ChennyVI สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 84 | วันที่: 30/04/2008 @ 10:56:54 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต ประเมินแนวโน้มตลาด
BLS <21.30 บาท : ซื้อ> กำไรปกติไตรมาส 1/51 โตเท่าตัวเป็น 55 ล้านบาท ดีกว่าคาด
DCC <16.40 บาท : ซื้อ> กำไรไตรมาส 1/51 โดดเด่น และโตสูง แรงหนุนจากตลาดต่างจังหวัด และ ผลบวกจากการพุ่งขึ้นของราคาสินค้าเกษตร
KSL <14.40 บาท : ขายทำกำไร> ปรับขึ้นราคาอ้อย และราคาน้ำตาล แต่ได้สะท้อนในราคาหุ้นแล้ว
QH <2.52 บาท : ซื้อ> คาดผลประกอบการไตรมาส 1/51 แข็งแกร่ง
THCOM <10.10 บาท : ทยอยสะสม> คาดรายงานกำไรสุทธิ 240 ล้านบาทในไตรมาส 1/51 เนื่องจากกำไรอัตราแลกเปลี่ยนและขายอุปกรณ์ user terminal เพิ่มขึ้น
TPC <22.80 บาท : ซื้อเมื่ออ่อนตัว> ไตรมาสแรกกำไรเติบโตสูง 169% yoy แต่ยังต่ำกว่าคาด
แนวโน้มตลาด
มุมมองตลาด: หุ้นไทยอาจจะเปิดลดลงโดยแรงขายจากราคาน้ำมันและโภคภัณฑ์ขาลงในวันนี้ แต่เราก็เห็นว่ามีโอกาสในการเทรดตลาดขาขึ้นได้ดีหากดัชนีตกลงมาต่ำราว 825-830 เป็นจุดเทรดได้
แนวคิดหลัก: เม็ดเงินน่าจะไหลเข้าธนาคารใหญ่ อสังหาริมทรัพย์ โทรศัพท์มือถือ สถานีโทรทัศน์ AOT แม้กระทั่ง SCC โดยแรงขายในหุ้นโภคภัณฑ์น่าจะยังมีอยู่ แต่หากหุ้นลงมากเกินไปก็ควรจะเข้าไปเก็บเพราะได้ปรับลงมาก่อนแล้วและมีมูลค่าดี
พัฒนาการสำคัญ:
ราคาโภคภัณฑ์ เช่น น้ำมัน และ ทองคำ (น้ำมันดิบตกลงเหลือ US$115.63 บาร์เรล หรือลดลง US$3.12) แต่เราแนะนำให้หาจังหวะเก็บหุ้น PTTEP และ PTT หากราคาลงมากเกินไป
หุ้นสหรัฐปิดตัวลงเล็กน้อย ก่อนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐในคืนนี้ซึ่งตลาดคาดว่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ย 0.25% และ อาจจะมีการชะลอการลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งต่อไปเพราะปัญหาเงินเฟ้อทำให้ค่าเงินดอลล่าร์มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นอย่างมีเสถียรภาพ
แนวการเทรดหุ้นมีดังนี้
เน้นหาจังหวะซื้อ หุ้นที่มีผลประกอบการเติบโตดี (ได้แก่ AOT, KBANK, TCAP, BEC) เราเชื่อว่าหุ้นเหล่านี้จะมีกำไรขยายตัวสูงและราคาหุ้นจะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้
เพิ่มน้ำหนัก หรือ หาจังหวะเก็บ หุ้นการเงิน บนฐานปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของอุปสงค์ในประเทศ ภาวะดอกเบี้ยโลกอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งจะทำให้เม็ดเงินของนักลงทุนสถาบันไหลกลับสู่ตลาด โดยจะไหลเข้ามาสู่หุ้นธนาคารได้เร็วและมากขึ้นในระยะต่อไป
ซื้อขาย หุ้นเรือ สินค้าโภคภัณฑ์ และ โบรกเกอร์ขนาดใหญ่ (TTA, BANPU, PHATRA); หุ้นขนาดใหญ่ (PTT, ADVANC, SCB); หุ้นอสังหาริมทรัพย์ (LPN, MJD, LH, QH, PS, AP) และ หุ้นอาหารและเกษตร (KSL, TVO) โดยนักลงทุนควรขายหุ้นเมื่อมีข่าวดีออกมาหรือดัชนีดันหุ้นขึ้นและหาจังหวะซื้อกลับเมื่อราคาหุ้นอ่อนตัวลง
กรอบล่างของตลาด อยู่ระหว่าง 825-830 เราเห็นว่าแรงขายจากนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศมูลค่า 3.2 พันล้านบาทจากจุดสูงสุดของดัชนีเมื่อวันอังคารก่อนไม่ใช่การขายหุ้นออกจากตลาด แต่เป็นเพียงการทำกำไรตามรอบเท่านั้น โดยปัจจัยพื้นฐานของตลาดหุ้นไทยไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่แย่ลง
โอกาสการขึ้นของดัชนีไปที่ระดับ 860จุด การไหลกลับของเม็ดเงินลงทุนสถาบันจะผลักดันให้หุ้นไทยไปทดสอบระดับสูงได้เช่นกันหากปัจจัยภายนอก (หุ้นสหรัฐ ราคาน้ำมันดิบ และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอาหาร) ผ่อนคลายความเสี่ยงลง ประกอบกับมีสัญญาณการฟื้นตัวต่อเนื่องของการบริโภค การลงทุน และการเติบโตของกำไรบริษัท
กลยุทธ์หุ้น
ซื้อหุ้น LPN เนื่องจากมีโอกาสฟื้นตัว ราคาหุ้นปรับตัวลดลงพร้อมกับหุ้นตัวอื่นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เราคาดว่าหุ้น LPN จะฟื้นตัว เนื่องจากหุ้นมี PER ที่น่าสนใจมากในระดับ 8.6 เท่า และคาดว่ากำไรต่อหุ้นจะเติบโต 38% ในปีนี้ ซึ่ง LPN จะได้รับประโยชน์จากมาตรการลดภาษีของรัฐบาลด้วย
ซื้อหุ้น BEC จากการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศ บริษัทได้ปรับขึ้นอัตราค่าโฆษณาถึงสองครั้งในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา อีกทั้งส่วนแบ่งผู้ชมยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากรายการโทรทัศน์ที่ได้รับความนิยมมาก รวมถึงเม็ดเงินโฆษณาที่ย้ายมาจาก TITV (ปัจจุบันคือ ทีวีไทย)
ซื้อ PTTEP คืน ที่ราคา 165 บาทต่อหุ้น นักเก็งกำไรได้ขายหุ้นกลุ่มพลังงานออกมาในจังหวะที่ราคาน้ำมันขึ้น ซึ่งหากราคาอ่อนตัวมาที่ระดับต่ำกว่า 165 บาทต่อหุ้น ถือเป็นโอกาสเข้าซื้อที่ดีสำหรับหุ้น PTTEP ที่มี่การขยายกำลังการผลิต รวมถึงผลกำไรที่เติบโตแข็งแกร่งด้วย
สัดส่วนการลงทุน
เราเพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้นจาก 50%เป็น 65% เนื่องจากการอ่อนตัวลงของดัชนีในช่วงนี้เป็นโอกาสในการเข้าซื้อ
สัดส่วนใหม่
สัดส่วนเดิม
หุ้นหลัก
เงินสด
35%
50%
หุ้นขนาดใหญ่
22%
17%
PTT, BBL, PTTEP, และ KBANK
หุ้นไวต่อดัชนี
20%
14%
TTA, BAY, BANPU, และ TCAP
หุ้นมีประเด็น
18%
14%
CPF, BLS, PHATRA, HMPRO และLPN
หุ้นขนาดเล็ก
5%
5%
UMS, KH, MJD, SSI, และSPALI
หุ้นน่าจับตา
หุ้นกลุ่มธนาคารจะกลับมาได้รับความนิยมในการเทรดอีกครั้งหนึ่ง เราชอบหุ้นที่มีศักยภาพในการเติบโต โดยเฉพาะหุ้น KBANK และ TCAP
|
ChennyVI สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 84 | #1 วันที่: 30/04/2008 @ 10:59:16 : สรุปข่าว
AIติดเครื่องไบโอดีเซลดันQ1กำไร (ทันหุ้น 30/4/51): AI ได้ดีกระแสพลังงานทดแทนหนุน ดันธุรกิจไบโอดีเซลเป็นดาวเด่น ด้าน "ธนิตย์ ธารีรัตนาวิบูลย์" เผยไตรมาสแรกปีนี้ผลงานน่าพอใจ เดินหน้าทำตลาดส่งออกไบโอดีเซลต่อไป เล็งประเทศเพื่อนบ้านก่อนอันดับแรก มั่นใจทั้งปีทำรายได้ 2,500 ล้านบาท
HEMRAJ เล็งตั้งนิคมฯที่ลิเบีย มั่นใจปีนี้ดีกว่าปี 50 Q1 โชว์ยอดขายที่ดิน 636 ไร่ (ข่าวหุ้น 30/4/51): เหมราชฯ เล็งสร้างนิคมฯที่ประเทศลิเบีย คาดเดือนมิ.ย.นี้เดินทางเจรจา-ดูที่ดิน ส่วนรายได้-กำไรปีนี้ "สวัสดิ์" มั่นใจดีกว่าปีก่อน
MDXลุ้นขายที่ในนิคมเกตเวย์ (ผู้จัดการรายวัน 30/4/51): เอ็มดีเอ็กซ์ลุ้นขายที่ในนิคมฯเกตเวย์ ซิตี้ในปีนี้ตามเป้าหมาย 50-53 ไร่ หลังเพิ่งขายได้เพียง 10 กว่าไร เหตุนักลงทุนต่างชาติ ยังหวั่นสถานการณ์การเมืองไทยและปัจจัยเสี่ยงจากภายนอก แต่การลงทุนโรงไฟฟ้าพลังน้ำที่ลาวยังเดินหน้า เผย บ.ย่อย "จีเอ็มเอสเพาเวอร์" ตั้งเป้าหมายลงทุน 3 พันล้านบาทใน 4-5 ปี ในโครงการส่วนขยายเทิน-หินบูน และโครงการน้ำงึม 3 คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ปลายปี
พรีเมียร์ฯ เข้าตลาดฯ ล้างหนี้ หวังรายได้ทะลุ 3 พันล้านบาทปีหน้าวาดแผนเพิ่มสินค้าเปิดกว้างร่วมทุน (โพสทูเดย์ 30/4/51): พรีเมียร์มาร์เก็ตติ้งเปิดแผนล้างขาดทุนสะสมหมดปีนี้ หวังรายได้ทะลุ 3,000 ล้านบาท ปีหน้า จากรายได้รวม 2,794 ล้านบาท ในปี 2550 ที่ผ่านมา พร้อมเดินหน้าร่วมทุน-เพิ่มสินค้า
จำปีควัก 4.4 พันล.แต่งแอร์บัส (โพสทูเดย์ 30/4/51): บอร์ดบินไทยไฟเขียวงบ 4,400 ล้านบาท ซื้ออุปกรณ์แต่งเครื่องแอร์บัส A-380 จำนวน 6 ลำ
LANNA ผุดเหมืองใหม่รับขาขึ้น ดันรายได้ขยับปีนี้ 20%-ลุยลงทุนเอทานอลเพิ่ม (ข่าวหุ้น 30/4/51): LANNA เร่งเหมืองถ่านหินแหล่งที่ 3 เพิ่ม 1-2 ล้านตัน ขานรับราคาถ่านหินขาขึ้น "อนันต์" มั่นใจยอดขายปีนี้ 3.5-3.75 ล้านตัน ดันรายได้โต 20% แตะ 7.2 พันล้านบาทแย้มเลื่อนดัน "ไทยอะโกรฯ" เข้าเทรดไปเป็นปี53 เหตุราคาเอทานอลยังถูกเตรียมควักเงินก่อสร้างโรง 2 เอง 1.5 พันล้านบาท
TCCผุดโรงแยกถ่านหินอยุธยา ดึงอิเหนาร่วมถือหุ้น 15%-ดันยอดขาย 5 หมื่นตันต่อเดือน (ข่าวหุ้น 30/4/51): TCC แย้มทุ่ม 100-200 ล้านบาท เตรียมลงทุนโรงคัดแยกถ่านหินที่อยุธยา คาดได้ข้อสรุปพ.ค.นี้ "ชำนิ" เล็งร่วมทุนพาร์ตเนอร์อินโดนีเซีย 10-15% หวังป้องกันความเสี่ยงระยะยาวมั่นใจดันยอดขาย 50,000 ตันต่อเดือน หลังล็อตแรกจบสวย 24,000 ตัน
LHย้ำปีนี้รายได้ 2.1 หมื่นล้าน เล็งออกหุ้นกู้ 3 พันล.ซื้อที่เพิ่ม (ข่าวหุ้น 30/4/51): แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มั่นใจรายได้ปีนี้ตามเป้า 2.1 หมื่นล้านบาท โตกว่า 13.7% ยอดโอนบ้านปีนี้ทะลุ 4.2 พันหลัง "อดิศร" ชี้กำลังซื้อบ้านเดี่ยวดีขึ้น ขณะที่ไตรมาสสองผุดเพิ่ม 3 โครงการใหม่ มูลค่า 2.17 ล้านบาท พร้อมเล็งออกหุ้นกู้อีก 3 พันล้านบาทซื้อที่ดิเพิ่ม |