April 29, 2024   6:45:06 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ต่างชาติทิ้งไม่รอเฟด
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 19/03/2008 @ 08:27:45
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

หุ้นทั่วโลกเด้ง ดักทางเฟดลดดอกเบี้ยแรง 0.75-1% ต่างชาติได้โอกาสทิ้งกว่า 3,000 ล้านบาท ด้าน ธปท.เข้าดูดสภาพคล่องในตลาดตราสารหนี้แสนล้านส่อแววเงินไหลเข้า

ตลาดหุ้นภูมิภาคและยุโรปดีดขึ้นแรงตามดัชนีดาวโจนส์ ยืนบวก 21 จุด หลังนักลงทุนตีความกันว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะลดดอกเบี้ย 0.75-1% ในวันนี้ ซึ่งจะทำให้ดอกเบี้ยระยะสั้นมาอยู่ที่ 2-2.25% จากเดิม 3% โดยดัชนีนิกเกอิปิด 11,964.16 จุด เพิ่มขึ้น1.5%


สำหรับหุ้นไทยตอนเช้าหลุดระดับ 800 จุด แต่ปลายตลาดมีแรงไล่ซื้อหุ้นตัวใหญ่โดยเฉพาะธนาคารขนาดใหญ่ ดันให้ดัชนีเด้งขึ้นปิดที่จุดสูงสุด 812.32 จุด เพิ่มขึ้น 5.58 จุด หรือ 0.69% ด้วยมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 14,628.35 ล้านบาท แต่ ต่างชาติขายหนัก 3,091 ล้านบาท ส่วนสถาบันซื้อ 1,202 ล้านบาท และรายย่อยซื้อ 1,889 ล้านบาท


ขณะที่วานนี้ มีหุ้นใหญ่หลายตัว โดยเฉพาะบริษัท ปตท. (PTT) ที่ จ่ายเงินปันผลหุ้นละ 6.50 บาท ได้ขึ้นเครื่องหมาย XD ผู้ซื้อไม่มีสิทธิ รับเงินปันผล ซึ่งมีผลให้ราคาหุ้นอ่อนตัวลงและส่งผลต่อดัชนีติดลบประมาณ 4.75 จุด


นางวิริยา ลาภพรหมรัตน ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เกียรตินาคิน กล่าว ว่า ดัชนีเพิ่มขึ้นแรงในช่วงบ่าย จากแรงซื้อเก็งกำไรคาดเฟด อาจลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.75-1%


อย่างไรก็ตาม ดัชนีจะดีขึ้นในระยะสั้นเท่านั้น ดังนั้นจึงยังคงแนะนำให้นักลงทุนถือเงินสด 75% และลงทุนแค่ 25% ให้แนวรับที่ 800 จุด แนวต้าน 815-820 จุด


บล.พัฒนสิน (CNS) แนะให้ถือเงินสดเช่นกัน รวมถึงแนะให้ขายชอร์ตหุ้นในกลุ่มพลังงานและพลังงานทดแทน และค่อยกลับไปซื้อกลับเมื่อราคาลดลงไป 3-5% ตามปัญหาการเงินของสหรัฐทำให้สถาบันต่างๆ เร่งขายเงินลงทุน


บล.เอเซีย พลัส (ASP) เปิดเผยว่า การที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ส่งสัญญาณว่าอาจไม่ลดดอกเบี้ยลงตามเฟด ในการประชุมวันที่ 9 เม.ย. นี้ อาจเป็นปัจจัยทำให้เงินทุนไหลเข้าประเทศได้เพราะส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยในและต่างประเทศกว้างขึ้น 0.75-1% นอกจากนี้ยังคาดว่ากลางปีนี้เฟดจะลดดอกเบี้ยเหลือ 1.5% ซึ่งจะทำให้ เงินบาทแข็งค่าและตลาดหุ้นปรับเพิ่มขึ้นได้

แหล่งข่าวจากตลาดตราสารหนี้เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 มี.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เข้าไปแทรกแซงค่าเงินบาทผ่านตลาดตราสารหนี้ด้วยการเข้าไปดูดซับสภาพคล่องออกมากกว่า 1 แสนล้านบาทหลังจากมีแนวโน้มบ่งชี้ว่าค่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้น


ด้านนางผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตลาดการเงินและบริหารเงินสำรอง ธปท. กล่าวว่า ยังไม่เห็นสัญญาณนักลงทุนต่างชาติเข้ามาเก็งกำไรในตลาด ตราสารหนี้ของไทย

posttoday

:lol:

 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#1 วันที่: 19/03/2008 @ 08:43:57 :
ซบเซา
ตลาดหุ้นไทยวันที่ 17 มี.ค. เคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ ตามทิศทางของตลาดหุ้นทั่วโลกที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาขาดสภาพคล่องในสหรัฐ ซึ่งเปิดตลาดช่วงเช้าดัชนีสามารถดีดตัวยืนในแดนบวกได้ ก่อนเริ่มอ่อนแรงลงจากแรงเทขายทำกำไร ทำให้บรรยากาศซื้อขายตลอดทั้งวันค่อนข้างซบเซา โดยระหว่างวันดัชนีแตะระดับสูงสุดที่ 809.93 จุด และลดลงต่ำสุดที่ระดับ 805.68 จุด จนมาปิดตลาดที่ 806.74 จุด ลดลง 11.30 จุด หรือ 1.38% ด้วยมูลค่าซื้อขายบางเบาเพียง 12,519.38 ล้านบาท

ส่วนตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ดัชนีปิดที่ 262.78 จุด ลดลง 2.67 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขาย 144.46 ล้านบาท

น.ส.สิริณัฏฐา เตชะศิริวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโส บล.ไซรัส มองว่า ตลาดหุ้นไทยร่วงลงตามตลาดหุ้นในภูมิภาค แต่ถือว่าไทยลงน้อยกว่า เป็นผลจากปัญหาการขาดสภาพคล่อง ทางการเงินของสหรัฐ ทำให้สหรัฐต้องออกมาตรการด้วยการให้เงินทุนระยะสั้นแก่บริษัท แบร์ สเติร์นส์ ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ก็ประกาศมาตรการฉุกเฉิน โดยลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ซึ่งเมื่อสหรัฐขาดสภาพคล่อง จึงส่งผลกระทบต่อการค้าขายในประเทศอื่น
สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในระยะอันใกล้นี้ มองว่ายังแกว่งตัวไม่มากนัก เพราะยังไม่มีปัจจัยบวกมาสนับสนุน โดยประเมินแนวรับทางเทคนิคไว้ที่ 806 จุด

นอกจากนี้ ต้องติดตามการประกาศลดดอกเบี้ยของเฟด เพราะหากมีการลดดอกเบี้ยในอัตราที่มาก ประกอบกับมีมาตรการอื่น ๆ ออกมารองรับอีก คาดว่าจะทำให้ตลาดหุ้นไทยเริ่มฟื้นตัวขึ้นได้.

dailynews

:lol:
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com