May 11, 2024   1:30:23 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > หุ้นเด่น...เล่นกลางสั้น
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 28/02/2008 @ 08:03:30
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

SET
วานนี้ดัชนีสามารถปรับขึ้นได้ โดยช่วงเช้าพยายามทดสอบจุดสูงเดิม แต่ก็ยังไม่อาจฝ่าไปได้ กลับกันต้องปรับลดลงสู่ระดับ 832 จุด ส่งผลให้สัญญาณขายที่พบใน Stochastic เด่นชัดมากขึ้น อีกทั้งหากพิจารณาถึงกลุ่มแท่งเทียนที่เกิดขึ้นในช่วง gap 840-850 จุด พบว่ามีรูปแบบเปลี่ยนแนวโน้มหลายประการ องค์ประกอบเหล่านี้แสดงถึงโอกาสการปรับฐานครั้งใหม่ที่ดัชนีต้องเผชิญ โดยมีแนวรับสำคัญคือแนวบรรจบของเส้นค่าเฉลี่ย 25 และเส้น 75 วัน ช่วง 800-810 จุด

มุมมองระยะกลาง - PAE
กลยุทธ์การลงทุน: ซื้อ
เดือน พ.ย. 50 PAE เกิดการดีดกลับอย่างมีนัยสำคัญจากแนว Golden Cross บริเวณ 1.20 บาทและทดสอบ 1.88 บาท ในอีกหลายสัปดาห์ต่อมา การปรับขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้สัญญาณระยะสั้นเคลื่อนตัวเข้าสู่เขตการซื้อมากเกินไป ซึ่งเป็นเหตุให้ราคาปรับฐานช่วงสั้น ทั้งนี้เส้นค่าเฉลี่ย 25 และเส้น 75 สัปดาห์ ณ 1.40 บาท จะทำหน้าที่แนวรับอย่างแข็งแกร่ง รูปแบบสัญญาณแท่งเทียนต่อเนื่องกอปรกับ MACD เชิงบวกจะผลักดันให้ราคาหุ้นปรับสูงขึ้นได้อีกโดยมีเป้าหมายสำคัญคือจุดสูงบริเวณ 2.50 บาท

หุ้นเด่น เล่นสั้น - TKS
กลยุทธ์การลงทุน: ซื้อ
TKS ดีดตัวเข้าสู่ขาขึ้น จากฐานการเปลี่ยนแนวโน้มบริเวณแนวบรรจบของเส้นค่าเฉลี่ยหลักบริเวณ 3.00-3.20 บาท และสามารถทดสอบ 4.58 บาท อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงระยะสั้นที่เพิ่มขึ้น กระทั่งทำให้เกิดการปรับฐานในที่สุด อย่างไรก็ตาม การอ่อนตัวนั้นพบว่าไม่ได้ปรับลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 10 และเส้น 25 สัปดาห์ที่ 3.70 บาท แต่อย่างใด ราคาทรงตัว ณ ที่ดังกล่าวหลายสัปดาห์ก่อนที่จะดีดกลับ พร้อมด้วยรูปแบบ Bullish Engulfing อันแสดงถึงการเริ่มต้นของการดีดตัวครั้งใหม่ ซึ่งครั้งนี้จุดสูงเดิมจะเป็นเพียงแนวต้านย่อยเท่านั้น

หุ้นเด่น เล่นสั้น - MJD
กลยุทธ์การลงทุน: ซื้อ
ภายหลังจากที่ได้พักฐานบริเวณ 3.60-3.80 บาท มาได้สักระยะหนึ่ง MJD สามารถฟื้นตัวขึ้นอย่างช้าๆ โดยอาศัยเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน เป็นฐานการดีดกลับที่สำคัญ ขณะนี้ราคาเคลื่อนตัวเข้าใกล้ Tweezers Top ซึ่งอาจทำให้เกิดการปรับฐานระยะสั้นได้ ทั้งนี้จะไม่กระทบกับโครงสร้างใหญ่แต่อย่างใด นักลงทุนสามารถเข้าซื้อเพิ่มเติมได้โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ณ เส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน บริเวณ 3.80 บาท สถานะเชิงบวกของ RSI และ Stochastic แสดงถึงโอกาสการทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่ 5.20 บาท


:lol:

 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#1 วันที่: 28/02/2008 @ 11:09:30 :
THAI: ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น ฉุดกำไร 1Q51 ? ซื้อ

ผลประกอบการ 1Q51 จำนวน 1.8 พันล้านบาท ลดลงอย่างมีนัยจาก 1Q50 แต่เป็นไปตามคาดการณ์ของเรา โดยต้นทุนค่าเชื้อเพลิงที่ปรับสูงขึ้น เป็นปัจจัยลบสำคัญต่อผลประกอบการไตรมาสนี้ อย่างไรก็ตามต้นทุนเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้น จะถูกชดเชยโดยการปรับเพิ่มค่าธรรมเนียมน้ำมัน ดังนั้น ด้วยศักยภาพในการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่ง จากปริมาณขนส่งที่เพิ่มขึ้น เราจึงคงคำแนะนำ ?ซื้อ? ด้วยมูลค่าพื้นฐานปี 51 ที่ 53 บาท (PCF 3.5 เท่า)

ต้นทุนค่าเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น ฉุดกำไรสุทธิ 1Q51 ลดลงตามคาด
THAI รายงานกำไรสุทธิ 1Q51 จำนวน 1.8 พันล้านบาท ลดลง 54% YoY เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายพนักงานและค่าเชื้อเพลิง (ราคาน้ำมันพุ่งทำสถิติสูงสุดในไตรมาส) รวมถึงขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 176 ล้านบาท (จากที่มีกำไรฯ 1.7 พันล้านบาทใน 1Q50) เป็นปัจจัยลบสำคัญฉุดผลประกอบการลดลง อย่างไรก็ตามผลประกอบการ 1Q51 ดีกว่าที่คาดการณ์ของเราที่ 1.6 พันล้านบาท จากรายได้พิเศษจากการขายเครื่องบินและอะไหล่เป็นจำนวนรวม 311 ล้านบาท หากหักรายการพิเศษและขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน กำไรจากการดำเนินงานลดลง 39% YoY เป็น 1.7 พันล้านบาท และใกล้เคียงกับประมาณการณ์ของเรา

ศักยภาพในการดำเนินงานยังคงแข็งแกร่ง
แม้ว่ากำไรสุทธิไตรมาสแรกของปีการเงิน 51 ของ THAI ลดลง แต่ศักยภาพในการดำเนินธุรกิจยังคงแข็งแกร่ง โดยปริมาณขนส่งรวมต่อกิโลเมตร (RTK) และปริมาณขนส่งผู้โดยสารต่อกิโลเมตร (RPK) เพิ่มขึ้น 10% และ 9% YoY ตามลำดับ ขณะที่อัตราขนส่งผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจาก 78% ใน 1Q50 เป็น 80% แต่เนื่องจากราคาน้ำมัน (คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 30% ของต้นทุนรวม) ปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และบริษัทฯ ต้องแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นในระยะสั้น ก่อนที่จะส่งผ่านมาที่ผู้โดยสาร โดยการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมน้ำมัน ส่งผลให้กำไรสุทธิ 1Q51 ลดต่ำลง และบริษัทฯ ได้ปรับขึ้นค่าธรรมเนียมนี้ใน ต.ค. 50 และ ม.ค. 51 ซึ่งจะส่งผลบวกต่อผลประกอบการในอีก 2 เดือนถัดไป ดังนั้นถ้าราคาน้ำมันจะยังคงตัว ณ ระดับปัจจุบัน หรือลดลงมากกว่าคาด บริษัทฯ จะได้รับประโยชน์จากค่าธรรมเนียมที่ปรับขึ้น

:lol:
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#2 วันที่: 28/02/2008 @ 11:10:51 :
Download Full PDF
Today"s Strategy Download ZOOM
เราคาดว่า SET จะเคลื่อนไหวผันผวน จากความไม่แน่นอนทางการเมือง อดีตนายกฯ ทักษิณ เดินทางกลับถึงประเทศเช้าวันนี้ เราแนะนำทยอยขายลดพอร์ต เมื่อดัชนีเคลื่อนใกล้แนวต้าน 845 จุด และเข้ามาสะสมเมื่อดัชนีอ่อนตัวบริเวณ 800-810 จุด โดยยังคงเน้นหุ้นที่เกี่ยวเนื่องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ อย่าง ธนาคาร (SCB, KBANK) สื่อ (BEC, MCOT) วัสดุก่อสร้าง (TSTH, TMT) และกลุ่มที่พักอาศัย (PS, QH, AP)


Technical Analysis
ดัชนียังไม่อาจฝ่าจุดสูงเดิมไปได้ แม้จะพยายามหลายครั้ง ซึ่งส่งผลให้สถานะของ Stochastic เป็นลบมากขึ้น ดัชนีมีโอกาสสูงมากที่จะปรับลงทดสอบ 800-810 จุดในอนาคตอันใกล้
หุ้นแนะนำระยะสั้น: TKS, MJD
หุ้นแนะนำระยะกลาง: PAE


Flash Results
NOBLE: (เต็มมูลค่า/4.14 บาท/พื้นฐาน 4.50 บาท)
กำไร 4Q50 น่าผิดหวัง
TRUE: (ขาย/5.25 บาท/พื้นฐาน 5.70 บาท)
รายได้ภาษีหนุนกำไรดีกว่าคาด


:lol:
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#3 วันที่: 28/02/2008 @ 13:13:03 :
MAJOR: กำไร 4Q50 ต่ำกว่าคาด แต่ศักยภาพทำกำไรยังคงแข็งแกร่ง ?ซื้อ

เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อศักยภาพการเติบโตของ MAJOR แม้ผลประกอบการ 4Q50 ออกมาค่อนข้างน่าผิดหวัง แต่คาดว่าจะไม่มีผลต่อเนื่องมากนักต่อกำไรในปีนี้ โดยแนวโน้มรายได้จากธุรกิจภาพยนตร์ยังแข็งแกร่ง จากภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่หลายเรื่องที่คาดว่าจะทำรายได้สูง และยังมีปัจจัยหนุนกำไรจากการเปิดสาขาขนาดใหญ่อีก 1-2 แห่งในปี 51-52 จึงยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" ด้วยมูลค่าพื้นฐานปี 51 ที่ 20.40 บาท (sum-of-the-parts)

กำไรจากการดำเนินงาน 4Q50 ลดลง 55% YoY
กำไรสุทธิ 124 ล้านบาท ใน 4Q50 เพิ่มขึ้นเพียง 6%YoY จากกำไรพิเศษจำนวน 70 ล้านบาท (102 ล้านบาท จากส่วนแบ่งกำไรเงินลงทุนใน MJLF ที่เพิ่มขึ้น จากการประเมินมูลค่าสินทรัพย์ใหม่ของกองทุน MJLF หักลบด้วย การปรับลดการบันทึกกำไรจากการโอนสินทรัพย์ให้ MJLF ใน 2Q50) หากไม่รวมรายการดังกล่าว จะมีกำไรปกติ 53 ล้านบาท ลดลง 55%YoY จากจำนวนหนังฟอร์มใหญ่ที่เข้าฉายน้อย ฉุดให้รายได้จากโรงภาพยนตร์ลดลง 3%YoY แต่ต้นทุนที่สูงขึ้นจากการขยายสาขาที่เพิ่มขึ้น ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงจาก 34% เหลือ 29% และ 2) ค่าใช้จ่าย SG&A เพิ่มขึ้น 31% YoY จากการบันทึกต้นทุนย้อนหลังของสาขาที่เปิดในปี 50

กำไรสุทธิปี 50 เติบโตก้าวกระโดด 77% YoY จากรายการพิเศษ
กำไรสุทธิปี 50 เติบโตก้าวกระโดด 77% YoY เป็น 1.23 พันล้านบาท จากกำไรจากเงินลงทุนใน MJLF จำนวน 682 ล้านบาท หากหักรายการนี้ออกไป กำไรปกติจะลดลง 12%YoY เป็น 545 ล้านบาท จาก 1) กำไรที่ลดลงของ MPEG ซึ่งมีต้นทุนสูงขึ้นมากหลังได้ลิขสิทธิ์จัดจำหน่าย DVD จากผู้ผลิตภาพยนตร์รายใหญ่ Hollywood 2 ราย และ 2) ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมที่ลดลง เนื่องจากสาขาใหม่ของ SF มีขนาดเล็กลง (เปรียบเทียบกับ Esplnade ในปี 49) แม้กำไรจากธุรกิจโรงภาพยนตร์ และรายได้โฆษณาในโรงภาพยนตร์เติบโตขึ้นอย่างโดดเด่นเช่นกัน

หนังฟอร์มใหญ่ยังมีมาก
เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อศักยภาพการเติบโตของ MAJOR จากรายได้จากภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่หลายเรื่องที่คาดว่าจะทำรายได้สูง และการเปิดสาขาขนาดใหญ่ที่รัชโยธิน และรัตนาธิเบศร์ ซึ่งจะมีรายได้ up front ก้อนใหญ่ในปีนี้ อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิ 4Q50 ที่ออกมาต่ำกว่าคาด อาจทำให้เราทบทวนปรับประมาณอีกครั้งเร็วๆนี้

:lol:
 กลับขึ้นบน
nikei
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 692
#4 วันที่: 28/02/2008 @ 13:30:24 :
TRUE ซื้อเกร็งกำไร
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com