ดัชนีหุ้นวันที่ 12 มี.ค. ปิดที่ 827.00 จุด เพิ่มขึ้น 7.17 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 20,743 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,332.88 ล้านบาท

หุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดนำโดย PTT ปิด 338 บาท บวก 8 บาท, PTTEP ปิด 160 บาท บวก 2 บาท, METRO ปิดที่ 4.72 บาท ลดลง 0.04 บาท, BANPU ปิดที่ 440 บาท ลดลง 4 บาท และ PTTAR ปิดที่ 41.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ไซรัส มองแนวโน้มตลาดว่า ประเมินจากทางเทคนิคที่ดัชนีไม่สามารถผ่านแนวต้านสำคัญที่ระดับ 830 จุดได้ และปิดการซื้อขายใกล้ระดับต่ำสุดของวัน สัญญาณเทคนิคจึงบ่งชี้ว่าดัชนีมีโอกาสอ่อนตัวลง โดยจะมีแรงขายทำกำไรออกมากดดัน

ขณะที่ตลาดยังมีปัจจัยเสี่ยงจากคดีการเมืองที่ยังรอความชัดเจนหลายคดี ทั้งคดียุบพรรคชาติไทยและมัชฌิมาธิปไตย และคดีพรรคพลังประชาชนเป็นนอมินีพรรคไทยรักไทย รวมไปถึงคดีทุจริตการเลือกตั้งของนายยงยุทธ ติยะไพรัช และกรณีทุจริตหวยบนดิน

นอกจากนี้ ล่าสุดกลุ่มพันธมิตรฯออกมาประกาศเตรียมชุมนุมในวันที่ 28 มี.ค.นี้ อาจส่งผลให้เกิดความไม่สงบในบ้านเมืองขึ้นอีก ซึ่งส่งผลลบต่อจิตวิทยาการลงทุน

แนะกลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้ให้ขายทำกำไร โดยด้านเทคนิคให้แนวรับไว้ที่ 818 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 835 จุด ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย มองดัชนีที่ปรับขึ้นเป็นแค่การปรับตัวในระยะสั้น ขณะที่ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงมีปัจจัยเสี่ยงจากเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ชะลอตัว

โดยการอัดฉีดเม็ดเงินของเฟดเพื่อเข้าระบบการเงินโลกครั้งนี้ ยิ่งสะท้อนถึงความอ่อนแอ และความถดถอยของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ขณะที่เฟดยังอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกถึง 0.75% ในการประชุมวันที่ 18 มี.ค.นี้ ซึ่งการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะเป็นผลดีในระยะสั้น แต่ระยะยาวตลาดหุ้นอาจจะยังไม่ดีขึ้น

แนะกลยุทธ์การลงทุน ให้ขายทำกำไรลดพอร์ตหากดัชนีปรับตัวขึ้น ประเมินแนวรับไว้ที่ 821 จุด แนวต้าน 835 จุด.


อินเด็กซ์ 51

:lol: