kaisel
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380 |  วันที่: 19/03/2008 @ 09:08:45 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต ใครๆก็รู้ว้า "เสี่ยสอง" คือเจ้าของจริงของหุ้นไลฟ์
๐ดัชนีหุ้นไทยวานนี้ (18 มี.ค.) กลับมายืนในแดนบวกได้สำเร็จ มีแรงซื้อกลับมาในช่วงบ่าย หลังจากที่ช่วงเช้าดัชนีถูกผลกระทบจากการขึ้นเครื่องหมายเอ็กซ์ดี (XD) ของหุ้นในกลุ่ม ปตท.(PTT)
ทั้ง PTT ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น (PTTAR) และบริษัทไทยออยล์ (TOP) ซึ่งทำให้ดัชนีครึ่งวันเช้าลดลงไปประมาณ 4 จุด ตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ ก่อนตีตื้นในช่วงบ่าย ปิดตลาดดัชนีอยู่ที่ 812.32 จุด เพิ่มขึ้น 5.58 จุด มูลค่าการซื้อขาย 14,628 ล้านบาท
๐แวะเวียนมาเยี่ยมเยียนถึงบางนา กม.4.5 ท่านรัฐมนตรีคลังเงา กรณ์ จาติกวณิช เผยความลับที่ไม่ลับให้ฟังว่า เมื่อ 4 ปีที่แล้ว เจ.พี.มอร์แกน เชส ยังเคยเจรจาซื้อหุ้น แบร์ สเติร์นส์ วาณิชธนกิจเบอร์ 5 ของสหรัฐอเมริกาอยู่เลย ตอนนั้นราคาหุ้นในกระดานยังอยู่ในระดับ 100 ดอลลาร์กว่าๆ แต่ดีลไม่สำเร็จ เพราะปัญหาโลกแตก ตกลงราคากันไม่ได้
๐กรณ์ บอกว่า ถึงวันนี้แล้วต้องบอกว่าโชคดีจริงๆ บุญหล่นทับ ใช้เงินแค่ 236 ล้านดอลลาร์ หรือ 2 ดอลลาร์ต่อหุ้น เจ.พี.มอร์แกน เชส ก็ได้หุ้น แบร์ สเติร์นส์ มาครอบครอง กรณ์ มองว่า แบร์สเติร์นส์ จะเสริมเขี้ยวเล็บให้ เจ.พี.มอร์แกน เชส เห็นได้จากในวันที่หุ้นดาวโจนส์ร่วงอย่างหนัก แต่ราคาหุ้น เจ.พี.มอร์แกน เชส กลับกระโจนสวนทางซะงั้น แถมทิ้งท้ายพร้อมรอยยิ้มที่มุมปากเล็กๆ "โชคดีที่ผมยังมีหุ้นเจ.พี.มอร์แกน อยู่บ้าง" ออกอาการแบบนี้เรียกว่าได้โชค 2 ชั้นจริงๆ
๐กำไรกันเห็นๆ วานนี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รายงาน วัลลีย์ พิทักษ์ ขายหุ้นบริษัท เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง (GEN) เมื่อวันที่ 13 มี.ค.2551 จำนวน 6.22% หรือ 29,657,200 หุ้น ใครจะเชื่อแค่ 2 เดือนกว่าๆ ท่านเล่นกวาดกำไรเข้ากระเป๋ากว่า 20.46 ล้านบาท มีธุรกิจอะไรที่กำไรเร็วและรวยแบบนี้
๐คงต้องย้อนไปเมื่อวันที่ 17 ม.ค.2551 วัลลีย์ พิทักษ์ รายงานการซื้อหุ้น GEN จำนวน 33 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 1.51 บาท อย่างที่บอกแค่ 2 เดือน วัลลีย์ พิทักษ์ มีกำไรจากส่วนต่างราคาถึง 0.69 บาทต่อหุ้น เมื่อคำนวณจากราคาปิดของหุ้น GEN เมื่อวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา
สำหรับ วัลลีย์ พิทักษ์ เป็นหนึ่งในนักแสวงหาโอกาสที่ถูกชักนำให้ไปเกี่ยวข้องกับ "สอง วัชรศรีโรจน์" และเป็นผู้ที่มีชื่อปรากฏแทบทุกครั้ง เมื่อมีความเคลื่อนไหวของหุ้น ไลฟ์ อินคอร์ปอเรชั่น (LIVE) ซึ่งใครๆ ก็รู้ว่าเจ้าของตัวจริงคือ "สอง วัชรศรีโรจน์" รู้ๆ กันแบบนี้แล้ว ไม่ทราบว่าบรรดาแมงเม่าทั้งหลาย ยังจะเข้าไปต่อยอดความร่ำ ความรวย ให้กับเขาอีกหรือ ส่วนราคาหุ้น GEN ปิดตลาดวานนี้ที่ 2.42 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท หรือ 3.42% มูลค่าการซื้อขาย 108 ล้าน
Bangkokbiznews
:lol:
|
kaisel
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380 | #1 วันที่: 19/03/2008 @ 10:37:29 : เจาะกระดานหุ้นโมนิก้าและทีมงาน
บวกรับเฟดลดดอกเบี้ย!
*จริงๆ "โมนิก้า" ไม่อยากจั่วหัวแบบนี้ แต่เผอิญสำรวจองค์ประกอบรอบด้าน 360 องศา ได้รับคำตอบว่า การปรับลดอัตตราดอกเบี้ยหนนี้ เป็นเพียงแค่การบรรเทาสถานการณ์แบงก์ใหญ่ในอเมริกาไม่ให้พังครืนแบบนี้...เดี๊ยนรับฟังแล้วรู้สึกเสียวซ่านไปถึงก้นบึ้งของหัวใจเลยทีเดียวนะค่ะ
*เนื่องจากมีคำถามตามมาว่า การบวกไป 5.58 จุด ก่อนจะมาปิดที่ 812.32 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายในระดับ 1 หมื่นล้านบาทต้นๆ เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ดัชนีกลับทิศทางอย่างถาวรแล้วหรือยัง???...คำตอบที่ได้ คือ ยังไม่ชัดเจน เพราะแรงซื้อที่กลับมาวานนี้เหมือนจงใจดันดัชนีไม่ให้หลุด 800 จุด
*ขณะเดียวกันก้พยายามดันดัชนีขึ้นไปสร้างฐานแนวรับบริเวณ 810 จุดให้ได้ ภาพที่ออกมาถึงไม่เป็นธรรมชาติสักเท่าไหร่ อีกทั้งยังมีแรงกดดันจากราคาน้ำมัน และสินค้าอุปโภคบริโภคสูงขึ้นไม่เว้นในแต่ละวัน "โมนิก้า" ถึงหวั่นใจว่า แรงไล่ซื้อที่มีเข้ามาในช่วงท้ายตลาดเป็นการดันหุ้นไปออกของ???
*ทางที่ดีควรหาจังหวะขายทำกำไรในยามที่ดัชนีปรับตัวขึ้นแรงๆ เพราะการถือหุ้นนานๆ ไม่ได้ช่วยให้ผลกำไรงอกเงยขึ้นเลย...สู้เล่นแบบซื้อๆ ขายๆ หรือ ตีหัวเข้าบ้าน น่าจะให้ผลตอบแทนที่งดงามกว่าเป็นไหนๆ นะจ๊ะ
*พูดเสียจนยืดยาว "โมนิก้า" ขอวกกลับมาที่หนุ่มน้อยไฟแรง ฉาย บุญนาค ซึ่งใครๆ ก็พูดเป็นเสี่ยงเดียวว่าเป็นดาวรุ่ง(ผีพุ่งใต้) หลังเข้ามาฮุบหุ้น DE เบ็ดเสร็จเรียบร้อย ก็ประกาศกร้าวจะเดินหน้าทำธุรกิจถ่านหินหน้าตาเฉยแบบนี้...เดี๊ยนเห็นตกม้าตาย พร้อมกับปิดฉากชีวิตนักธุรกิจตั้งแต่เยาว์วัยมานักต่อนักแล้วนะค่ะ
*สาเหตุที่กล้าพูดเช่นนี้ก็เพราะ เบอร์ 1 เบอร์ 2 เบอร์ 3 และกูรูที่นับถือกันมาแต่ไหนแต่ไรเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่า ธุรกิจถ่านหินใช่ว่าจะทำกันได้ง่ายๆ ยิ่งตอนนี้มีเรื่องสิงแวดล้อมเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยแล้ว "โมนิก้า" ขอแนะนำพ่อแหนุ่มน้อยอย่าได้ริอาจทำอะไรไม่เข้าท่าอีกเลยเจ้าค่ะ
*เนื่องจากคอนเซ็ปดังกล่าวทั้งหมดที่เดี๊ยนได้ยินมา ไม่ใช่โมเดลที่ทำกันได้ง่ายๆ แถมประวัติความเป็นมาของพ่อหนุ่มรายนี้ ค่อนไปในทางนักวิศกรรมทางการเงิน(เขาว่ากันว่าชอบยุ่งอยู่กับพวกหุ้นเน่าๆ จริงเท็จยังไงไม่ยันยัน) .. อยากรู้ยังไงก็ต้องไปถามเจ้าตัวเอาเอง
*งานนี้ใครจะเชียร์กันอย่างสุดลิ่มทิ่มประตูก็เชิญ แต่สำหรับตัว "โมนิก้า" ขอยกมือไม่ไว้วางใจสถานเดียว หลังพฤติกรรมที่พูดกันปากต่อปาก มันทำให้เด็กคนนี้ไม่ต่างอะไรไปจากพวก...ใส่สูท เพราะสตอรี่ที่หยิบยกขึ้นมาคราวนี้ น่าจะทำให้ราคาหุ้นขยับตัวขึ้นแรงเลยทีเดียว
*ที่สำคัญ คือ หากไม่เหนือบ่ากว่าแรงเดี๊ยนขอรบกวนพ่อหนุ่มน้อยชี้แจงขอสงสัยดังกล่าวด้วยเถอะ เพราะคำชี้แจงทั้งหมดจะบอกให้รู้ว่า พ่อหนุ่มคนนี้เข้ามาทำธุรกิจจริงๆ หรือ
เข้ามาเพื่อเล่นเกมปั่นราคาหุ้น...อิอิอิ
*พูดถึงหุ้นเก็งกำไรสั้นๆ ติดต่อกันมาหลายวันแล้ว "โมนิก้า" ขอพูดถึงหุ้นบลูชิพยอดนิยมอย่าง TTA เป็นลำดับแรกก่อนใครเพื่อน เพราะถอนทุนคืนทั้งต้นทั้งดอกพร้อมกันในคราวเดียวเสร็จสรรพ โดยวันก่อนลงไปเท่าไหร่ วานนี้ก็ขึ้นไปเกือบเท่านั้น ล่าสุดถึงเห็นราคาหุ้นขึ้นมาปิดถึงระดับ 42 บาท บวกไป 3 บาทอย่างง่ายดาย...อย่างที่บอก คิดจะเล่นหุ้นพื้นฐานก็ต้องใจเย็นๆ หน่อย
*รองลงมาก็เป็นหุ้นในกลุ่ม ปตท. ขนาดขึ้นเครื่องหมาย XD กันโครมๆ แต่กลับมีแรงช้อนซื้อเข้ามารับหุ้นไม่ขาดสาย แสดงว่ากองทุนในประเทศต้องการเก็บหุ้นไว้ในพอร์ตจริงๆถึงตามเข้ามาเก็บหุ้นในช่วงที่อ่อนตัวลงมา "โมนิก้า" ก็อยากจะเห็นด้วยกับแนวความคิดข้างต้น แต่เผอิญมีจิ้งจกแถวสีลมทักว่า น่าจะเกิดจากกองทุนวายุภักษ์เข้ามาดันหุ้น เดี๊ยนถึงต้องหยุดเรื่องทั้งหมดไว้เพียงแค่นี้เจ้าค่ะ
*ถัดมาก็เป็นหุ้นกลุ่มแบงก์ใหญ่ ก่อนหน้านี้ราคาหุ้นรูดลงจนดูไม่ได้เลยสักตัว แต่พอแรงซื้อเริ่มกลับเข้ามาราคาหุ้นถึงกับกระโจนกันยกแผง "โมนิก้า" ถึงกล้าแนะนำให้นักลงทุนเข้าเก็บหุ้น BBL KBANK SCB และ KTB เพราะหุ้นเหล่านี้นับวันจะมีมูลค่าสูงขึ้นเรื่อยๆ...ขอย้ำอีกครั้งว่า มูลค่าของหุ้นนับวันจะสูงขึ้นเรื่อยๆ หากไม่เข้าซื้อตอนนี้ก้ไม่รู้จะเข้าซื้อตอนไหนนะจ๊ะ
*ท้ายสุดนี้ "โมนิก้า" ขอเชิญชวนมิตรรักแฟน "ข่าวหุ้น" เข้าร่วมฟังงานสัมนา "หุ้นเด่นไตรมาส2" ในวันเสาร์ที่ 22 มีนาคม 2251 ณ ห้องศาตร์จารย์สังเวียน อินทรวิชัย ชั้น 3 อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เวล่ 12.00-17.30 น.
*โดยไฮไลท์ของงานนี้เริ่มจาก 2 บริษัทอนาคตไกลขึ้นมาแสดงวิสัยทัศน์ พร้อมกับพูดคุยถึงโอกาสในการทำกำไรในช่วงเศรษฐกิจชลอตัว แฟนๆ หุ้นขนาดเล็กอนาคตสดใส ไม่ควรพลาดโอกาสพบปะผู้บริหารทั้ง 2 บริษัทแบบใกล้ชิดนะค่ะ
*งานนี้ยังมีการรวมเอากูรูหญิงด้านตลาดหุ้น มาบรรยายถึงการทำกำไรในภาวะตลาดหุ้นผันผวนโดยเฉพาะ...ใครอยากรวยไม่ควรพลาดโอกาสทองอันนี้เป็นอันขาด พร้อมกันนั้นยังเปิดโอกาสให้แฟนๆ ได้สอบถามข้อข้องใจต่างๆ อีกมากมายอีกด้วย
:lol: [/color:3bec48e4b3"> |
