May 12, 2024   7:05:32 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > หุ้นเด่น..เล่นสั้น
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 21/02/2008 @ 20:55:43
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

SET
เมื่อวันพุธที่ผ่านมาดัชนีมีความผันผวนอย่างมาก โดยช่วงเช้าสามารถดีดตัวได้ถึงระดับ 841 จุด แต่กลับปรับลงปิดที่ 827 จุด พร้อมด้วยรูปแบบ Bearish Engulfing อีกทั้งยังพบว่าการปรับฐานรอบนี้ส่งผลให้ Stochastic เกิดสัญญาณขาย ดังนั้นแม้ดัชนีจะยังประคองตัวเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน บริเวณ 825 จุด ได้ แต่มีโอกาสสูงมากปรับลงต่ำกว่าเส้นดังกล่าว ทั้งหนี้แนวรับต่อไปคือแนวบรรจบของเส้นค่าเฉลี่ย 25 และเส้น 75 วัน ช่วง 800-810 จุด นักลงทุนอาจทยอยขายทำกำไร ณ ระดับดัชนีปัจจุบัน

มุมมองระยะกลาง - MINT
กลยุทธ์การลงทุน: ซื้อ
ราคาของ MINT ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องหลายปี ซึ่งระหว่างการดีดตัวมีการปรับฐานเป็นระยะ แต่ในที่สุดราคาก็สามารถดีดกลับทำจุดสูงสุดใหม่ได้เสมอมา ในเดือน ต.ค. 50 นั้น ราคาทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 18.80 บาท การปรับฐานลงจากบริเวณดังกล่าว เนื่องด้วยการซื้อมากเกินไปของสัญญาณระยะสั้น เส้นค่าเฉลี่ย 75 สัปดาห์ ที่ 14.00 บาท ยังคงทำหน้าที่อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าเมื่อเสร็จสิ้นการปรับฐานย่อยนี้แล้ว MINT จะสามารถดีดตัวทำจุดสูงใหม่ได้ต่อไป

หุ้นเด่น เล่นสั้น - PSL
กลยุทธ์การลงทุน: ซื้อ
การดีดกลับครั้งล่าสุดของ PSL เกิดขึ้น ณ เส้นค่าเฉลี่ย 200 สัปดาห์ บริเวณ 23.00 บาท ราคาปรับขึ้นอย่างรวดเร็วถึง Dead Cross ที่ 32.25 บาท ซึ่งเป็นครั้งแรกของการทดสอบ ปรากฏว่ายังไม่อาจฝ่าขึ้นไปได้ ราคาหุ้นเกิดการพักฐานอีกรอบ ขณะนี้ได้เคลื่อนตัวเข้าหาเส้น 200 สัปดาห์ คาดว่าจะทรงตัวได้ดังเดิมถือเป็นโอกาสดีที่นักลงทุนจะได้เข้าซื้อ PSL เพิ่มเติม

หุ้นเด่น เล่นสั้น - TGCI
กลยุทธ์การลงทุน: ซื้อ
โครงสร้างระยะยาวของ TGCI มีสถานะขาลงอย่างเด่นชัด อย่างไรก็ตาม เนื่องด้วยพบรูปแบบ Bullish Divergence ทั้งใน RSI และ Stochastic จึงสันนิษฐานได้ว่าความเสี่ยงขาลงเริ่มจำกัด อีกทั้งพบว่าภายหลังจากที่พักฐานบริเวณ 0.80-1.00 บาท ราคาได้ดีดตัวเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 10 25 และเส้น 75 สัปดาห์ แสดงถึงทิศทางเชิงบวกระยะสั้น คาดว่าเป้าหมายต่อไปของการทดสอบจะเป็นบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 สัปดาห์ราว 1.70 บาท


:lol:

 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#1 วันที่: 22/02/2008 @ 11:31:46 :
วันนี้ SET น่าจะแกว่งตัวช่วงแคบ ราคาน้ำมันที่ทรงตัวในระดับสูง กลายเป็นปัจจัยกดดันให้ความกังวลผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัวเร่งตัวขึ้น หาก SET ไม่สามารถประคองตัวเหนือ 825 จุดได้ ให้ขายก่อน แล้วลงมารอรับใหม่ที่แนวรับแถว 810 จุด ระยะนี้อาจให้น้ำหนักหุ้นที่ให้ปันผลสูง (TMT, AIT, DELTA) เพื่อลดความเสี่ยง


Technical Analysis
Bearish Engulfing ที่เกิดขึ้น พร้อมด้วยสัญญาณขายจาก Stochastic จะทำให้ดัชนีปรับลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน บริเวณ 825 จุดได้ไม่ยาก โอกาสทดสอบเส้น 75 วัน ช่วง 800-810 จุด มีสูงมาก
หุ้นแนะนำระยะสั้น: PSL, TGCI
หุ้นแนะนำระยะกลาง: MINT


Flash Results
CSL: (ซื้อ/3.88 บาท/พื้นฐาน 4.40 บาท)
เงินปันผลสูง
EGCO: (ซื้อ/98.50 บาท/พื้นฐาน 115.00 บาท)
กำไร 4Q50 ชะลอตัว จากส่วนแบ่งกำไร BLCP ลดลง

:lol:
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#2 วันที่: 22/02/2008 @ 12:12:16 :
QH: 4Q50 กำไรสดใส - ซื้อ

กำไรปกติ 4Q50 เติบโตสดใส 28% QoQ และ 343% YoY ดีกว่าคาดเป็นผลจากความแข็งแกร่งของยอดขายทั้งแบรนด์ QH และคาซา และบริษัทยังควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี บริษัทจะปรับแผนการออกเซอร์วิสอพาร์ตเม้นท์เป็นคอนโดมิเนียมมูลค่า 3 พันล้านบาทและจะรุกเปิดคอนโดมิเนียมทุกปีจากนี้ไปปีละประมาณ 2.5-3.0 พันล้านบาท ทำให้รายได้ 2 ปีข้างหน้ามีแนวโน้มเติบโตสดใสยิ่งขึ้น เราจึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 51-52% เพิ่ม 8-18% ทำให้กำไรปี 51-52 จะเติบโตเฉลี่ย 25% ต่อปี และ EPS เติบโตเฉลี่ย 16% ต่อปี เรายังแนะนำซื้อ โดยมีราคาตามปัจจัยพื้นฐานใหม่ 2.56 บาท (Sum of the Parts Valuation)

4Q50 กำไรดีกว่าคาด
แม้กำไรสุทธิบริษัทลดลง 55% YoY เป็น 309 ล้านบาทใน 4Q50 แต่เพราะไม่มีกำไรจากการขายทรัพย์สินให้ QHPF จำนวน 1.5 พันล้านบาทเช่น 4Q06 แต่กำไรปกติเติบโตถึง 28% QoQ และ 343% YoY การเติบโต QoQ เป็นผลจากการเติบโตของยอดขายในแบรนด์ QH เองและมีการเร่งปิดโครงการเก่าเพิ่มทำให้รายได้เพิ่ม 13% รวมทั้งบริษัทควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีมาก แม้ว่าอัตรากำไรขั้นต้นธุรกิจบ้านใน 4Q50 เหลือ 28.4% จาก 3Q07 ที่เท่ากับ 29.9% รวมทั้งปี 50 QH มีกำไร 1,066 ล้านบาททรงตัวแต่กำไรปกติ 1,119 ล้านบาท เติบโตโดดเด่น 171% จากความสำเร็จของบ้านระดับกลางแบรนด์คาซา (45% ของยอดขาย) ทำให้ยอดขายและมาร์จิ้นดีขึ้น

ประกาศปรับ Serviced Apartment ที่หลังสวนเป็นคอนโดมิเนียม
บริษัทประกาศปรับแผนโครงการหลังสวนจากเดิมเซอร์วิสอพาร์ตเม้นท์เป็นคอนโดมิเนียมระดับบนมูลค่ารวม 3 พันล้านบาท คาดว่าจะเปิดขายปลายปี 51 และกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จใน 3Q52 และบริษัทวางแผนจะเปิดขายคอนโดมิเนียมปีละประมาณ 2.5-3.0 พันล้านบาทซึ่งจะช่วยหนุนยอดขายให้เติบโตยิ่งขึ้น

แนวโน้ม EPS เติบโตเฉลี่ย 16% ต่อปีในปี 51-52
เราปรับเพิ่มกำไรปี 51 เพิ่ม 8% และปี 52 เพิ่ม 18% เพื่อสะท้อนยอดขายที่เติบโตกว่าคาดและแผนการปรับเซอร์วิสอพาร์ตเม้นท์เป็นคอนโดมิเนียม ทำให้กำไรมีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่งเฉลี่ย 25% ต่อปีและ EPS เติบโตเฉลี่ย 16% ต่อปีใน 2 ปีข้างหน้า



Visit Note
BEC: คาดปรับขึ้นค่าโฆษณา เร็วกว่าคาด ? ซื้อ

อัตราการใช้เวลาโฆษณาที่ปรับสูงขึ้นในเดือน ม.ค. ? ก.พ. และความนิยมของรายการที่เพิ่มขึ้นจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ BEC ปรับขึ้นอัตราค่าโฆษณาบางรายการได้ใน 2-3 เดือนข้างหน้า ดีกว่าที่เราคาดว่าการปรับราคาน่าจะอยู่ในช่วง 2H51 เป็นอย่างเร็ว เราจึงปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 51 ขึ้น 6% และได้มูลค่าพื้นฐานใหม่ที่ 28.50 บาท (DCF, WACC 10.9%) ยังมีส่วนต่างอีก 12% จากราคาปิด เรายังคงคำแนะนำ ?ซื้อ?

สัญญาณบวกมาตั้งแต่ต้นปี
ผู้บริหาร BEC เปิดเผยยอดขายเวลาโฆษณาช่วงละคร primetime ในเดือนม.ค. เพิ่มขึ้นถึง 21%YoY เป็น 679 นาที และยังปรับตัวดีขึ้นต่อในเดือน ก.พ. ทำให้บริษัทคาดว่ายอดขายโฆษณาเฉลี่ยใน 1Q51 จะอยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 700 นาที/เดือน ใกล้เคียงกับ 747 นาที/เดือน ที่ทำได้ใน 4Q50 ซึ่งเป็นช่วง high season ทั้งที่ปกติไตรมาส 1 จะเป็นช่วง low season และสวนทางกับภาพรวมการใช้งบโฆษณาผ่านสื่อ TV ในเดือน ม.ค. ที่ปรับตัวลงถึง 10%YoY ผลฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลงนี้ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะการถ่ายเทงบโฆษณาจาก TITV กอปรกับความนิยมในรายการของ BEC เองก็ปรับดีขึ้นด้วย ดังจะเห็นได้จากแนวโน้มรายได้ของ BEC เติบโตโดดเด่นกว่าสถานีอื่นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

มีโอกาสที่ BEC จะปรับขึ้นอัตราค่าโฆษณาเร็วกว่าคาด
BEC ขายเวลาโฆษณาช่วงก่อน primetime (18.00-20.00 น.) ได้เต็ม 100% ในเดือน ม.ค.-ก.พ. ซึ่งผู้บริหาร BEC ก็อยู่ระหว่างการพิจารณาปรับขึ้นอัตราค่าโฆษณาในช่วงดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเดือน พ.ค.-มิ.ย. อย่างไรก็ตาม สำหรับอัตราค่าโฆษณาในช่วง primetime ซึ่งเพิ่งปรับขึ้นไปกว่า 7% ช่วงต้นปีที่ผ่านมานั้น บริษัทยังไม่มีแผนที่จะปรับขึ้นอัตราค่าโฆษณาแต่อย่างใด โดยเรามองว่า ช่วงเวลาข่าวของ BEC อาจมีความเป็นไปได้ที่จะปรับขึ้นอัตราค่าโฆษณามากกว่า หลังยอดขายโฆษณาเพิ่มขึ้นน่าพอใจเช่นกัน นับตั้งแต่ได้ผู้ประกาศข่าวจาก TITV เข้ามาเสริมทีม โดยเราคาดการณ์ว่า BEC จะปรับขึ้นค่าโฆษณาช่วงรายการข่าวอีกครั้งใน 2H51 ซึ่งจะหนุนรายได้โฆษณาในปี 51 ให้เติบโตด้วยตัวเลข 2 หลักได้ตามเป้าของผู้บริหาร

ปรับประมาณการกำไรปี 51 เพิ่มขึ้น 6%
การประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา BEC เปิดเผยว่า ของ Unilever และ P&G ผู้ใช้งบโฆษณารายใหญ่ ใช้จ่ายผ่าน BEC ในเดือน ม.ค. เพิ่มขึ้นถึง 80% และ 60% YoY ทั้งจากการถ่ายเทงบโฆษณาจาก TITV ด้วยเรทติ้งรายการของสถานีที่แข็งแกร่งขึ้น ผนวกกับการฟื้นตัวความเชื่อมั่นผู้บริโภค คาดว่าจะทำให้ BEC ปรับขึ้นค่าโฆษณาบางรายการได้ใน 2Q51 เร็วกว่าที่คาดไว้ใน 2H51 เราจึงปรับสมมติฐานอัตราการเติบโตของรายได้ปี 51 เพิ่มขึ้นจาก 6% เป็น 10% ส่งผลให้กำไรสุทธิสูงขึ้น 6% จาก 2.55 พันล้านบาท เป็น 2.71 พันล้านบาท (+22%YoY)


:lol:
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com