April 29, 2024   9:42:36 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ทิศทางสัปดาห์นี้........
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 16/03/2008 @ 16:00:17
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

The Stock Exchange of Thailand
ปิด 818.04 จุด ณ 14 มี.ค. 51

ตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีมีความผันผวนมากขึ้นเรื่อยๆ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากดัชนีไม่อาจฝ่า Tweezers Top ที่ 850 จุด จากนั้นมาก็อ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่องกระทั่งทำจุดต่ำบริเวณ 805 จุด เมื่ออังคารก่อน แม้จะเกิดการดีดกลับอย่างรุนแรงตามมา แต่ดัชนีก็ไม่อาจยืนเหนือแนว Dead Cross บริเวณ 830 จุดหากแต่เกิดการปรับฐานอย่างรวดเร็วตามมา ซึ่งส่งผลให้ RSI มีสถานะเป็นลบมากขึ้น การที่เกิดสัญญาณเชิงลบทั้งสองพร้อมกันจะกดดันให้ดัชนีปรับฐานลงต่อได้อีก ซึ่งอัตราเร่งจะเด่นชัดมากขึ้นในช่วง 2-3 สัปดาห์หน้าโดยระหว่างนี้ดัชนีอาจพยายามดีดกลับเป็นระยะๆ เนื่องจากพบรูปแบบ Doji เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 75 วัน แต่การดีดตัวยากที่จะไปไกลเกินกว่า 830 จุด นักลงทุนอาจใช้โอกาสนี้ขายทำกำไร อนึ่ง ในการปรับฐานหลักนั้นดัชนีมีความเป็นไปได้สูงยิ่งที่จะลงไปปิด gap ล่าง และบริเวณที่เกิด Golden Cross ราว 780 จุด ซึ่งเป็นจุดที่จะเข้าซื้อคืนได้

สำหรับทิศทางสัปดาห์นี้ ดัชนีน่าจะดีดกลับได้ในช่วงต้น นำโดยพลังงานและปิโตรเคมี อย่างไรก็ตาม หุ้นในสองกลุ่มนี้มีอัตราการดีดตัวน้อยซึ่งไม่เหมาะกับการเก็งกำไรเท่าใดนัก ขณะที่ดัชนีมีอัตราการแกว่งตัวผันผวน อาจมีหุ้นขนาดเล็กหลายตัวที่โดดเด่นเหมาะแก่นักลงทุนที่พร้อมรับความเสี่ยงสูง ซึ่งน่าจะได้รับผลตอบแทนสูงเช่นกัน หุ้นเหล่านี้ได้แก่ BLISS, IEC, N-PARK, SYNTEC, NWR, EMC, TGCI, THL, AMC, APURE, PSAP, D1 และ DE

แนวรับ: 800-805 จุด
แนวต้าน: 830-835 จุด


นายภูวดล วงศ์วิริยะชัย no.17620
puwadolw@seamico.co.th


:lol:

 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#1 วันที่: 17/03/2008 @ 08:38:29 :
หุ้นไทยสัปดาห์นี้ ฝากชะตาไว้กับ 2 ปัจจัยทั้งใน-นอกประเทศ ลุ้นคำตัดสินยุบ "ชาติไทย-มัชฌิมาฯ" 18 มี.ค. นี้ เพื่อสร้างความชัดเจนปัญหาการเมืองไทย ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศต้องรอผลการลดดอกเบี้ยเฟดรอบนี้ หากต่ำกว่าที่คาดการณ์ 0.5-0.75% กระทบตลาดหุ้นหุ้นแน่ ด้านโบรกเกอร์ฟันธงตลาดหุ้นสัปดาห์ผันผวนหนักแน่นอน ดัชนีส่อหลุด 790 จุด เหตุหุ้นใหญ่เครือปตท.เตรียมขึ้น XD เพียบ

ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ ยังคงต้องติดตามปัจจัยทั้งสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ โดยเฉพาะการตัดสินคดียุบ 2 พรรคการเมือง ทั้งพรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิไตย ในคดีทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง รวมถึงคดีนายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ที่อาจจะลามถึงขั้นยุบพรรคพลังประชาชน ซึ่งในกรณีของการพิจารณาคดียุบพรรคชาติไทยและพรรคมัชฌิมาฯจะมีการตัดสินในวันที่ 18 มี.ค.นี้ รวมถึงการประกาศรวมตัวอีกครั้งของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิไตยในวันที่ 28 มี.ค.

ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศ คือการพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด ที่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าในรอบการประชุมครั้งนี้เฟดอาจจะต้องปรับลดดอกเบี้ยลงอีก 0.5-0.75% เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยทั้ง 2 เรื่องถือว่าเป็นประเด็นที่อาจจะกำหนดทิศทางการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยตลอดสัปดาห์นี้

นายแสงธรรม จรณชัยกุล ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.ธนชาต กล่าวว่า แนวโน้มการลงทุนในตลาดหุ้นสัปดาห์นี้ดัชนีมีโอกาสที่จะปรับตัวลดลงต่อเนื่อง จากประเด็นทางการเมืองที่ยังถือเป็นความเสี่ยงต่อการลงทุนโดยเฉพาะกรณีผลการตัดสินคดียุบพรรคชาติไทย และมัชฌิมาธิปไตย รวมถึงการพิจารณาคดีพรรคพลังประชาชนเป็นนอมินีพรรคไทยรักไทย ซึ่งเรื่องดังกล่าวถืออาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเมือง

ทั้งนี้ แรงขายของนักลงทุนต่างชาติที่เริ่มเห็นสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้น อาจเป็นเพราะต้องการขายสินทรัพย์เสี่ยงที่ถือครองเพื่อรอความชัดเจนเกี่ยวกับผลการประชุมพิจารณาลดดอกเบี้ยของเฟด เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ถดถอยอย่างรุนแรงจากปัญหาสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ด้อยคุณภาพ หากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในรอบนี้น้อยกว่าที่คาดการณ์อาจทำให้เกิดแรงกดดันให้ต้องขายเงินลงทุนออกมาได้ ซึ่งจะขยายวงกว้างกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก

นอกจากนี้ ประเด็นเรื่องการขึ้นเครื่องหมาย XD โดยเฉพาะในกลุ่มบมจ. ปตท. (PTT) ไม่ว่าจะเป็น PTT, PTTAR, PTTCH จะเป็นอีกเหตุผลที่กดดันดัชนีให้ต้องปรับตัวลดลง โดยประเมินแนวรับ 790 จุด และแนวต้าน 820 จุด

**ฟันธงหุ้นไทยผันผวนหนัก

นายอดิศักดิ์ คำมูล ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นตลอดสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวในทิศทางที่ผันผวนอย่างมาก จากปัจจัยต่างประเทศเกี่ยวกับการประชุมของเฟดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยตามที่ได้ส่งสัญญาณมาก่อนหน้านี้หรือไม่ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยประมาณ 0.50 - 0.75% ซึ่งหากเป็นไปตามที่คาดการณ์คงส่งผลต่อตลาดหุ้นไม่มากนัก เนื่องจากเป็นเรื่องที่ตลาดรับรุ้มาก่อนแล้ว แต่หากเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากกว่า 0.75% ถือเป็นข่าวดีที่จะช่วยกระตุ้นตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้ได้

ขณะที่ปัจจัยการเมืองในประเทศยังต้องรอความชัดเจน หลังจากเมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา คณะกรรมการสืบสวนสอบสวนกรณียุบพรรคชาติไทยและพรรคมัชฌิมาธิปไตยได้สรุปและส่งสำนวนต่อ กกต. เพื่อพิจารณาในวันที่ 18 มีนาคมนี้ หากผลคำตัดสินออกมาว่ากรรมการบริหารพรรคทั้งสองพรรคคนอื่นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำของกรรมการบริหารพรรคที่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ส่งผลให้ทั้งสองพรรครอดพ้นการถูกยุบพรรค จะช่วยให้บรรยากาศการลงทุนในสัปดาห์ดีขึ้น

ในทางตรงกันข้ามหากผลคำตัดสินออกมาอีกแบบหนึ่ง และอาจนำไปสู่การยุบพรรคทั้งสองพรรค รวมทั้งทำให้เกิดความกังวลกับเสถียรภาพของรัฐบาล ตลาดหุ้นมีโอกาสปรับลดลงได้เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม สัญญาณทางเทคนิคแนวต้านอยู่ที่ 830 จุด ซึ่งหากดัชนีสามารถยืนเหนือ 830 จุดได้ แนวโน้มระยะสั้นจะดี แต่หากดัชนีไม่สามารถยืนเหนือ 830 จุดได้ ก็มีโอกาสปรับลดลงมาทดสอบแนวรับที่ 790 จุด

**"ปกรณ์"ย้ำฝรั่งขายเรื่องปกติ

นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า แรงขายจากนักลงทุนต่างชาติในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาจนส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทยถือว่าเป็นเรื่องปกติของการลงทุนที่เมื่อราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นก็ต้องมีการขายทำกำไรออกมา ประกอบกับตลาดหุ้นไทยยังขาดแรงดึงดูดที่จะรั้งให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนระยะยาว

"คงไม่ใช่เรื่องที่ผิดปกติที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิออกมาเพราะเมื่อราคาปรับเพิ่มขึ้นก็ต้องมีการขายทำกำไรเป็นเรื่องธรรมดา"นายปกรณ์กล่าว


Manager

:lol:
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#2 วันที่: 17/03/2008 @ 08:40:35 :
โบรกฯคาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้าอ่วม หลังการเมืองร้อน เพราะคดียุบพรรคการเมือง อาจวิ่งเต้นกันฝุ่นตลบ ทั้งกรณีของ ชท.-มฌ.และคดีนอมินีพรรคพลังประชาชน และเกรงว่าจะนำมาสู่ความสับสนวุ่นวาย ด้านนักลงทุนต่างชาติเตรียมโยกเงินหนี เพื่อรอเฟดประชุมดอกเบี้ย 18 มี.ค.นี้ ประเมินแนวรับ 790 จุด แนวต้าน 820 จุด

วันนี้ (16 มี.ค.) นายแสงธรรม จรณชัยกุล ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ธนชาต จำกัด กล่าวถึงภาวะการการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยระบุว่า บรรยากาศในการซื้อขายเป็นไปด้วยความซบเซา แม้ว่าดัชนีหุ้นไทยจะปรับเพิ่มขึ้น แต่มูลค่าการซื้อขายเบาบางเพียง 1 หมื่นกว่าล้านบาท

ทั้งนี้ เนื่องจากตลาดหุ้นไทยขาดปัจจัยบวกใหม่กระตุ้นจิตวิทยาการลงทุนอย่างชัดเจน และราคาหุ้นมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่พักฐานตามแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ ทำให้นักลงทุนหันมาซื้อเก็งกำไรหุ้นมาร์เก็ตแคปขนาดเล็ก ส่งผลให้ดัชนีปรับเพิ่มขึ้นแต่มูลค่าการซื้อขายเบาบาง

?นักลงทุนต่างชาติส่วนใหญ่อาจชะลอการลงทุน เพื่อติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ในวันที่ 18 มี.ค.นี้ จะกำหนดอัตราดอกเบี้ยในทิศทางใด เพราะจะส่งผลกับบรรยากาศการลงทุน?

สำหรับแนวโน้มในสัปดาห์หน้า ประเมินว่า ดัชนีหุ้นไทย มีโอกาสปรับลดลง เนื่องมาจากประเด็นการเมืองที่มีความเสี่ยงจากผลการตัดสินคดียุบพรรคชาติไทย และมัชฌิมาธิปไตย รวมถึงคดีพรรคพลังประชาชนเป็นนอมินีพรรคไทยรักไทย ที่อาจกระทบต่อเสถียรภาพทางการเมือง เชื่อว่าจะกดดันบรรยากาศการลงทุน และส่งผลเชิงลบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ช่วงสั้นๆ เพราะคาดกันว่าจะมีการวิ่งเต้นกันฝุ่นตลบ และนำมาซึ่งความวุ่นวาย หลายมาตรฐาน

นอกจากนี้ คาดว่า เม็ดเงินต่างชาติจะเริ่มไหลออก เพราะนักลงทุนและกองทุน น่าจะขายสินทรัพย์เสี่ยง เพื่อรอดูความชัดเจนว่าในการประชุมวันที่ 18 มี.ค.นี้ เฟดจะมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง เพื่อกระตุ้นภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ถดถอยอย่างรุนแรงจากปัญหาซับไพรม์ ตามที่คาดการณ์หรือไม่ ซึ่งหากเฟดปรับลดน้อยกว่าคาด ก็อาจทำให้มีแรงขายออกมากดดันให้ตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึงตลาดหุ้นไทยปรับลดลงอีก

อย่างไรก็ตาม อีกหนึ่งประเด็นที่เป็นตัวแปรเชิงลบต่อการลงทุนสัปดาห์หน้าคือการขึ้นเครื่องหมาย XD เพื่อรับเงินปันผลของหุ้นในกลุ่ม ปตท.ทั้ง PTT, PTTAR และ PTTCH ซึ่งอาจกดดันให้ดัชนีฯปรับลดลง เนื่องจากเป็นหุ้นมาร์เกตแคปขนาดใหญ่มีผลต่อการเคลื่อนไหวดัชนีฯ

กลยุทธ์แนะนำซื้อเก็งกำไรหุ้นกลุ่มพลังงานในตัวของ PTTEP โดยแนวรับ 790 จุด แนวต้าน 820 จุด


:lol: [/color:e63c10d6c8">
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#3 วันที่: 17/03/2008 @ 09:56:45 :
ปัญหาสภาพคล่องของแบร์ สเติร์น จนเฟดต้องอัดฉีดฉุกเฉิน ก่อให้เกิดความวิตกว่าปัญหาการตั้งสำรองของสถาบันการเงินยังไม่ถึงจุดสิ้นสุด ทำให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยง อย่างไรก็ดี เราประเมินว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐน่าจะช่วยการฟื้นตัวของอุปสงค์ในประเทศ ช่วยลดผลกระทบจากปัจจัยภายนอก จึงแนะนำให้สะสมหุ้นเมื่อดัชนีอ่อนตัว ที่บริเวณแนวรับ 780 จุด


Technical Analysis
Doji เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 75 วัน อาจก่อให้เกิดการดีดกลับช่วงสั้น โดยมี Dead Cross ที่ 830 จุด ทำหน้าที่แนวต้านหลัก นักลงทุนอาจทยอยขายทำกำไร และซื้อคืนเมื่อดัชนีปรับลงทดสอบ Golden Cross บริเวณ 780 จุด


News Comment
STEC: (ขาย/5.35 บาท/พื้นฐาน 5.00 บาท)
ยังมีความเสี่ยง มาร์จิ้นต่ำกว่าคาด
TISCO: (ซื้อ/27.75 บาท/พื้นฐาน 32.50 บาท)
ตั้งเป้าสินเชื่อเช่าซื้อโต 20% ต่อปี ในอีก 3 ปีข้างหน้า

:lol:
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com