินสด 1.96 แสนล้านยันเป็นไปตาม เป้า
นโยบายการคลังแบบขาดดุล เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตได้ 5.0-6.0%
0 ราคาน้ำมันดิบที่ตลาด NYMEX เคลื่อนไหวผันผวน เนื่องจากการครบกำหนดส่ง มอบสัญญาน้ำมันดิบเดือนก.ย. แต่ปิดแทบไม่เปลี่ยนแปลง โดยอ่อนตัวลง 10 เซนต์ มาปิดตลาดที่ 124.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
:lol: |