May 12, 2024   5:41:17 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > .....จับตา.......
 

nikei
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 692
วันที่: 24/02/2008 @ 18:54:14
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

:) :) เข้าบ้านได้แระ เข้าไม่ได้มานานแสนนาน สบายกันดีป่าว อ่ะ พี่น้องไทยหุ้น :)


WEEK AHEAD:หุ้นไทยสัปดาห์หน้าผันผวน จับตาตัวเลขจีดีพี Q4/50-ประชุมกนง.


กรุงเทพ--24 ก.พ.--รอยเตอร์

ดัชนีตลาดหุ้นไทย(SET Index)สัปดาห์หน้า คาดว่าจะยังมีความผันผวน โดย
ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่จะเข้ามากระทบ ซึ่งจะมีผลต่อการ
เคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย
ขณะที่นักวิเคราะห์มองในสัปดาห์หน้ามีปัจจัยที่จะต้องติดตามหลายเรื่อง ทั้งการ
ประกาศตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี)ไตรมาส 4/50 ของคณะกรรมการ
พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์)ในวันที่ 25 ก.พ.นี้
รวมถึงยังรอผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) และปัจจัย
การเมืองที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) จะพิจารณากรณีของนายยงยุทธ ติยะไพรัช
ส.ส.แบบสัดส่วนพรรคพลังประชาชน(พปช.)และประธานสภาผู้แทนราษฎร ถูกกล่าวหาว่า
อาจเกี่ยวข้องกับการแจกจ่ายทรัพย์สินในการเลือกตั้งเมื่อเดือนธ.ค.50
นักวิเคราะห์มองกรอบการเคลื่อนไหวดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์หน้า มีแนวรับที่ 820
และ 800 และแนวต้านที่ 835 และ 840
เมื่อวันศุกร์ที่ 22 ก.พ.ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ 826.86 จุด เพิ่มขึ้นเพียง 0.03%
จากระดับปิดเมื่อ 15 ก.พ.ซึ่งอยู่ที่ 826.65 จุด ขณะที่ตลอดสัปดาห์นักลงทุนต่างชาติ
มียอดซื้อสุทธิรวม 1,908.26 ล้านบาท

"ตลาดน่าจะผันผวน เพราะสัปดาห์หน้าจะมีเรื่องผลประกอบการที่ยังจะทยอย
ประกาศออกมาอีก คงจะมีการเก็งกำไรเป็นรายตัว รวมถึงต้องดูปัจจัยทั้งภายใน และ
ต่างประเทศที่เข้ามากระทบด้วย"นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์
หลักทรัพย์ บล.เอเซีย พลัส กล่าว
เขากล่าวว่า สัปดาห์หน้าปัจจัยภายในประเทศน่าจะมีน้ำหนักมากกว่าปัจจัยจาก
ต่างประเทศ เพราะจะมีการประชุมกนง.ซึ่งจะต้องรอดูว่าจะมีการลดดอกเบี้ยนโยบาย
หรือไม่ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศก็ยังมีผลต่อทิศทางตลาดหุ้นอยู่
อย่างไรก็ตามภาวะตลาดหุ้นที่ยังผันผวนนั้น นักลงทุนระยะยาวอาจจะสามารถ
หาโอกาสที่ราคาหุ้นอ่อนตัวลงมามาก ทยอยซื้อเก็บเข้าพอร์ตได้ โดยให้เลือกหุ้นที่มีปัจจัย
พื้นฐานที่ดี มีการจ่ายเงินปันผลในระดับสูง ขณะที่นักลงทุนที่เก็งกำไรระยะสั้น ควรชะลอ
การลงทุน เพื่อรอดูทิศทางให้ชัดเจนก่อน
ขณะที่คาดว่าสัปดาห์หน้าดัชนีจะมีแนวรับที่ 820 และแนวต้านที่ระดับ 835
ด้านนายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายการตลาดลูกค้าบุคคล
15 บล.ธนชาต กล่าวว่าตลาดหุ้นยังมีทิศทางที่ไม่แน่นอนสูง หลังขึ้นอยู่กับปัจจัยที่จะเกิดขึ้น
"ยังมีความไม่แน่นอนสูง ขึ้นอยู่กับตัวแปรอย่างเรื่องการเมือง ว่าในวันอัง
คารนี้กกต.จะมีการให้ใบแดงคุณยงยุทธหรือไม่ เพราะถ้าให้ก็อาจจะทำให้การเมืองเกิด
ความไม่แน่นอน จะทำให้คนกังวลว่าจะเกิดการยุบพรรคหรือไม่"นายพิชัย กล่าว
วันที่ 26 ก.พ.นี้ กกต.จะประชุมกรณีนายยงยุทธ ถูกกล่าวหาอาจเกี่ยวข้องกับ
การแจกจ่ายทรัพย์สินในการเลือกตั้งที่ผ่านมา หลังเมื่อสัปดาห์ก่อนที่ประชุมกกต. ยังไม่ได้
ข้อสรุป โดยประธานกกต.กล่าวก่อนหน้านี้ว่า หากมีความพร้อมก็สามารถลงมติได้ทันที
เขากล่าวว่า นอกจากนี้ก็ยังต้องติดตามผลการประชุมของกนง. และการทยอยประกาศผลประกอบการปี 50 ของบริษัทจดทะเบียน(บจ.) รวมถึงการประกาศจ่ายเงิน
ปันผล ซึ่งหากบจ.ใดมีผลประกอบการดี และปันผลสูง ก็คาดว่าหุ้นจะได้รับการตอบรับที่ดี
สำหรับปัจจัยจากต่างประเทศ ยังต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ รวม
ถึงปัญหาซับไพร์ม ซึ่งเป็นปัญหายืดเยื้อและเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สร้างความกังวลให้ตลาดหุ้นอยู่
อย่างไรก็ตามภายในสัปดาห์หน้าจะต้องติดตามว่า ดัชนีจะหลุดที่แนวรับ 800
จุดหรือไม่ หากลงมาต่ำกว่า 800 จุดถือเป็นสัญญาณที่ไม่ดีต่อภาวะการซื้อขาย ขณะเดียว
กันหากดัชนีมีทิศทางที่ตรงข้าม สามารถปรับขึ้นเหนือแนวต้านที่ 840 ได้ ก็ถือเป็นสัญญาณ
ว่าตลาดหุ้นมีโอกาสที่จะรีบาวด์ขึ้นในรอบใหม่ได้อีก
นางสาวสุภากร สุจิรัตนวิมล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.เคทีบี กล่าว ทิศ
ทางตลาดหุ้นสัปดาห์หน้าขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นว่ามีทิศทางเป็นบวกหรือเป็นลบ
ซึ่งขณะนี้ประเมินได้ยาก
"ทิศทางยังไม่ชัดเจน เพราะขึ้นอยู่กับการประกาศตัวเลขจีดีพีในวันที่ 25
กุมภาพันธ์นี้ว่าจะเป็นอย่างไร รวมถึงเรื่องผลประชุมกนง.อีกด้วย"นางสาวสุภากร กล่าว
เขากล่าวว่า สัปดาห์หน้าดัชนีจะมีแนวรับที่ 820 ส่วนแนวต้านที่ 830 และ
840 ซึ่งหากปัจจัยต่างๆมีทิศทางที่ดี ก็อาจจะทำให้ดัชนีปรับขึ้นมาได้ ก็ต้องติดตามว่าดัชนี
จะสามารผ่านแนวต้านที่ 840 และขึ้นไปทดสอบที่ดัชนีสูงสุดของปีนี้ที่ 860 ได้หรือไม่

**จับตาประชุมกนง.

นายพิชัย คาดว่า การประชุมกนง.ในรอบนี้มีโอกาสที่จะปรับลดดอกเบี้ยลงได้
ในระดับ 0.25% ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมที่จะยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% ของ
เงินทุนไหลเข้าระยะสั้น ซึ่งหากมีการปรับลดอกเบี้ยอย่างที่คาดการณ์ไว้ ก็จะทำให้เป็น
ปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นไทย
โดยกลุ่มที่น่าจะได้รับประโยชน์จากการปรับลดดอกเบี้ย ได้แก่ กลุ่มแบงก์,
เช่าซื้อ และอสังหาริมทรัพย์
นางสาวสุภากร คาดว่า ผลประการชุมกนง.น่าจะยังคงดอกเบี้ยต่อไป เพราะ
ยังมีความกังวลในเรื่องตัวเลขเงินเฟ้ออยู่ และจะต้องคอยติดตามค่าเงินบาทที่มีผลต่อ
ตัวเลขการส่งออกด้วย
"คิดว่าน่าจะยังคงดอกเบี้ย ถ้าจะมีการลดดอกเบี้ย ก็คงจะลดไม่เกิน 0.25%"
นางสาวสุภากร กล่าว
นายเทิดศักดิ์กล่าวว่า ผลการประชุมกนง.เกี่ยวกับเรื่องดอกเบี้ยในครั้งนี้ จะมี
ผลต่อการยกเลิกมาตรการกันสำรอง 30% ด้วย ซึ่งหากมีการยกเลิกมาตรการและมีการ
ลดดอกเบี้ยลง ก็เชื่อว่าในระยะสั้นน่าจะเกิดผลดีต่อตลาดหุ้น แต่ผลในระยะยาวยังไม่ชัด
เจน เนื่องจากจะทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นได้
โพลล์รอยเตอร์ ที่สำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์พบว่า การประชุมกนง.ใน
วันที่ 27 ก.พ.นี้จะคงอัตราดอกเบี้ยในตลาดซื้อคืนพันธบัตร (อาร์/พี) ระยะ 1 วันที่
ระดับ 3.25% นับเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 5

ปัจจัยที่น่าจับตา
25 ก.พ.--สภาพัฒน์ แถลงตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/50 เวลา 9.30 น.
--TMB แถลงข่าวกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาฯ เวลา 10.00 น. --PTT และ BCP ลงนามซื้อขายไฟฟ้า ไอน้ำ เวลา 14.30 น.
--TNDT แนะนำข้อมูลให้นักลงทุน เวลา 09.00 น.
--PS แถลงผลประกอบการ เวลา 10.30 น.
--MCOTเปิดตัวผู้เข้ารอบ 8 คนสุดท้าย"The Star"เวลา 14.00น.
26 ก.พ.--RS แถลงผังรายการใหม่ทีวีอาร์เอส 2008 เวลา 10.30 น.
--MFEC เปิดแผนขยายการลงทุนธุรกิจไอที เวลา 11.00 น.
--DRT แถลงแผนธุรกิจปี 51 เวลา 10.00 น.
--MSC แถลงแผนปี 51 เวลา 10.00 น.
--LH แถลงผลประกอบการปี 50 เวลา 10.30 น.
27 ก.พ.--MINT ให้ข้อมูลนักวิเคราะห์ เวลา 10.30 น.
--TUF แถลงผลประกอบการปี 50 เวลา 09.15 น.
--กนง.จะแถลงผลการประชุม ในเวลา 14.30 น.
28 ก.พ.--KTC เปิดงานท่องเที่ยวไทย เวลา 13.30 น.
--IRPC พบปะผู้บริหาร เวลา 18.00 น.
29 ก.พ.--PTTAR แถลงแผนงานปี 51 เวลา 13.00 น.
--BANPU แถลงผลประกอบการปี 50 เวลา 14.30 น

 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#1 วันที่: 26/02/2008 @ 20:38:30 :
:lol:
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com