*ดูเหมือนข่าว ยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนราษฏร และ ส.ส.แบบสัดส่วนพรรคพลังประชาชน โดน กกต. สอยร่วงด้วยการแจกใบแดง ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนเพียงแค่ระยะสั้นๆ ในช่วงเช้าของการเปิดตลาดหุ้นเท่านั้น???

*เนื่องจากในช่วงของการซื้อขายหุ้นรอบบ่ายมีแรงซื้อกลับเข้ามาเป็นจำนวนมาก จนดันดัชนีปิดลบเหลือแค่ 4.07 จุด ก่อนจะมาปิดที่ระดับ 834.67 จุด จากช่วงเช้าลบไปถึง 11.91 จุด ดัชนีลงมานอนแองแมงที่ 826.83 จุด สะท้อนถึงตัวนักลงทุนไม่ได้ให้น้ำหนักกับเรื่องดังกล่าวมากนัก!

*ถึงกระนั้นปัญหาทางการเมืองก็ยังเป็นตัวกัดกร่อนความมั่นของนักลงทุนทุกหมู่เหล่าอยู่วันยันค่ำ เพราะตราบใดที่ปัญหา การเมือง เศรษฐกิจ และความแตกแยกของประชาชนยังไม่จบสิ้น โอกาสที่ดัชนีจะปรับตัวขึ้นแรงๆ เหมือนก่อนหน้าคงไม่เกิดขึ้นง่ายๆ อีกแล้วนะจะบอกให้

*โชคดีตรงที่ช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีก็แกว่งตัวขึ้นๆ ลงๆ ย่ำฐานบริเวณ 800-820 จุดมาโดยตลอด "โมนิก้า" ถึงไม่รู้สึกตกใจที่เห็นดัชนีรูดลงแรง โดยก่อนหน้านี้ดัชนีก็เคยขึ้นวันละ 10 จุด พอถัดมาอีกวันก็ปรับตัวลดลง 10 จุด จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เห็นดัชนีแกว่งตัวไร้ทิศทางต่อไปอีกหนึ่งสัปดาห์

*ที่สำคัญหากจำคำเตือนของอีฉันก่อนหน้านี้ที่บอกว่า อย่าไปเชื่อหมอดู หมอเดา ฟันธงให้เสียเวลา เพราะของจริงมันต้องว่ากันด้วยประสบการณ์จากการลงทุนในตลาดหุ้นล้วนๆ ขืนวาดฝันอะไรไปเรื่อยเปื่อย ก็เหมือนพานักลงทุนไปหาที่ตาย ซึ่งตัวดิฉันไม่ชอบเรื่องแบบนี้เลยพับผ่าซิ

*เหมือนกับในรายของ PTT รู้กันอยู่เต็มอกว่ามีข่าวดีมากองเต็มประตูหน้าต่าง แต่นักลงทุนต่างชาติไม่อยากเข้ามาไล่ราคา หุ้นก็เลยขยับขึ้นไปสร้างแนวรับใหม่ที่สูงกว่าเดิมไม่ได้แบบนี้...โทษใครไม่ได้ทั้งนั้น เพราะภาวะการลงทุนไม่เป็นใจ ก็เลยไม่มีใครอยากเอาตัวเข้าแลก เรื่องก็เลยจบลงตรงที่หุ้นนอนนิ่งอยู่แถว 330 บาท ต่อไปอีก 1 วัน และเป็นการย่ำฐานซ้ำแล้ว ซ้ำอีกในรอบ 2 สัปดาห์

*ผิดกับในรายของ BANPU เพราะรายนี้พยายามวิ่งขึ้นไปสร้างฐานแนวรับใหม่ที่สูงกว่าเดิมเป็นประจำ แถมยังมีเรื่องรายได้และผลกำไรเป็นตัวบิวด์อารมณ์นักลงทุนทั้งในประเทศ และต่างประเทศตลอดเวลา...วานนี้ถึงไม่ได้รับผลกระทบอะไรกับเขาทั้งสิ้น และราคาหุ้นยังคงยืนหยัดที่ 500 บาทได้อย่างเหนี่ยวแน่น

*อย่างที่เคยเกริ่นนำไว้ก่อนหน้านี้ว่า PTTCH เป็นหุ้นที่น่าจับตามากสุดในยามที่มีแรงซื้อไหลเข้ามาทีละเล็กทีละน้อย เพราะข้อมูลในอดีตบอกไว้อย่างชัดเจนว่า รอบที่แล้วเคยขึ้นไปถึงบริเวณ 130 บาท...รอบนี้ถึงมีสิทธิ์ทำเช่นนั้นอีก หลังวานนี้ขยับขึ้นมาอีก 1 บาท

ปิดตรงเส้นแนวต้าน 200 วันพอดิบพอดีแบบนี้...งานนี้มีเฮเจ้าค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ SCB กับ KBANK "โมนิก้า" ย้ำแล้ว ย้ำอีกว่า รายแรกมีภาษีดูดีกว่าเยอะ เพราะได้ลูกบู๊ของเจ๊กรรณิกา เข้ามาเสริมเรื่องรายได้ อีกทั้งมุมมองของโบรกเกอร์ต่างชาติก็เห็นพ้องต้องกันว่า เป็นแบงก์ที่กระตือรือล้นสุด วานนี้ถึงฉีกหนีรายหลังขึ้นไปอีก 0.50 บาท ก่อนจะมาปิดที่ 89 บาท ส่วนรายหลังกลับอ่อนตัวลงไป 1 บาท ก่อนจะมาปิดที่ 87.50 บาท...ชักน่าสนใจขึ้นเรื่อยๆ แล้วนะค่ะ

*เนื่องจากส่วนต่างราคาไปกลับตอนนี้ห่างกันถึง 1.50 บาท และหากวันนี้รายหลังไม่มีแรงซื้อเข้ามาช่วยดันราคา ก็มีโอกาสถูกทิ้งห่างถึง 2.50 บาทเหมือนครั้งก่อนหน้านี้...งานนี้หากคิดจะเข้าเก็บก็ต้องเลือกให้ถูกตัว มิเช่นนั้นอาจปล่อยโอกาสทองหลุดมืออย่างน่าเสียดายเจ้าค่ะ

*สำหรับตัว LANNA "โมนิก้า" มองการอ่อนตัวของหุ้นไม่ได้เกี่ยงโยงกับการเมือง

หรือภาวะการลงทุนไม่เป็นใจ แต่เกิดจากหุ้นปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนเข้าเขต over bought จึงถูกเทขายทำกำไรตลอดทั้งวัน ล่าสุดหุ้นอ่อนตัวลงมาปิดที่ 19.50 บาท ลบไปเพียง 0.60 บาท ลงน้อยเกินไปแบบนี้...แสดงว่ามีคนตั้งใจเข้ามารับหุ้นจริงๆ ถึงไม่ปล่อยให้หุ้นร่วงลงแรงๆ

*ส่วนหุ้นตระกูลชินที่น่าจับตาดูมากสุดกลับกลายเป็น SATTEL หลังมีแรงซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก จนดันหุ้นขึ้นมาปิดที่ 10.20 บาท บวกไป 0.70 บาท พร้อมกับเป็นการขยับขึ้นออกจากฐานเป็นวันแรก "โมนิก้า" ไม่แนะนำให้มิตรรักแฟนคลับ "ข่าวหุ้น" ชายตามองดูหุ้นตัวนี้ก็กะไรอยู่ หลังเห็นกันจะจะว่ามีโอกาสฟาดกำไรเหนาะๆ เต็มข้อ

*ทางด้านหุ้นเก็งกำไรประเภทผีลืมหลุมอย่าง BLISS "โมนิก้า" ไม่ได้ให้ความสำคัญมากนัก แต่เผอิญมีคนมาทักเดี๊ยนว่า หากเป็นสมัยพี่โต้งดูแลความสงบ หุ้นเหล่านี้โดนฟาดหลังลาย จึงอยากสะกิดเตือนพวกมือที่มองไม่เห็นอย่าได้ย่ามใจเป็นอันขาด เพราะวันนี้คืนดีอาจโดนฟาดหลังลายได้ทุกเมื่อ...

*เนื่องจากได้ข่าวว่า หน่วยตรวจสอบของตลาดหลักทรัพย์ฯ กำลังรอบรวมข้อมูลหลักฐาน

เพื่อเอาผิดแก๊งที่เข้ามาสร้างราคา(พูดไปอย่างนั้นแหล่ะ แต่ทำไมได้เลยสักครั้ง) ล่าสุดราคาหุ้นปิดที่ 1.17 บาท บวกไป 0.11 บาท หรือขึ้นไปถึง 10% ก็ปล่อยมันไปเถอะ เพราะตอนนี้จะเอาอะไรมาฉุดก็หยุดไม่อยู่เสียแล้วเจ้าค่ะ

:lol: