April 29, 2024   5:49:11 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ฟันธง
 

Toon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 973
วันที่: 12/03/2008 @ 10:46:52
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้
Positive
กลยุทธ์การลงทุน
Accumulate

กรอบ 820-840pts
แนวโน้ม Range Trading
ปิดวานนี้ 819.83, +13.18

Todays picks
Stock Current Trading Fair Rec.
Price Range Value
PTT 330.0 330-340 456.2 Accumulate
PTTEP 158.0 158-164 181.0 Accumulate
BANPU 444.0 444-460 540.5 Buy
SCB 89.0 89-93 91.0 Trading

What s News

* การเมือง แม้ว่าอนุกรรมการจะได้สำนวนการพิจารณากรณียุบพรรค (เป็นการพิจารณาว่า
กรรมการบริหารพรรคมีส่วนร่วมในการทุจริตการเลือกตั้งหรือไม่) แต่ยังไม่มีการสรุปว่าจะยุบพรรคฯหรือไม่
แต่จะส่งให้ กกต. กลางเป็นผู้ตัดสิน ซึ่งอาจมีการใช้หลักนิติศาสตร์ ควบคู่กับหลักรัฐศาสตร์ ทำให้มองได้ว่า
คำตัดสินอาจไม่น่ากลัวอย่างที่หลายๆ ฝ่ายกังวล
* FED ประกาศอัดฉีดสภาพคล่องในระบบสินเชื่อ US$200,000 ล้าน และจะยืดหยุ่นในการรับ
หลักทรัพย์ค้ำประกันมากขึ้น ซึ่งมีผลทำให้ดัชนี Dow Jones ปรับสูงขึ้นแรงเมื่อคืนที่ผ่านมา 3.5%
* GDP 4Q07 ญี่ปุ่นขยายตัว 3.5% ดีกว่าที่ตลาดคาด
* ราคาน้ำมัน + ค่าระวางเรือ ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปรับสูงขึ้น $0.85/บาร์เรล ปิดที่
$108.75/บาร์เรล แนะนำ ซื้อ สำหรับ PTT และ PTTEP สำหรับค่าระวางเรือปรับลดลง 64 จุด แนะ
นำ ทยอยสะสม สำหรับ TTA

Market Roundup and Trend: อาจมองว่าการพักฐานจบไปแล้วเมื่อวานนี้...รอผลการตัดสินยุบพรรคฯ
อีกครั้ง 13 มี.ค.นี้
แม้ว่าที่ประชุมอนุกรรมการจะยังไม่มีการตัดสินยุบพรรคเมื่อวานนี้ แต่จะส่งสำนวนการพิจารณาให้
กกต.ลงมติยุบพรรคอีกครั้ง 13 มี.ค.นี้ โดยจะใช้ทั้งหลักนิติศาสตร์ และรัฐศาสตร์ แต่ SET สามารถปรับ
สูงขึ้นแรงถึง 13.18 จุด ปิดตลาดที่ 819.83 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขายหนาแน่น 20,364 ล้านบาท โดยนักลง
ทุนต่างชาติและนักลงทุนสถาบัน ซื้อสุทธิเล็กน้อย 17 ล้านบาท และ 5 ล้านบาทตามลำดับ สำหรับแนวโน้ม
SET วันนี้ คาดว่าจะปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง เป้าหมาย 835 - 840 จุด ด้วยปัจจัยบวก 2 ปัจจัย ได้แก่
1.การปรับสูงขึ้นของตลาดหุ้น Dow Jones แรงถึง 3.5% และ 2.การเมืองในประเทศอาจไม่แย่อย่างที่
กลัวกัน ทั้งนี้ เมื่อคืนที่ผ่านมา FED ประกาศจะอัดฉีดเงิน US$200,000 ล้านเข้าสู่ตลาดสินเชื่อที่ตึงตัว
และจะรับหลักทรัพย์ค้ำประกันประเภทต่างๆ มากขึ้น ขณะที่นักลงทุนคาดว่า FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย
นโยบาย 0.50 - 1.0% ในการประชุมครั้งหน้า เพื่อที่จะบรรเทาผลกระทบของหนี้ Sub-prime สำหรับ
ประเด็นทางการเมืองแม้จะยังไม่มีข้อสรุปกรณียุบพรรค แต่การนำหลักรัฐศาสตร์เข้ามาช่วยพิจารณาอาจทำ
ให้ผลการพิจารณาไม่แย่เหมือนที่หลายๆ คนกังวล

Investment Strategy: เข้าทยอยสะสมกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มพลังงาน ธนาคาร อสังหาฯ และรับ
เหมาฯ
หลังจากพักฐานไปที่ 800 - 815 จุด ที่เคยคาดไว้ก่อนหน้า เราเริ่มเห็นการกลับตัวของ SET
แล้วเมื่อวานนี้ สำหรับวันนี้เราคาดว่า SET จะเปิดกระโดดอย่างน้อย 1 - 1.5% ตามตลาดหุ้นต่าง
ประเทศที่ปรับสูงขึ้นแรงวันนี้ อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่ายังมีโอกาสเข้าสะสมหุ้น 1 - 2 วันนี้ เนื่องจากนัก
ลงทุนส่วนหนึ่งยังกังวลกรณียุบพรรคชาติไทย และมัชฌิมาธิปไตย ที่จะตัดสินวันพรุ่งนี้ (แม้ประเด็นนี้จะถูก
คลายกังวลไปบ้าง แต่ถือว่ายังมีความเสี่ยงอยู่ดี) โดยเราแนะนำนักลงทุนเข้าสะสมกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่ม
พลังงาน (PTTEP, PTT, BANPU, UMS), กลุ่มธนาคาร (KBANK, SCB, BBL), กลุ่มอสังหาฯ (LH,
QH, PS, AP), กลุ่มรับเหมาฯ (ITD) และกลุ่มวัสดุก่อสร้าง (TSTH)

มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายภาษี จะเป็นผลดีต่อตลาดหุ้นในระยะกลาง...แต่ระยะสั้นกลุ่มหุ้นที่ได้
รับผลดีปรับสูงขึ้นรับข่าวไปแล้ว (Quoted on 5 มี.ค.)

วานนี้ ครม.อนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของ ก.คลัง โดยแบ่งเป็นมาตรการย่อยๆ ดังนี้
1. มาตรการภาษีเพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่ประชาชน ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
a. ปรับเพิ่มเงินได้สุทธิที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จากเดิม 100,000 บาท/ปี
เป็น 150,000 บาท/ปี
b. ปรับเพิ่มวงเงินยกเว้นและการหักค่าลดหย่อนเบี้ยประกันภัยสำหรับการประกันชีวิต จาก
เดิม 50,000 บาท/ปี เป็น 100,000 บาท/ปี
c. เพิ่มวงเงินการหักค่าลดหย่อนเงินได้ จากการลงทุน LTF และ RMF จากเดิม
300,000 บาท/ปี เป็น 500,000 บาท/ปี

2. มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุน SME ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
a. ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแก่ห้องหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคล และมีเงินได้ไม่เกิน
1,200,000 บาท/ปี (ตั้งแต่ 2551 - 2553)
b. ยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือบริษัทในส่วนที่มีกำไรสุทธิไม่เกิน
150,000 บาท

3. มาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นการลงทุน ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
a. ให้บุคคลธรรมดา หรือบริษัท หรือห้างหุ้นส่วน สามารถหักค่าใช้จ่ายเพื่อการได้มาซึ่ง
เครื่องจักร อุปกรณ์ หรือวัสดุ ที่มีผลต่อการประหยัดพลังงานได้ 1.25 เท่าของค่าใช้จ่าย (เครื่องจักรต้อง
ติดตั้งใช้งานภายในปี 2553)
b. สามารถหักค่าสึกหรอหรือค่าเสื่อมราคาทรัพย์สินเบื้องต้นประเภทเครื่องจักร เพื่อใช้ใน
การผลิตสินค้า ในอัตรา 40%
c. สามารถหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อราคาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ได้ภายใน 3 รอบระยะ
เวลาบัญชี
d. ลดอัตราภาษีเงินได้สำหรับบริษัทที่นำหลักทรัพย์เข้าจดทะเบียนใน SET (เหลือ 25% 3
ปี) หรือ MAI (เหลือ 20% 3ปี)
e. บริษัทจดทะเบียนใน SET ในส่วนที่เป็นกำไร 300 ล้านบาทแรก คิดภาษีอัตรา 25%
สำหรับ MAI คิดอัตราภาษี 20% ของกำไร 20 ล้านบาทแรก เป็นเวลา 3 ปี
f. มาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาฯ โดยการ ลดภาษีธุรกิจเฉพาะจาก 3% เป็น 0.1% และ
ลดค่าจดทะเบียนการโอนและค่าจดจำนอง เหลือ 0.01%

เรามองว่านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของ ก.คลัง โดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นภาคอสังหา จะทำ
ให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นการเร่งการตัดสินใจของผู้บริโภคที่ต้องการจะซื้อ
อสังหาริมทรัพย์มาอยู่ในปี 2551 ซึ่งจะส่งผลให้ผลการดำเนินงานของปี 2551 ออกมาดี โดยเฉพาะบริษัท
บ้านและที่ดินที่มีสต็อกบ้าน หรือสามารถสร้างบ้านได้เร็ว อย่าง PS, LH, QH, และ AP ขณะที่กลุ่มวัสดุก่อ
สร้างจะได้รับผลดีจากกิจกรรมการก่อสร้างที่เพิ่มสูงขึ้นด้วย แนะนำ TSTH สำหรับกลุ่มธนาคารอย่าง SCB
ที่เน้นการปล่อยสินเชื่อบ้านจะได้รับผลดีจากมาตรการนี้ด้วย
สำหรับมาตรการเพิ่มรายได้ในกับบุคคลธรรมดา แม้จะมีผลต่อกำลังซื้อไม่มาก โดยรายได้ที่เพิ่ม
ขึ้นของแต่ละบุคคลจะไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับอัตราภาษีที่บุคคลนั้นๆ จ่าย เช่น ผู้เสียภาษีในอัตรา 10% จะเสีย
ภาษีลดลง/ปี เท่ากับ 5,000 บาท ผู้เสียภาษีในอัตรา 20% จะเสียภาษีลดลง/ปี เท่ากับ 10,000 บาท
หรือผู้เสียภาษีในอัตรา 30% จะเสียภาษีลดลง/ปี เท่ากับ 15,000 บาท เป็นต้น แต่ก็ถือว่าเป็นผลดีกับกลุ่ม
พาณิชย์ อย่าง BIGC, MAKRO, CPALL โดยเราให้ MAKRO เป็นหุ้นเด่นในกลุ่ม มูลค่าพื้นฐาน 120 บาท

ตลาดต่างประเทศ และประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นในตลาดโลก

* ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดเพิ่มขึ้นรับข่าวเฟดเพิ่มสภาพคล่อง ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 3.55% และ
ดัชนี S&P 500 ปิดเพิ่มขึ้น 3.77% โดยได้รับแรงหนุนหลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่าจะอัดฉีด
เงินประมาณ 2 แสนล้านดอลลาร์ เข้าสู่ตลาดสินเชื่อที่ตึงตัว โดยจะขยายโครงการปล่อยกู้ และจะยอมรับ
หลักทรัพย์ค้ำประกันประเภทต่างๆ มากขึ้น รวมถึง หุ้นกู้จำนองซึ่งมีมูลค่าลดลง ขณะที่ภาวะฟองสบู่ในตลาดที่
อยู่อาศัยสิ้นสุดลง ทั้งนี้ส่งผลให้หุ้นของกลุ่มบริษัทที่เกี่ยวกับการจำนอง, หุ้นกลุ่มธนาคาร และกลุ่มก่อสร้าง
บ้าน ปรับตัวขึ้น
* ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ทำสถิติปิดระดับสูงสุดอีกครั้ง สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน
เม.ย ปิดเพิ่มขึ้น 0.85 ดอลลาร์สหรัฐ มาปิดที่ 108.75 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล โดยได้รับแรงหนุนจาก
ปัจจัยทางเทคนิค ขณะที่นักลงทุนไม่มั่นใจในแนวโน้มระยะยาวของดอลลาร์ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ
(เฟด) ดำเนินมาตรการเสริมสภาพคล่อง ขณะเดียวกันสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงาน (EIA) ของ
สหรัฐจะรายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ในวันนี้ โดยตลาดคาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 1.7
ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ล่าสุด ทั้งนี้ EIA ระบุว่า ทางสำนักงานกำลังปรับลดตัวเลขคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันใน
สหรัฐและตลาดโลกสำหรับช่วงไตรมาสที่ 2
* ดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าเมื่อเทียบกับเยน ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอย่างมาก ภายหลังธนาคารกลาง
สหรัฐ (เฟด) ประกาศมาตรการใหม่ที่จะอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงิน โดยเฟดระบุว่า จะปล่อยกู้
ให้กับดีลเลอร์ชั้นนำประมาณ 2 แสนล้านดอลลาร์ และจะอนุญาตให้ดีลเลอร์ใช้หนี้จำนองเป็นหลักทรัพย์ค้ำ
ประกัน ทั้งนี้มาตรการดังกล่าว ได้สยบกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างรุนแรง
และได้ช่วยลดแรงกดดันต่อดอลลาร์ นอกจากนี้ยังช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับวิกฤตการณ์สินเชื่อ และภาวะ
เศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐ
* ดัชนีค่าระวางเรือเทกองปิดลดลง 64 จุด มาอยู่ที่ 8,560 จุด ค่าระวางเรือเทกองฟื้นตัวขึ้น

บมจ.หลักทรัพย์ กรุงศรีอยุธยา[/size:9b1027a2a9">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com