ข่าวกระทบทิศทางหุ้น

ประเมินแนวโน้มตลาด

กลุ่มสื่อสาร < เป็นบวก/เป็นบวก > ผลการดำเนินงานขยายตัว และคาดมีพัฒนาการในด้านกฎเกณฑ์ใหม่
AP <7.60 บาท : ซื้อเมื่ออ่อนตัว> คาดกำไรไตรมาส 1/51 ชะลอตัว
BEC <28.00 บาท : ซื้อ> กำไรจะยังเติบโตดีในไตรมาส 1/51
BLS <23.00 บาท : ซื้อ> ตลาดหุ้นยังคึกคักช่วยดันราคาหุ้นและศักยภาพในการทำกำไร
PTTCH <110.00 บาท : ซื้อ> คาดไตรมาส 1/51 กำไรเติบโตสูงถึง 126% yoy
SIS <4.16 บาท : ซื้อ> คาดกำไรไตรมาส 1/51 จะทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง และแนวโน้มกำไรปีนี้ยังรักษาระดับกำไรได้ดี และ มีแนวโน้มจะมากกว่าคาด

แนวโน้มตลาด

แนวโน้มตลาด
มุมมองตลาด: เราคาดว่าตลาดจะเคลื่อนไหวในลักษณะทรงตัวในวันนี้หลังจากที่ดัชนีปรับตัวขึ้นแตะ 850 จุดเมื่อวานนี้

แนวคิดสำคัญ: ตลาดไทยมีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่องโดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการขยายตัวต่อเนื่องของบริษัทจดทะเบียนในปีนี้

พัฒนาการสำคัญต่อตลาด:

ตลาดหุ้นสหรัฐปรับลงจากข้อมูลเชิงลบด้านผลประกอบการบริษัท ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 119.37 เหรียญต่อบาร์เรล ส่วนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเทียบกับเงินยูโรปรับตัวลงสู่ระดับต่ำสุด
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปรับคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจขึ้นจาก 4.5-6.0% เป็น 4.8-6.0% โดยมีการปรับคาดการณ์เงินเฟ้อขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจาก 2.8-4.0% เป็น 4.0-5.0% ซึ่งทำให้โอกาสที่ ธปท. จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีนี้มีน้อยลง
กระทรวงพาณิชย์รายงานตัวเลขส่งออกเดือนมีนาคมซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์โดยเพิ่มขึ้น 14.4% เทียบกับ 16.4% ในเดือนกุมภาพันธ์ ขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้น 32.7% จาก 33.1% ในเดือนกุมภาพันธ์ (ดัชนีตลาดได้ปรับตัวสูงขึ้นหลังจากการประกาศตัวเลขการเติบโตของการส่งออกและการปรับคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจ)
แนวการเทรดหุ้น:

PTT, TOP และ PTTEP มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ แม้นักเก็งกำไรอาจจะขายทำกำไรออกมาหลังจากที่ราคาน้ำมันพุ่งทำสถิติสูงสุด

เลือกหุ้นที่พื้นฐานแข็งแกร่งอย่าง TTA (จากดัชนีค่าระวาง BDI ที่พลิกฟื้น): BEC (จากการเติบโตของรายได้โฆษณา/ การปรับขึ้นค่าโฆษณา); TPC (จากส่วนต่างของราคา PVC ที่สูงขึ้น); PHATRA (จากความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาดที่ดีขึ้น และมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น); และ LPN & MJD (จากมุมมองต่อกำไรที่เติบโตแข็งแกร่งและราคาหุ้นยังต่ำกว่าราคาเป้าหมายมาก)

สะสมหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากมีการขายทำกำไรออกมาจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ หลังจากราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเรามองว่าผลประกอบการของกลุ่มธนาคารในไตรมาส 2/51 - 3/51 มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เราแนะนำ KBANK และ TCAP

กลยุทธ์หุ้น

เก็งกำไร PTTEP ซึ่งคาดว่าราคาจะปรับเพิ่มเป็น 175 บาทต่อหุ้น หุ้นจะยังคงดึงความสนใจจากนักลงทุนได้ต่อ หลังจากโครงการแหล่งอาทิตย์ดำเนินการก่อสร้างเสร็จ อีกทั้งราคาน้ำมันก็ปรับเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามนักลงทุนควรใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากค่าความไวต่อดัชนีของ PTTEP สูง และแรงขายทำกำไร PTTEP จากปัจจัยหนุนดังกล่าว

ซื้อ TOP เนื่องจากมี PER ต่ำ และส่วนต่างค่าการกลั่นยังสูง ราคาหุ้นซื้อขายอยู่ที่ระดับ PER เพียง 7- 8 เท่าของปีนี้ ขณะที่ได้มีการขยายกำลังการผลิตของโรงกลั่นและโรงงานปิโตรเคมี รวมถึงยังได้ประโยชน์จากส่วนต่างค่าการกลั่นที่อยู่ในระดับสูงด้วย

เก็งกำไร TTA ซึ่งคาดว่าราคาจะปรับเป็น 50 บาทในเวลาอันใกล้นี้ ดัชนีค่าระวางเรือ BDI ปรับตัวสูงขึ้น 2.4% เป็น 8,550 จุด เมื่อคืนนี้หลังจากที่กิจการการขนส่งทางน้ำของโลกกลับสูภาวะปกติ ซึ่งบ่งชี้ถึงส่วนต่างจากมูลค่าพื้นฐานของ TTA ที่ปรับเพิ่มขึ้นอีก


สัดส่วนการลงทุน

เรายังคงสัดส่วนถือครองเงินสดที่ระดับ 40%


สัดส่วน (%)
ประเด็น

เงินสด
40%


หุ้นขนาดใหญ่
22%
PTT, BBL, PTTEP, และ KBANK

หุ้นไวต่อดัชนี
17%
TTA, BAY, BANPU, และ TCAP

หุ้นมีประเด็น
16%
CPF, BLS, PHATRA, HMPRO และ BEC: เพิ่ม LPN

หุ้นขนาดเล็ก
5%
UMS, KH, MJD, SSI และ SPALI


หุ้นน่าจับตา

KBANK ยังคงเป็นหุ้นในกลุ่มธนาคารที่เราชื่นชอบที่สุด เนื่องจากปริมาณการปล่อยสินเชื่อของธนาคารนับแต่ต้นปีนี้ เติบโตถึง 5% อีกทั้งส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยก็อยู่ที่ระดับสูงสุดเมื่อเทียบกับหุ้นธนาคารตัวอื่นๆในไตรมาส 1/51 ตัวแปรอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นอัตราการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียม, การตัดสำรองหนี้สูญและการสำรองหนี้สูญก็บ่งชี้พื้นฐานที่แข็งแกร่งของธนาคาร แม้ว่าหุ้นจะเผชิญกับแรงขายทำกำไรระยะสั้นหลังจากตัวเลขดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกมา แต่เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ โดยมีราคาเป้าหมายที่ 106 บาทต่อหุ้น สำหรับ KBANK

สรุปข่าว

ส่งออก มี.ค.ทำสถิติสูงสุด 1.5 หมื่นล้าน (ผู้จัดการรายวัน 23/4/51): ส่งออกเดือน มี.ค.ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ มูลค่าเฉียด 1.5 หมื่นล้านบาท เพิ่ม 14.4% เหตุข้าว มัน ยางพารา ผัก ผลไม้ และอาหาร ส่งออกพุ่งกระฉูด สินค้าอุตสาหกรรมก็เพิ่ม และพลิกกลับมาเกินดุลการค้า 160 ล้านเหรียญสหรัฐ หลังขาดดุลติดต่อกัน 2 เดือนก่อนหน้า ส่วนดัชนีเชื่อมั่นอุตสาหกรรม 3 เดือนแรกปีนี้ ยังคงต่ำต่อเนื่อง สวนทางกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา บ่งชี้ปัจจัยต่างๆ ทั้งการเมือง น้ำมัน เศรษฐกิจโลกไม่กระเตื้องขึ้น ขณะที่ยอดขายมาม่าโต 7-8% ชี้ชัดคนไทยประหยัด แต่ยอดซื้อมอเตอร์ไซต์พุ่ง

คลังหนุนบ้านมือสอง TCAP อัดดอกเบี้ยต่ำ (ข่าวหุ้น 23/4/51): คลังเล็งออกมาตรการลดหย่อนภาษีหนุนบ้านมือสองระลอกสอง สั่งธอส.ศึกษาตลาดฯต่างประเทศ ก่อนนำเสนอ ด้านครม.วานนี้อนุมัติลดค่าธรรมเนียมการโอนและจำนองเหลือ 0.01% สำหรับบ้านมือสอง คาดเพิ่มกำลังซื้อเอ็นพีเอของแบงก์ 15-20% ส่วนแบงก์ธนชาตตอบรับมาตรการ ออกสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ใช้กลยุทธ์ดอกเบี้ยปีแรก 2.90% หลังจากนั้นลอยตัวตาม เอ็มเอลอาร์ -0.8% กู้ได้สูง 100% ผ่อนนาน 30 ปี

ธปท.เพิ่มเป้าจีดีพีโต4.8-6% ยอมรับเงินเฟ้อปัจจัยเสี่ยง คาด Q2 จ่อปรับลด (ข่าวหุ้น 23/4/51): ธปท.ปรับเป้าจีดีพีปี51 โต 4.8-6% จาก 4.5-6% หลังผลบวกจากมาตรการภาษีกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งออกชะลอตัวช้ากว่าคาด ยอมรับห่วงเงินเฟ้อ ชี้เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่กระทบกำลังซื้อในประเทศ พร้อมจับตาไม่ให้สูงเกินไป มองแนวโน้มจะลดลงในไตรมาส 2 หรือ 3 ขณะที่ปรับลดจีดีพีสหรัฐฯโตแค่ 1.4% คาดเฟดลดดอกเหลือ 1.5%

ความเชื่อมั่นลงทุนในไทยลด เหลือ2.2%อยู่อันดับ3เอเชีย (ข่าวหุ้น 23/4/51): ไอเอ็นจี กรุ๊ป เผยดัชนีความเชื่อมั่นของการลงทุนในไทยในไตรมาส 1/51 ลดลง2.2% ตามทิศทางความเชื่อมั่นของการลงทุนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกโดยรวม ที่ลดลงติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 2 แต่ถือว่าปรับตัวลงเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ และไทยยังจัดเป็นประเทศที่มีความเชื่อมั่นสูงสุดเป็นอันดับ 3 รองจากจีน และอินเดีย

บ้านปูบ่ยั่นอินโดฟิคพื้นที่เหมือง ยอดขายปีนี้ 19.5 ล้านตัน ราคาถ่านหินขึ้นอีกรอบ (ข่าวหุ้น 23/4/51): BANPU ไม่หวั่นรัฐบาลอินโดนีเซียฟิคพื้นที่เหมืองถ่านหินไม่เกิน 50,000 เฮคเตอร์"สมยศ"ลั่นไม่กระทบเหตุขนาดยังไม่ถึงมั่นใจปีนี้ยอดขายถ่านหิน ITM 19.5 ล้านตันเพิ่ม 10% แถมแนวโน้มราคาถ่านหินขยับขึ้นอีก จากความต้องการในจีนพุ่ง

SCGระดมพันล.-ขายหุ้นพ.ค.เทรดมิ.ย.เป้ารายได้ปีนี้โต10% (ทันหุ้น 23/4/51): SCG ลั่นกลองรบ เตรียมเปิดขายหุ้นไอพีโอเดือนพฤษภาคมนี้ 280 ล้านหุ้น คาดได้เงินระดมทุนกว่า 1 พันล้านบาท พร้อมเข้าเทรดในเดือนมิถุนายนนี้ ผู้บริหาร "ศุภชัย วีรบวรพงศ์" โชว์ปั๊มรายได้ปีนี้โต 10% เดินหน้าขยายธุรกิจจำหน่ายก๊าซ LPG ไปประเทศเวียดนาม เชื่อภาครัฐลอยตัวราคาก๊าซเดือนกรกฎาคมนี้ไม่กระทบฐานรายได้

HMPROกำไรQ1โต57% ตั้งงบลงทุนปีนี้2.6พันล้าน (ทันหุ้น 23/4/51): HMPRO ตั้งเป้างบลงทุนปีนี้ 2.6 พันล้านบาท ใช้กระแสเงินสดพร้อมเงินกู้อีกส่วนหนึ่งวางแผนขยายสาขาอีก 4 แห่ง เพิ่มให้ถึง 34 สาขาในปีนี้ มั่นใจปีนี้โตได้สวยงามปัจจัยหนุนเพียบ ทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐบาล แนวโน้มดัชนีผู้บริโภคที่ขยับขึ้นทุกเดือน หวังเกาะกระแสสินค้าอุปโภคบริโภคโตต่อเนื่องดันยอดขายโตไม่ต่ำกว่า 15%