April 28, 2024   9:18:24 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เจาะกระดานหุ้น
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 16/01/2008 @ 10:50:58
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

เหนื่อยกันอีกแล้ว!

*ทันทีที่ ดัชนีนิเกอิ ประเทศญี่ปุ่น และ ดัชนีฮั่งเส็ง ประเทศฮ่องกง ร่วงหล่นทำ new

low เป็นประวัติการณ์ "โมนิก้า" ก็รู้ได้ทันทีว่า ดัชนีหุ้นไทย คงไม่รอดสันดอน และต้องอ่อนตัวลงไปโดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ทั้งสิ้น

*เนื่องจากตอนนี้ตลาดหุ้นไทยเปราะบางเหลือเกิน อีกทั้งยังขาดภูมิป้องกันผลกระทบจากปัจจัยลบรอบด้าน ดัชนีถึงได้ซวนเซไม่เป็นกระบวน ก่อนจะทำ new low ในรอบ 5 เดือนที่ระดับ 779.79 จุด พร้อมกับลบไปถึง 11.36 จุด เดี๊ยนถือเป็นเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดมาก่อน และไม่นึกไม่ฝันว่าจะเกิดขึ้นเร็วเพียงนี้

*น่าสนใจตรงที่สัญญาณทางเทคนิคในส่วนของ Modified Stochastic และ RSI ลงมาลึกเท่ากับรอบที่ดัชนีลงมาถึงระดับ 750 จุด ก็น่าจะถึงเวลาที่ดัชนีจะต้องเด้งกลับเสียที... หากดัชนีไม่สามารถตีกลับขึ้นได้ เท่ากับเป็นการยอมรับโดยสิโรราบว่า "ขาลงยังไม่จบ" นะจะบอกให้

*"โมนิก้า" ถึงรู้สึกว่า ต้องเหนื่อยหนักกันอีกแล้ว เพราะการจะทำให้ดัชนีเหินทะยานอย่างแข็งแกร่งในช่วงที่ตลาดหุ้นเต็มไปด้วยข่าวร้ายนานัปการ มันเหมือนกับความฝันลมๆ แล้งๆ ที่ไม่มีทางเป็นไปได้...ยกเว้นสถานการณ์ภายในประเทศจะกลับคืนสู่สภาพปกติ อันนี้อาจทำให้ดัชนีเด้งกลับขึ้นได้นะค่ะ

*ในระหว่างนี้คุณๆ ท่านๆ ต้องทำใจยอมรับสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้นเป็นลำดับแรก

เพราะการยอมรับกลไกเรื่องดังกล่าวอย่างไม่อคติ มักจะทำให้การลงทุนแบบตั้งรับทำได้ง่ายขึ้น ขณะเดียวกันก็จะเสริมสร้างระเบียบวินัยในการลงทุนอีกด้วย

*เหมือนเช่นในรายของ PTT หากนักลงทุนใช้กลยุทธ์ตั้งรับเข้ามาใช้ในการลงทุน โดยแบ่งพอร์ตการลงทุนออกเป็น 3 ส่วน ในสัดส่วน 30:30:40 คงไม่ต้องร้อนใจเมื่อเห็นราคาหุ้นอ่อนตัวลงทุกวัน เพราะนักลงทุนมีเงินสำรองไว้ซื้อหุ้นถัวเฉลี่ย...

*งานนี้ต่อให้ราคาหุ้นลงขนาดไหน ก็ไม่มีอะไรต้องหนักใจ เพราะสามารถแปลง "วิกฤติเป็นโอกาส" ได้ตลอดเวลา...อีกทั้งราคาแถวระดับ 300 บาทต้นๆ ถือว่าถูกกว่าราคาเหมาะสมค่อนข้างมากนะจ๊ะ

*เหมือนกับหุ้นเรือเทกอง TTA ก่อนหน้านี้ราคาหุ้นปรับตัวอย่างหวือหวา พร้อมกับมีคำแนะนำซื้อไม่ขาดสาย แต่พอบรรยากาศการลงทุนไม่เป็นใจ และนักลงทุนต่างชาติระดมขายหุ้นทิ้งผ่าน NVDR ราคาหุ้นถึงกับรูดลงมาปิดที่ 36 บาท ลบไป 3.25 บาท พร้อมกับทำ new low น่าซื้อหรือไม่อยู่ที่ใจนักลงทุนนะจ๊ะ

*พลิกล็อคสุดๆ น่าจะเป็นในรายของ TMB ราคาหุ้นพุ่งทะยานสวนกระแสขาลงขึ้นมาปิดที่ 1.34 บาท บวกไป 0.11 บาท หรือขึ้นไปเกือบ 9% น่าจะเป็นผลมาจากทิศทางการทำธุรกิจของตัวธนาคารมีความชัดเจนขึ้น และปัญหาต่างๆ ถูกสะสางออกทีละเล็กทีละน้อย นักลงทุนจึงหวนกลับเข้ามาไล่ซื้อหุ้นอีกรอบ...ทั้งนี้และทั้งนั้นก็ต้องเผื่อใจด้วยว่า อาจเป็นสงครามวันเดียวก็ได้นะจ๊ะ

*สำหรับโรงงานน้ำตาล KSL อาศัยจังหวะกระแสเอทานอลมาแรง ผนวกกับคำแนะนำซื้อของนักวิเคราะห์มีออกมาไม่หยุดหย่อน ราคาหุ้นถึงวิ่งกระฉูดขึ้นไปถึงระดับ 17.90

บาท แต่หลังจากนั้นราคาหุ้นก็อ่อนตัวลงตามแรงเทขายทำกำไร จนสุดท้ายลงมาปิดที่ 15 บาท บวกไปเพียง 0.50 บาท...งานนี้สอนให้รู้ว่า หากคิดจะเล่นหุ้นในภาวะ ต้องเข้าเร็วออกเร็วอย่างเดียว

*PICNI หมดอนาคตอย่างสมบูรณ์แบบ(จริงๆ ไม่อะไรดีเหลืออยู่ตั้งนานแล้ว) หลังจากผู้บริหารขอเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ ซึ่งมันหมายความว่า ไม่มีปัญญาใช้หนี้เงินกู้ที่ยืมเขามาผลาญเล่นๆ งานนี้กลุ่มเจ้าหนี้ถึงกับต้องกุมขมับ และเรียกประชุมเป็นการด่วน เพราะคนเจ็บตัวหนักสุดไม่ใช่ผู้บริหารบริษัท แต่เป็นกลุ่มคนที่ให้ยืมเงินต่างหาก...ส่วนกลุ่มเจ้าของก็ลอยนวลอีกตามเคย

*เช่นเดียวกับ ITV หรือปัจจุบันใช้ชื่อ TITV ปิดฉากอวสานไปตั้งนานกาเลแล้ว

แต่กลุ่มผู้ถือหุ้นรายย่อยบางส่วนก็ยังดึงดันเรียกร้องขอความเป็นธรรม "โมนิก้า" จึงขอเป็นกำลังให้แก่คนเหล่านั้นอีกแรงหนึ่ง...นื่องจากรู้ทั้งรู้ว่า เดินหน้าสู้ต่อไปก็ไม่มีวันเรียกร้องอะไรกลับคืนมาได้เหมือนเดิม เพราะคนในรัฐบาลชุดนี้หวังแต่ทำลายล้างอะไรก็ได้ทั้งนั้นที่เกี่ยวข้องกับชายที่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร เพียงอย่างเดียว

*สำหรับในรายของ BEC อันนี้ไม่ได้มีส่วนเกี่ข้องกับเรื่องดังกล่าวมากนัก แต่เป็นเพราะบรรยากาศการลงทุนไม่เป็นใจมากกว่า ราคาหุ้นถึงได้ไหลรูดลงมาปิดที่ 23.70 บาท ลบไป 1.55 บาท พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นเป็นประวัติ...เดี๊ยนคิดว่าเป็นสถานการณ์ที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะราคาหุ้นมีสิทธิ์รูดลงต่อค่อนข้างสูง คนที่ยังนอนกอดหุ้นตัวนี้ไว้ในพอร์ต น่าจะทำใจไว้บ้างนะจ๊ะ

*เลิศหรูสุดๆ คงไม่มีตัวไหนเทียบได้กับ LST และ TVO เพราะผลัดกันวิ่งขึ้นแรงกันคนละวัน วานนี้เป็นคิวของรายหลังอย่างเต็มตัว หลังกระชากขึ้นมาปิดที่ 14.90 บาท

บวกไป 0.90 บาท "โมนิก้า" มองว่าไม่มีอะไรเป็นพิเศษมากกว่าเรื่องราคาน้ำมันปาล์มปรับตัวสูงขึ้น จึงอยากจะเตือนบรรดาขาโจ๋ที่ชอบวิ่งไล่ตามกระแสเก็งกำไร หัดระวังเนื้อระวังตัวไว้บ้าง เพราะหุ้น 2 ตัวนี้นานทีปีหนถึงจะวิ่งสักที ขืนออกของไม่ทันมีหวังต้องติดหุ้นที่ยอดแน่นอน

:lol:

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com