kaisel
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380 |  วันที่: 17/03/2008 @ 09:58:27 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต *เริ่มต้นสัปดาห์ก็คงไม่มีอะไรแตกต่างจากสัปดาห์ก่อนเพราะภายในตลาดหุ้นยังไม่ได้รับปัจจัยใหม่ๆเข้ามา แต่โชคยังดีที่นักลงทุนไม่ตื่นตกใจไปกับปัจจัยเดิมๆอย่างการเมือง ที่ยังมุ่งจะเอาชะนะกันอยู่ได้ทุกวัน เห็นอย่างนี้เดี๊ยนชื่นชมความเข้มอข็งของนักลงทุนที่ยังเชื่อมันในตลาดหุ้นไทย
*ยังไงแม้ภาวะตอนนี้จะนิ่งหรือทำได้แค่แกว่งตัวแคบๆก็คงต้องให้นักลงทุนทำใจเย็นและรอไปก่อนค่ะ
*ส่วนหุ้นรายตัวที่พอจะให้ได้เล่นพลางไปก่อนก็มีหลายรายเหมือนกัน เริ่มกันที่รายแรก VNT ปีนี้เข้าสู่ยุคทอง รายได้ 1.2 หมื่นล้าน เดินเครื่องขยายกำลังผลิต 7 หมื่นตันต่อปี ก.ค.นี้ ยอดผลิตรวมเป็น 2.8 แสนตันต่อปี
* PTTAR รายได้ปีนี้เติบโต 20% ขานรับราคาน้ำมันดิบพุ่ง เหตุราคาผลิตภัณฑ์ขยับตัวตามไปด้วย ล่าสุด "พาราไซลีน" แตะระดับ 1,300 เหรียญสหรัฐต่อตัน "เบนซีน" ยืนเหนือ 1,100 เหรียญสหรัฐต่อตัน โบรกฯ แนะนำซื้ออัพไซด์กว่า 40%
* TOP ครึ่งปีแรกกระหึ่ม หลังค่าการกลั่นพีคสุด 1.3 เหรียญตามราคาน้ำมันโลก "พาราไซลีน" เริ่มฟื้นตัว แถมขยายกำลังผลิตถูกจังหวะ "วิโรจน์" คาดค่ากลั่นเฉลี่ยไม่รวมสต๊อกปีนี้ไม่ต่ำกว่า 5-6 เหรียญต่อบาร์เรล พร้อมเดินเครื่องผลิตน้ำมันมาตรฐานยูโร 4 แม้แบกรับต้นทุนเพิ่ม โบรกฯ มั่นใจกำไร Q1 โดดเด่น P/E แค่ 7 เท่า เป้าหมาย 93 บาท
* PTT-PTTCH พร้อมใจวิ่งก่อนขึ้น XD 18 มี.ค. ปตท.ลุ้นแนวต้าน 346 บาท ส่วน "พี่เท่ง" 113 บาท เชื่อเฟดอาจลดดอกเบี้ยลงอีกอย่างน้อย 0.50% ช่วยหนุนเม็ดเงินจากต่างชาติเข้ามามากขึ้น ด้านผู้บริหารมั่นใจปีนี้ธุรกิจเติบโตต่อเนื่อง
* STEC ยอมรับแบกรับต้นทุนบาน ย้ำงานใหม่ต้องรับราคาขึ้นตาม เชื่อตัวเลขกำไรปีนี้ดีกว่าเดิมที่เคยทำได้แค่ 21.67 ล้านบาท พร้อมเตรียมศึกษาลู่ทางบุกอินเดียหวังน้ำบ่อหน้าโรงไฟฟ้าเกิดใหม่เพียบ
* SPPT ยอดขายไตรมาสแรกสวยกว่า Q4 จากยอดคำสั่งซื้อสินค้าฮาร์ดดิสก์เพิ่มขึ้นหวังรายได้ปี51 แตะ 1,000 ล้านบาท เล็งขยายส่งออกต่างประเทศมากขึ้นเป็น 12% จากเดิม 2% โบรกฯ มองกำไรสุทธิปีนี้ 144 ล้านบาท เติบโต 60% ลุ้น Q2 ขายเครื่องแปรรูปขยะพลาสติกเป็นน้ำมัน
* หุ้นแม่ลูก EWC ควงคู่ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังมีข่าวดีรุมล้อม ทั้งข่าวการจ่ายปันผลและเตรียมออกวอร์แรนต์ใหม่ที่คาดว่าใกล้สรุปได้เดือน เม.ย.นี้ โบรกฯ ชี้หุ้นแม่ยังคงน่าสนใจกว่าหุ้นลูก แม้หุ้นลูกจะมาแรงกว่า ประกอบกับสัญญาณทางเทคนิคยังไปต่อได้จึงแนะซื้อเก็งกำไรได้ทั้งสองตัว
* TICON เผยเป้ารายได้ปีนี้แตะ 3,700 ล้านบาท โตกว่า 10-15% จากปีก่อน ปลาย Q3/51 เล็งเพิ่มทุน TFUND กว่า 2,300 ล้านบาท พร้อมทุ่มเงิน 3,000 ล้านบาท ลงทุนขยายโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าปีนี้เพิ่มอีก 230,000 ตารางเมตร ล่าสุดเปิดเขตปลอดอากรที่ TPARK เดินหน้าบริการโลจิสติกส์พาร์คครบวงจร
*N-PARK เฮเพิ่มทุน 4.03 พันล้านหุ้นผ่านฉลุย ผู้ถือหุ้นแห่ใช้สิทธิ์ซื้อหุ้นล้นหลาม เตรียมนำเงินที่ได้กว่า 201 ล้านบาท ลุยพัฒนา 2 โครงการ คือ เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ หลังสยามพารากอน 120 ล้านบาท และโรงแรมหรูที่โรงภาษีร้อยซักสาม 81 ล้านบาท
* METRO ร่วงลงหนักกว่า 38% ทำให้ตลาดฯ ติดตามความเคลื่อนไหวราคาหุ้นช่วงที่ผ่านมา มีรายการซื้อขายขนาดใหญ่เกิดขึ้นหลายครั้ง แต่ยังไม่มีมาตรการใด เพื่อดำเนินการกับกลุ่มดังกล่าว "วีระ" มั่นใจกลุ่ม "บูรพชัยศรี" ไม่ได้เทขายหุ้นแน่นอน เชื่อต้องการเป็นผู้ถือหุ้นระยะยาว
* CPN ร่วม 4 บริษัท ดันเซ็นเตอร์พ้อยท์ขึ้นห้าง ก.ย.นี้ รุกตั้งทีนเซ็นเตอร์แห่งเอเชีย เป้าหมาย 200 อีเวนต์เจาะกลุ่มวัยรุ่นไทย เกาหลี ญี่ปุ่น และอเมริกา เชื่อคนเข้ากว่า 30,000 คนต่อวัน สร้างยอดขายเพิ่ม 10-20%
*ยังไงก้เลือกเฟ้นหาหุ้นที่ถูกใจเล่นพลางไปก่อน เพราะดูทิศทางในเช้านี้ก็คงจะแก่ว่งตัวในระดับ 812-820 จุด เป็นหลัก
|
kaisel
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380 | #1 วันที่: 17/03/2008 @ 10:04:06 : เจาะกระดานหุ้นโมนิก้าและทีมงาน
กล้าพอไหม?
*เริ่มต้นสัปดาห์นี้ "โมนิก้า" ขอขึ้นต้นบทความด้วยการท้าทายความสามารถของนักลงทุนสักหน่อย เพราะอาการแกว่งตัวขึ้นๆ ลงๆ ของดัชนีในช่วงที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนรายย่อยสติแตก จนต้องตัดขายหุ้นขาดทุนซ้ำแล้วซ้ำเล่า...จึงเชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นอีกในสัปดาห์นี้
*เนื่องจากเวทีแห่งนี้เป็นสนามของนักลงทุนประเภท "มือไว ใจกล้า" หากนักลงทุนรายใดรู้ว่า ตัวเองไม่มีคุณสมบัติดังกล่าวข้างต้น กรุณาถอนตัวตั้งแต่เนิ่นๆ เหมือนคุณพี่อภิรักษ์ ที่ตัวรู้เองเข้าไปพัวพันคดีทุจริตรถดับเพลิง ก็รีบชิงลาออกเพื่อแสดงสปิริตนักการเมือง(น้ำเน่า)นั่นไง
*ยิ่งตัวแปรที่กำหนดทิศทางดัชนีมาจากต่างประเทศล้วนๆ ยิ่งทำให้การคาดเดาดัชนีจะวิ่งไปทางไหนลำบากมากขึ้นแบบนี้ไงหล่ะ...กระแสเล่นหุ้นเก็งกำไรสั้นๆ ถึงกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง "โมนิก้า" ถึงต้องการให้ผู้เล่นที่อยู่ในตลาดหุ้นตอนนี้เป็นพวกลุยไหนลุยนั่น เพราะนักลงทุนเหล่านี้ไม่เคยส่งเสียงร้องโอดโอยเมื่อเจ๊งหุ้น
*ถึงกระนั้น "โมนิก้า" ก็รู้สึกดีใจที่เห็น บริษัทไปรษณีย์ไทย มีความสนใจเข้ามาจดทะเบียนในตลาดเอ็มเอไอ เพราะแสดงว่า กลุ่มผู้บริหารเล็งเห็นประโยชน์ที่จะได้จากตลาดหุ้นนะค่ะ
*ปัญหามีอยู่อย่างเดียว คือ กลุ่มผู้บริหารจะบรรจุเรื่องนี้เข้าในวาระประชุมเมื่อไหร่
เพราะการสักแต่ว่าจะพูดไปเรื่อยๆ ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นหรอกนะ เพราะตอนนี้บริษัทที่บอกว่าจะเข้าซื้อขายในเร็วๆ นี้ ก็เลื่อนแล้วเลื่อนอีก ส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนช่วงนี้เงียบเหงาเหลือเกิน
*ขนาดเหลือตาไปดูหุ้นใหญ่อย่าง PTT วันละหลายๆ รอบ ก็ไม่เห็นราคาหุ้นกระชากขึ้นแรงๆ ได้เสียที แถมวันพรุ่งนี้จะขึ้นเครื่องหมาย XD หุ้นละ 6.50 บาท โอกาสที่หุ้นจะวิ่งขึ้นแบบหูดับตับไหม้คงไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน...เดี๊ยนถึงต้องการให้นักลงทุนตั้งรับซื้อหุ้นเมื่ออ่อนตัวไงหล่ะค่ะ
*เช่นเดียวกับในรายของ PTTCH ราคาหุ้นกวัดแกว่งไปมาตามภาวะการลงทุน ส่วนหนึ่งมาจากธุรกิจปิโตรเคมีเริ่มทรงตัว ส่งผลให้ตัวเลขกำไรในปี 2551 อาจไม่หวือหวาเหมือนเช่นปีที่ผ่านๆ มา ขณะที่วันถัดไปก็จะขึ้นเครื่องหมาย XD หุ้นละ 4 บาท "โมนิก้า" ถึงแนะให้นักลงทุนขายเอากำไรมานอนกอดตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะช่วงนี้ไว้ใจอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง
*สำหรับหุ้นแบงก์เล็ก TISCO ของเฮียปลิว มังกรกนก หมู่นี้อาจไม่หวือหวาเท่ากับแบงก์ใหญ่ก็จริง แต่คุณพี่การันตรีว่า หากผ่านพ้นช่วงการสว๊อปเพื่อยกเป็นโฮลดิงส์เสร็จสรรพเมื่อไหร่...รับรองหุ้นแบงก์เล็กตัวนี้วิ่งระเบิดเถิเทิงแน่นอน แต่ตอนนี้ต้องร้องเพลงรอไปก่อนะค่ะ
*ถึงกระนั้นคุณพี่ก็ยังเผยสูตรเด็ดให้กับทีมงาน "โมนิก้า" ฟังว่า การที่แบงก์ยืนหยัดอยู่ได้ทุกวันนี้ เกิดจากฝีมือการบริหารงานล้วนๆ ก็เลยมั่นใจสุึดๆ ว่า 3 ปีต่อจากนี้ยอดสินเชื่อจะโตปีละ 20% ซึ่งจะทำให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นไปได้เรื่อยๆ...งานนี้ทราบแล้วช่วยบอกต่อด้วยนะค่ะ
*อีกรายที่น่าจับตาไม่แพ้กันก็คือ AOT หลังผ่านพ้นเรื่องร้ายๆ และบอร์ดบริหารชุดใหม่เตรียมจะยกเลิกมติบอร์ดเก่าที่พยายามขับไล่คิงเพาว์เวอร์ ก็ทำให้เรื่องราวต่างๆ
ที่ทำท่าบานปลายจบลงอย่างแฮปปี้เอ็นดิ้ง ราคาหุ้นถึงเริ่มผงกหัวขึ้นเรื่อยๆ "โมนิก้า" ต้องรีบแนะนำให้ซื้อตั้งแต่หัววันไงหล่ะค่ะ
*ก่อนจะวกไปหาหุ้นเก็งกำไรยอดนิยม "โมนิก้า" ขอแนะนำนักลงทุนเหลียวมองม้านอกสายตา VNT สักหน่อย หลังจากพรายกระซิบยืนยัน นั่งยัน และนอนยันว่า ชอบแอบขึ้นโดยไม่ให้รู้เนื้อรู้ตัวเป็นประจำ...เมื่อหันมาดูตามคำแนะนำดังกล่าว ก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เสียด้วยนะจะบอกให้
*งานนี้นักลงทุนรายใดมีเงินเย็นเก็บไว้เหลือเฟื่อ "โมนิก้า" ขอแนะนำให้เจียดเงินดังกล่ามาเล่นหุ้นตัวนี้ไว้บ้าง เพราะตอนนี้หุ้นพักฐานทดสอบแรงเทขายอยู่แถว 7.40 บาท และรอเวลาที่จะไต่ระดับขึ้นไปยังแนวต้านเก่าบริเวณ 9 บาท...หากไม่หนักหนาสาหัสจริงๆ ลองเหลือบดูหุ้นตัวนี้ไว้บ้างนะค่ะ
*ทางด้าน DE กลายหุ้นเก็งกำไรสั้นๆ ยอดนิยมที่มาแรงสุดยามนี้ไปเสียแล้ว หลังมีแรงซื้ออัดแน่นเข้ามาตลอดทั้งวัน จนราคาหุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ 1.34 บาท บวกไป 0.19 บาท หรือขึ้นไปถึง 16.52% พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขายที่แน่นขนัด "โมนิก้า" คงไม่ต้องไปหาเหตุผลอะไรมาอธิบายอีกต่อไป เพราะของมันเห็นกันทนโท่ว่า เสี่ยน้อย เสี่ยใหญ่ กระโจนเข้ามาปั่นราคาพะยะค่ะ
*เช่นเดียวกับในรายของ EMC มีแรงซื้อเข้ามาประปรายตามประสาหุ้นยอดนิยม(ชั่วครั้งชั่วคราว)แต่น่าสนใจกว่ากลับเป็นหุ้นลูก EMC-W1 ราคาหุ้นวิ่งระเบิดเถิดเทิงไปถึง 37% หรือบวกไป 1.08 บาท ก่อนจะมาปิดที่ระดับ 4 บาท มันหมายความว่า มีคนตั้งใจทำราคาอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ
*งานนี้เดี๊ยนไม่มีคอมเม้นท์ใดๆ ทั้งสิ้น เพราะต้องการให้นักลงทุนอย่างเราๆ ท่านๆ ตัดสินใจกันเอาเองว่ากล้าเกาะแสหุ้นเก็งกำไรสั้นหรือเปล่า???
:lol: [/color:e4f7d1ccff"> |
