April 28, 2024   11:44:07 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > นายกล้วยหอมมาแว้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
 

arthor
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 803
วันที่: 24/01/2008 @ 09:17:51
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

มืออาชีพ...


พบกับ นายกล้วยหอม วันที่ 24 มกราคม 2551

***ซับไพร์มอาละวาดตลาดหุ้นทั่วโลก ทำให้บรรดาผู้จัดการกองทุนทั้งหลาย ต้องปรับกลยุทธ์ แผนการลงทุนใหม่ แต่ แว่ว แว่ว มา ฟันด์แมเนจเจอร์ ไทยแลนด์ เอะอะ คิดกันง่าย ง่าย เทเม็ด ใส่เม็ดเงิน ในหุ้นพลังงานอย่างเดียว โดยเฉพาะครอบครัว ปตท. อาทิ พี่ปตท. (PTT)พี่เทพ(PTTEP) พิต้า(PTTAR)และบ้านปู(BANPU) ยิ่งราคาหุ้นทรุดตัวลงเยอะ ใครซื้อหน่วยลงทุน ก็หอบเงินใส่เข้าไปอีก ซื้อถัว เฉลี่ยไปเรื่อยๆ ทั้ง ทั้ง ข้อเท็จจริง สินค้าในตลาดดีมีมากมายกลับไม่ไปอุดหนุน อาจจะด้วยติดถัดนโยบายกองทุน ทำให้การบริหารกองทุนทำกันง่ายๆ จนบางครั้งอดคิดไม่ได้ว่า แทบไม่ต้องอาศัยอะไรคิดมากมาย แค่ซื้อหุ้นน้ำมัน ซื้อหุ้นพลังงานไม่กี่ตัว เอ็นเอวีก็สวยหรูแล้ว แถมได้ค่าจัดการ ค่าบริหารกองทุนอีกต่างหาก
***ต่างชาติเดินขายหุ้นบิ๊กแคปกระจาย เพื่อขนเงินกลับประเทศ เรียกว่า ปรับพอร์ตกันฝุ่นตลบ แม้เฟดลดดอกเบี้ยลงอีก 0.75%เรียกว่า สร้างความประหลาดใจถึงความใจถึงของเฟดครั้งนี้ บางครั้งอดถึง อดจินตนาการ เศรษฐกิจมะกันถดถอยหรือกำลังจะพังทลายกันแน่แท้ วานนี้ ต่างชาติเทขายอีกกว่า 1.9 พันล้านบาท ด้านสถาบันในประเทศซื้อเกือบ 1.5 พันล้านบาท นักลงทุนรายย่อยเล่นสั้น ลดความเสี่ยง ลดการซื้อลงเหลือ 422 ล้านบาท หลังจากเป็นผู้ซื้อ ผู้นำมาโดยตลอด...
***สงครามตลาดหุ้นรอบนี้ นักลงทุนรายย่อย มีความคล่องตัวมากกว่าผู้ใด แต่กองทุน(ผู้เรียกตนเองว่า มืออาชีพ)ติดกับหุ้นพลังงานไม่กี่ตัว จำต้องซื้อถัว ยิ่งลงต้องซื้อ หมากเกมนี้ ต่างชาติยินดีเป็นอย่างยิ่ง พร้อมจัดของ เทขายหุ้นให้อย่างเต็มอกเต็มใจ....เมื่อสถานการณ์เป็นแบบนี้ นักลงทุนรายย่อย ต้องเบนเข็มมาเทรดหุ้นกลางและเล็ก+หุ้นเก็งกำไร ขวัญใจนักเสี่ยงโชค รวมทั้งหุ้นในตลาดเอ็มเอไอ อาจสรุปได้ว่า บรรยากาศ สีสัน คงมีชีวิตชีวา ถ้าไม่มีมาตรการดับร้อนจากตลท.
***มาตรการดับร้อน ห้ามเน็ต ห้ามมาร์จิ้น เป็นสิ่งจำเป็น ถ้าใช้แบบไม่ลำเอียง เพราะสุดท้ายคนที่เสียหาย คือ นักลงทุนรายย่อยที่รู้ว่าเสี่ยง ก็ต้องยอม เพราะเทรดจะตัวอื่น เล่นหุ้นตัวอื่น มันไม่ได้เงิน ...สะท้อนได้เห็นว่า นักลงทุนไม่มีทางให้เลือกมากมายนัก แต่ปัญหาหุ้นร้อน หุ้นเก็งกำไร บางตัวเทรดดุ ดุ 2-3 วัน ก็เจอแจกป้ายรับรองคุณภาพแล้ว เกิดอะไรขึ้น..ยังไง ปีนี้ อย่าให้มีเลือดตกยางออกกันเลย สาธุ...
***ล่าสุด บอร์ดตลาดผ่อนปรนรับหลักทรัพย์ ตลาดเอ็มเอไอ มาร์เก็ตแคปจาก 1.5 พันลบ. เหลือ 1 พันลบ.ปรับลดสัดส่วนของผู้ถือหุ้นรายย่อยสำหรับบริษัทที่มีทุนชำระแล้วเกินกว่า 3,000 ล้านบาทขึ้นไป จากเดิมร้อยละ 25 ของทุนชำระแล้วเป็นร้อยละ 20 ปรับปรุงให้ผู้ที่ถูกห้ามขายหลักทรัพย์ในช่วงเวลา Silent Period ซึ่งหมายถึง ผู้ถือหุ้นที่มีส่วนร่วมในการบริหาร โดยให้ใช้ความหมายเดียวกันกับหลักเกณฑ์เดียวกับการกระจายการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อยข้างต้น และปรับลดสัดส่วนการห้ามขายหลักทรัพย์ของผู้ถือหุ้นดังกล่าวลงจากร้อยละ 65ของทุนชำระแล้วเป็นร้อยละ 55 รวมทั้งปรับช่วงเวลาการห้ามขายหลักทรัพย์ จากเดิม 1 ปี 6 เดือน เป็น 1 ปี....คำถามตามมาแบบนี้ กำลังถอยหลังลงคลองรึเปล่า รึกลัวตลาดเกิดใหม่อย่างกัมพูชา ลาว แย่งชิงสินค้า ท่ามกลาง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย คงต้องแปรรูป เหมือนตลาดต่างประเทศ
***แก่นแท้ กฎเกณฑ์ต่างๆ ล้วนได้มาตรฐาน เพียงแต่คนปฎิบัติ คนดำเนินนโยบายเท่านั้น คำถามคือ เข้าใจหรือแกล้งไม่เข้าใจ เกี่ยวกับการเล่น การเทรดหุ้นกันแน่ ถ้ายังทำตัวมั่นใจ หยิ่งทรนง ต่อให้ผ่อนปรนเกณฑ์ให้มาก ชนิดเรียกว่า ร้านข้าวแกง สามารถเข้าจดทะเบียนในตลาด ร้านขายข้าวแกงหรือร้านข้าวแกง ก็คงไม่อยากเข้าจดทะเบียน เพราะสู้เข้าไปจดทะเบียนในตลาดลาว เวียดนามดีกว่าไหน ไหน..
***บางคน รอโอกาส ท้องฟ้าเปิด พร้อมโบกมือตลาดหุ้นไทยทั้งแบบชั่วคราว ถาวร ถ้าตลาดหุ้นลาว กัมพูชาเปิดขึ้นมา เพราะเชื่อมั่นว่า คนกำกับ นโยบาย ดูแลการซื้อขายหุ้น น่าจะเข้าใจธรรมชาติการลงทุนมากกว่าบ้านเรา....เอาเถอะ ยามนี้ปั่นป่วนทั่วโลก แต่ชีวิตชาวหุ้นก็ต้องอยู่ ต้องดิ้นรนกันไป สู้ๆสู้ๆ

***วกมาตัวหุ้นน้องใหม่ดีกว่า...โลหะกิจ วันนี้ จะแปรสภาพเป็นอโลหะหรือโลหิต คงได้รู้กันและเป็นการพิสูจน์ฝีมืออันเดอร์ไรท์ยี่ห้อบล.ซีมิโก้ เทรดวันแรก จะสูงหรือต่ำกว่าราคาจองที่ 2.76 บาท...เกมนี้ หากช่วยๆกัน คงรอด ถ้าวงแตกคงต้องตัวใครตัวมัน แต่ชัวร์ๆพอร์ตซีมิโก้ 12 ล้านหุ้น จะเขียวหรือแดง โปรดอย่ากระพริบตา
***โลหะกิจฯ นับว่า โชคดี ปัญหาซับไพร์ม เฟดได้ใช้นโยบายลดดอกเบี้ยลง 0.75% ส่งผลให้ตลาดหุ้นตั้งสติได้ เปล่งประกายลำแสงสีเขียว..เอาเถอะ สำหรับหุ้นจอง หุ้นไอพีโอแล้ว เทรดวันแรกส่วนใหญ่ไม่ทำให้คนจองเจ๊ง ผลตอบแทนอื้อซ่า จากนั้นก็แล้วแต่คนดูแล หรือมาร์เก็ตเมกเกอร์หรือตามเวร ตามกรรม ตามกลไกตลาด...
***แต่ที่แน่ๆ โลหะกิจฯ(LHK) ได้แรงดัน แรงส่งจากDIMET ไปเต็มๆ เพราะเทรดวันแรกสูงกว่าจองที่ 1 บาท ตั้งกว่า 60% แล้ว LHK จะเป็นอย่างใด สงสัยต้องถามเสี่ยป. และต้องใช้ดาวเทียมค้นหา เพราะไม่ค่อยเป็นข่าวเท่าไร อ้าว ใครรู้ช่วยแจ้งเบาะแสหน่อยๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
***สุดยอดBWG เหวี่ยงให้เสียว จากนั้นปิดเขียว หลังจากได้จัดการบริหารขยะ บางปู มูลค่า 1.5 พันล้านบาท วานนี้ปิดตลาดที่ 10 บาท บวก 50 สตางค์ จากนี้ คงต้องนั่งรอดูสตอรี่ใหม่ๆ ว่าจะควบ เอ้ย เด็ด แสบ เอ้ยแซ่ปขนาดไหน วันนี้ จะเทรดหนักมือ สนุกเหมือนวานนี้รึเปล่า โปรดอย่ากระพริบ ฮิ ฮิ
***หุ้นเงินสด สำหรับเศรษฐีเท่านั้น วานนี้แรงจัด ต้องยกให้แม่ลูก BLISS วันนี้ เครื่องยังร้อนอยู่หรือเปล่า ขึ้นอยู่กับเสี่ยๆเจ๊ๆทั้งหลาย เพราะทุกอย่างควบคุม เอ้ย เคลื่อนไหวตามกำลังภายใน แต่IEC เทรดไป มันหนักเหมือนแบกภูเขา บีบให้เบื่อกันไปข้างหนึ่ง ส่วนหุ้นถ่ายทอดสดอย่างLIVE ก็เจียมเนื้อเจียมตัว..บวกแค่4สตางค์
*** S2Y PAE EMC***
***หน่อยกล้วยมาแว้ว.....ขอปรบมือให้แด่ความใจป้ำของเฟดที่ยอมหั่นดอกเบี้ยรวดเดียวถึง 0.75% แถมยังมาไวกว่าที่คิดซะด้วย (ไม่รู้ว่าหวังดี..แต่แฝงนัยร้ายอะเปล่าคร้าบ) อะแน่นอนเรื่องเด่น..ประเด็นแรงๆ อย่างงี้มีหรือพี่ไทยจะยืนเฉยเดี๋ยวหาว่าเชย เปิดเช้ามา Futures เลยเด้งรับข่าวดีไปตามระเบียบ แต่เอ๊ะ..เอ๊ะไหง...ปิดตลาดวานนี้หุ้นไทยถึงได้หมอบลงอย่างนั้นนะ ร้อนใจน้องหน่อ..รีบยกหูโทรไปสอบถามเซียนเฒ่าวงในทันที..ได้เรื่องมาว่า..ยาแรงใช่จะรักษาได้ทุกโรค..(งานนี้คงต้องพึ่ง 30 บาท ถึงจะรักษาได้ทู๊กกกโรค 555) เพียงแค่ลดดอกเบี้ยใช่กู้วิกฤตชาวโลกได้ทันควัน ดังนั้นยังต้องดูกันอีกยาว..ก็อย่างว่าปัญหาซับไพร์มก็ไม่ต่างจากโรคร้ายมันอาจจะดื้อยาขึ้มมาก็ได้...แถมยังฝากเตือนอาเฮีย..อาเจ๊ทั้งหลายที่คิดจะเข้าขาซื้อถือยาวหวังเศรษฐกิจฟื้นระก็ยากส์...ก็ภาพตลาดระยะกลาง-ยาวมันยังชี้เป็นช่วงขารูดอยู่เลยละซิคร้าบ...พี่น้อง
***ด้าน AFET วันนี้ถอดแบบตลาดหุ้นมาเปี๊ย อะ..ได้ไงเดี๋ยวน้อยน่าตลาดอื่นๆเค้า เปิดตลาดราคายางก็บวกกระชากรับข่าวเฟด...แต่สุดท้ายไปไม่รอด หลัง TOCOM ตลาดญี่ปุ่นที่เรายืมจมูกเค้าหายใจอยู่ (ใช้อ้างอิงราคา) โดนกลุ่มสถาบันรุมขายเพื่อปิดสถานะซื้อที่ถือไว้นานนม กดดันราคายางร่วงลงตายในแดนลบหลังจากนั้นไม่นานยาง AFET ก็ร่วงตามอย่างไม่ต้องคิด อย่างว่าการลงทุนมีความเสี่ยงยิ่งใครคิดจะหากำไรกับตลาดโภคภัณฑ์ท่ามกลางภาวะตลาดเงินผันผวนอย่างนี้ก็ต้องเป็นเสือปืนไวกันหน่อย..ยิ่งเร็วยิ่งไวใครทำได้ก็เอากำไรไปกอดเลยคร้าบ..พี่น้อง

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com