April 28, 2024   4:43:59 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > กลยุทธ์เล่นหุ้นวันนี้-
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 16/01/2008 @ 10:50:02
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

ทยอยขายเมื่อดีดขึ้น
สัดส่วนการลงทุน : หุ้น 25% เงินสด 75%

KKS View : ?คาด SET เคลื่อนไหวกรอบ 765-785 จุด ทยอยขายเมื่อดีดขึ้น ได้แก่ PTT, PTTEP, BANPU?

นักลงทุนตามปัจจัยพื้นฐาน
ระยะสั้น
- RS แม้คาดปี 51 บริษัทจะมีรายได้จากการบริหารลิขสิทธิ์ฟุตบอลยูโร และได้รับค่าเสียหายจากการยกเลิกการแสดงของ เดวิด คอปเปอร์ฟิลด์ จะทำให้ผลการดำเนินงานกลับมามีกำไร 108 ลบ. จากปี 50 ที่คาดว่าจะขาดทุน 65 ลบ. แต่อย่างไรก็ตาม มูลค่าพื้นฐานปี 51 ที่เราประเมิน (2.48 บาท, P/E 16X) ยังคงต่ำกว่าราคาตลาด เราจึงคงคำแนะนำ ?ขาย? target ปี 51 = 2.48 บาท
- SVI คาด 4Q/50 SVI จะมีกำไรจากการดำเนินงานปกติ เพิ่มขึ้น 7% Y-O-Y เป็น 89 ล้านบาท โดยยอดขาย 4Q/50 จะทำลายสถิติเดิมใน 3Q/50 หรือมีจำนวน 48 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 20% Y-O-Y และ 5% Q-O-Q ขณะเดียวกันประโยชน์จาก Supply chain ช่วยให้ Gross margin มีแนวโน้มดีขึ้น Y-O-Y เป็น 11.2% แม้การทยอยลดสัดส่วนของกองทุน H&Q (ผู้ถือหุ้นใหญ่) เหลือ 51% จากสิ้นปี 50 ถืออยู่ 59% จะเป็นประเด็นกดดันราคาหุ้น SVI แต่ SVI ยังน่าสนใจในแง่ราคาที่ถูกเมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐาน ณ ปัจจุบันซื้อขาย PE และ PBV เพียง 5.7 เท่า และ 0.86 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มฯ นอกจากนี้ยอดสั่งซื้อ และ Gross margin ที่มีแนวโน้มดีต่อเนื่องจากปี 50 ทำให้เราเตรียมปรับเพิ่มประมาณการปี 51 อีกครั้ง คำแนะนำ ?ขาย? target ปี 51 = 1.73 บาท

นักลงทุนตามปัจจัยเทคนิค
ระยะสั้น (1 วัน) : ซื้อเก็งกำไร RS (2.84-3.00 stop loss 2.82), ERAWAN (4.40-4.52 stop loss 4.38)
ระยะกลาง (1/2 ? 1 เดือน) : ทยอยขายเมื่อดีดขึ้น PTT (270, 290-310), PTTEP (135-155), BANPU (340-386)
ระยะยาว (3 เดือน) : รอซื้อลงทุนรอบใหม่ PTT, SCC, BBL, ITD, LH, ASP

TFEX : S50H08 ?แนะนำ trading ในกรอบแนวรับแนวต้านช่วง 555 ถึง 565 จุด?

วานนี้ SET ปิดลบหลุด 780 จุด ตามตลาดต่างประเทศ ด้วยมูลค่าการซื้อขายปานกลาง
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ จากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติที่มีอย่างต่อเนื่อง หลังมีความกังวลต่อปัญหาซับไพร์ม ส่งผลให้มีแรงเทขายหุ้นในกลุ่มพลังงาน เดินเรือ และเทคโนโลยี ทำให้ SET ปิดที่ 779.79 จุด ลดลง 11.36 จุด (-1.44%) ด้วยมูลค่าการซื้อขายปานกลางจำนวน 13,959.25 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ จำนวน 2,422.21 ล้านบาท

แนวโน้มตลาดวันนี้
เราคาดการณ์ว่าตลาดหุ้นจะเคลื่อนไหวในช่วง 765-785 จุด เป็นแนวโน้มแกว่งตัวลบตามดาวโจนส์ที่ -277 จุด จากความวิตกกังวลในปัญหาเศรษฐกิจที่อาจชะลอตัวยังกดดันตลาดอยู่ นอกจากนี้การขายสุทธิของต่างชาติ 2,422 ล้านบาท ยังเป็นปัจจัยทางจิตวิทยากดดันตลาดให้แกว่งตัวลงได้ด้วย
ทำให้เราประเมินว่าตลาดมีแนวต้านที่ 790-800 จุดที่แข็งแกร่งอยู่ ส่วนแนวรับหลักอยู่ที่ 750-740 จุดในเดือนนี้
ด้านการเมืองไทยน่าจับตาเกี่ยวกับคำตัดสินของศาลในวันที่ 18 ม.ค. นี้เกี่ยวกับคดียุบพรรคพลังประชาชนซึ่งเป็นนอมินีให้กับไทยรักไทย ซึ่งมีผลต่อการเปลี่ยนขั้วในการจัดตั้งรัฐบาลของทั้งสองพรรคการเมืองใหญ่ได้ โดยการยุบพรรคพลังประชาชนจะทำให้นักลงทุนตกใจเป็นปัจจัยลบระยะสั้นช่วงหนึ่ง แต่เราเชื่อว่าจะเป็นทางออกให้กับการเมืองไทยเป็นผลดีในระยะยาวได้ ในทางตรงกันข้ามการไม่ยุบพรรคพลังประชาชนจะส่งผลดีในระยะสั้นเท่านั้น แต่ในระยะยาวจะเป็นปัจจัยลบถ่วงเศรษฐกิจเพราะการเมืองจะเข้าสู่ทางตันในวันข้างหน้าได้
ในแง่ของกลยุทธ์การลงทุน ในช่วงนี้เรามองว่าน่ารอผลการตัดสินจากศาลในวนศุกร์นี้ สำหรับระยะสั้น 1-2 วันนี้ ให้เป็นดีดขึ้นทยอยขายถือเงินสดไปก่อนจะดีกว่า สำหรับสัดส่วนการลงทุนระยะสั้นในช่วงนี้ให้เป็นถือหุ้น 25% ถือเงินสด 75% จะปลอดภัยที่สุด

ปัจจัยที่ส่งผลต่อหุ้นวันนี้ :
(-) 1. ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับตัวลงหลังจากการเปิดเผยยอดขาดทุนที่สูงเป็นประวัติการณ์ของซิตี้กรุ๊ป อิงค์ และการเปิดเผยยอดค้าปลีกที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบ 5 ปี ได้เพิ่มความวิตกว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์มาปิดที่ระดับ 12,501.11 จุด ลดลง 277.04 จุด (-2.17%) ในขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงกรอบ 2.14-2.83% ติดตามการประกาศผลประกอบการของหุ้นกลุ่มสถาบันการเงิน เช่น J.P. Morgan (16 ม.ค.) และ ML (17 ม.ค.) ซึ่งสถาบันการเงินดังกล่าว ได้รับผลกระทบจากวิกฤต Sub-prime
(-) 2 นักลงทุนต่างประเทศวานนี้ขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 10 ของปี 51 จำนวน 2,422.21 ล้านบาท ส่งผลให้ในปี 51 นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิรวม 21,549 ล้านบาท
(0) 3. ค่าเงินบาท On shore วานนี้ทรงตัวและปิดที่ระดับ 33.13 บาทต่อดอลลาร์ โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวกรอบ 33.13-33.14 บาทต่อดอลลาร์
(0) 4. ค่าเงินเยน เช้านี้เคลื่อนไหวแข็งค่าในกรอบ 106.60-106.95 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ
(-) 5. ราคาน้ำมันวานนี้ปรับตัวลง หลังจากซิตี้กรุ๊ป อิงค์เปิดเผยยอดขาดทุนรายไตรมาสที่สูงเป็นประวัติการณ์ และยอดค้าปลีกเดือน ธ.ค. ดิ่งลงมากเกินคาด ทำให้นักลงทุนกังวลว่าสหรัฐจะประสบกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ส่งผลให้ราคาน้ำมัน NYMEX ปรับลง 2.30 ดอลลาร์ (-2.44%) ปิดที่ 91.90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับลง 1.94 ดอลลาร์ (-2.09%) ปิดที่ 90.98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
(-) 6. ค่าระวางเรือวานนี้ปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 จำนวน 318 จุด มาปิดที่ระดับ 7,336 จุด
(0) 7. การเมือง : - วานนี้ กกต. มีมติให้ใบแดงแก่ว่าที่ส.ส. 1 คน ในเขตเลือกตั้งที่ 1 จ. ปราจีนบุรีจากพรรคมัชฌิมาธิปไตย และ กกต. ประกาศรับรองว่าที่ ส.ส. เพิ่มอีก 7 คน ซึ่งรวมถึงว่าที่ ส.ส. 3 คน ในเขตเลือกตั้งที่ 3 จ. นครราชสีมา จากพรรคพลังประชาชน ทำให้ขณะนี้ กกต. ได้ประกาศรับรองว่าที่ ส.ส. ไปแล้วรวม 431 คน จากทั้งหมด 480 คน โดยยังเหลือว่าที่ ส.ส.อีก 25 คน ที่ กกต.ต้องประกาศรับรองให้ครบ 456 คน จาก 480 คน หรือ 95% ของจำนวน ส.ส.ทั้งหมด ก่อนวันที่ 22 ม.ค.51 ซึ่งครบ 30 วัน หลังเลือกตั้ง
- ติดตามคำตัดสินของศาลในวันที่ 15 ม.ค. นี้ ว่าจะมีการยุบพรรคพลังประชาชนหรือไม่ ในกรณีที่ฟ้องว่าเป็นนอมินีให้กับพรรคไทยรักไทย
- ในวันที่ 19 ม.ค. 51 เลขาธิการพรรคพลังประชาชน คาดจะประกาศจัดตั้งรัฐบาล 6 พรรคอย่างเป็นทางการได้ โดยยืนยันว่า นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรค พปช. จะต้องเป็นนายกรัฐมนตรี
(0) 8. วันนี้ (16 ม.ค. 51) ติดตามการประชุม กนง. กำหนดทิศทางอัตราดอกเบี้ย ซึ่งการประชุมครั้งนี้เป็นครั้งแรกของปี 51 โดยทาง KKS คาดว่า กนง. จะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม 3.25%
(0) 9. ติดตามการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 4/50 โดยกลุ่มธนาคารพาณิชย์จะเป็นกลุ่มแรกที่จะประกาศออกมา

Stocks Highlights

บทวิเคราะห์พื้นฐานวันนี้ : RS ขาย (target ปี 51 ที่ 2.48 บาท), SVI ซื้อ (target ปี 51 ที่ 1.73 บาท)

Daily Stock (ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมในบทวิเคราะห์ หัวข้อ Daily Stock)

RS (คำแนะนำพื้นฐาน : ขาย)
Target : ปี 51 ที่ 2.48 บาท
Upside : -%
RS : แม้คาดปี 51 บริษัทจะมีรายได้จากการบริหารลิขสิทธิ์ฟุตบอลยูโร และได้รับค่าเสียหายจากการยกเลิกการแสดงของ เดวิด คอปเปอร์ฟิลด์ จะทำให้ผลการดำเนินงานกลับมามีกำไร 108 ลบ. จากปี 50 ที่คาดว่าจะขาดทุน 65 ลบ. แต่อย่างไรก็ตาม มูลค่าพื้นฐานปี 51 ที่เราประเมิน (2.48 บาท, P/E 16X) ยังคงต่ำกว่าราคาตลาด เราจึงคงคำแนะนำ ?ขาย?
แม้คาดปี 51 บริษัทจะมีรายได้จากการบริหารลิขสิทธิ์ฟุตบอลยูโร และได้รับค่าเสียหายจากการยกเลิกการแสดงของ เดวิด คอปเปอร์ฟิลด์ จะทำให้ผลการดำเนินงานกลับมามีกำไร 108 ลบ. จากปี 50 ที่คาดว่าจะขาดทุน 65 ลบ. แต่อย่างไรก็ตาม มูลค่าพื้นฐานปี 51 ที่เราประเมิน (2.48 บาท, P/E 16X) ยังคงต่ำกว่าราคาตลาด เราจึงคงคำแนะนำ ?ขาย?

SVI (คำแนะนำพื้นฐาน : ซื้อ)
Target : ปี 51 ที่ 1.73 บาท
Upside : 21%
SVI : คาด 4Q/50 SVI จะมีกำไรจากการดำเนินงานปกติ เพิ่มขึ้น 7% Y-O-Y เป็น 89 ล้านบาท โดยยอดขาย 4Q/50 จะทำลายสถิติเดิมใน 3Q/50 หรือมีจำนวน 48 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 20% Y-O-Y และ 5% Q-O-Q ขณะเดียวกันประโยชน์จาก Supply chain ช่วยให้ Gross margin มีแนวโน้มดีขึ้น Y-O-Y เป็น 11.2%
คาด 4Q/50 SVI จะมีกำไรจากการดำเนินงานปกติ เพิ่มขึ้น 7% Y-O-Y เป็น 89 ล้านบาท โดยยอดขาย 4Q/50 จะทำลายสถิติเดิมใน 3Q/50 หรือมีจำนวน 48 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 20% Y-O-Y และ 5% Q-O-Q ขณะเดียวกันประโยชน์จาก Supply chain ช่วยให้ Gross margin มีแนวโน้มดีขึ้น Y-O-Y เป็น 11.2% แม้การทยอยลดสัดส่วนของกองทุน H&Q (ผู้ถือหุ้นใหญ่) เหลือ 51% จากสิ้นปี 50 ถืออยู่ 59% จะเป็นประเด็นกดดันราคาหุ้น SVI แต่ SVI ยังน่าสนใจในแง่ราคาที่ถูกเมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐาน ณ ปัจจุบันซื้อขาย PE และ PBV เพียง 5.7 เท่า และ 0.86 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มฯ นอกจากนี้ยอดสั่งซื้อ และ Gross margin ที่มีแนวโน้มดีต่อเนื่องจากปี 50 ทำให้เราเตรียมปรับเพิ่มประมาณการปี 51 อีกครั้ง

Analyst Recommend
AMATA : จาก Company Visit วานนี้ ผู้บริหารคาดแนวโน้มปี 51 ยังมีทิศทางที่ดีต่อยอดขายที่ดินที่ปรับเพิ่ม คาดหวังลูกค้าจากประเทศจีนช่วยผลักดัน หลังจากในปี 50 บริษัทสามารถขายที่ดินได้ 1,718 ไร่ โดยใน 4Q50 สามารถขายได้ 911ไร่ โดย 600 ไร่มาจาก ลูกค้าที่ประเทศจีนคือ Holly โดยยังมองทิศทางการเติบโตยังคงมีอยู่ต่อเนื่อง จากกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ที่อยู่ระหว่างการขยายตัว รวมถึงธุรกิจ อิเลคทรอนิคส์ และ Consumer Product โดยมีพื้นที่ ในมือรองรับการเติบโต 9,500 ไร่ โดยมี Backlog ในมือรอรับรู้รายได้ 536 ล้านบาท และ คาดมีกำไรสุทธิใน4Q50 ทรงตัวใกล้เคียงกับ 3Q50 แต่ปรับเพิ่มเมื่อเทียบกับYoY โดยมีความกังวล จากค่าเงินบาทที่แข็งค่าอาจมีผลต่อการตัดสินใจของนักลงทุน
ความเห็น : เรามองว่าแนวโน้มผลประกอบการยังคงมีทิศทางที่ดี จากยอดขายที่ดินที่สามารถขายได้ต่อเนื่อง โดยการขยายการลงทุนของกลุ่มยานยนต์รวมถึงสินค้าต่อเนื่องยังคงส่งผลดีต่อยอดขายบริษัท โดยมีลูกค้าในมือที่อยู่ระหว่างการเซ็นตสัญญา 200-300 ไร่ รวมถึง ภายใน 1H51 บริษัทมีแผนการนำบริษัทลูกที่เวียดนามเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งอาจมีการบันทึก กำไรจากการขายเงินลงทุนบางส่วน เข้ามา (สัดส่วนการถือในปัจจุบัน 62% ต้องการรักษาระดับไว้ที่ 51%) คาดให้ผลตอบแทนทั้งปี 50 ที่ 0.60 บาท บริษัทได้จ่ายปันผลระหว่ากาลไปแล้ว 0.20 บาท และคาดว่าจะจ่ายส่วนทีเหลือ 0.40 บาท (Div.Yield 2H50) 2.53% โดยมีราคาที่เหมาะสมปี 51 อยู่ที่ 18.20 บาท โดยมี Upside gain 15% ปรับคำแนะนำ จาก ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว เป็น .? ซื้อ?

ประเด็นเศรษฐกิจ และการเมืองที่สำคัญ
SET หลุด 780 จุด วิตกเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวหลังรอดูผลประกอบการสถาบันการเงินสหรัฐ ขณะที่การเมืองไทยยังไม่ชัดเจน
SET วานนี้ (15 ม.ค.51) ปรับตัวลดลงตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาคซึ่งปรับลงในกรอบ 1-2% จากวิตกการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ ภายหลังรอดูผลประกอบการไตรมาส 4/50 กลุ่มสถาบันการเงินขนาดใหญ่ของสหรัฐ ซึ่งจะทยอยออกมาในสัปดาห์นี้ รวมทั้งการเมืองไทยที่ยังไม่ชัดเจน กดดันให้ SET ปรับตัวลงหลุด 780 จุด มาปิดตลาด 779.79 จุด ปรับลง 11.36 จุด หรือ ?1.44% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 13,959 ล้านบาท จากแรงขายในกลุ่มพลังงาน ?2.57% ขนส่ง ?2.08% และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ?2.11% เป็นต้น โดยนักลงทุนต่างประเทศยังคงขายสุทธิอย่างต่อเนื่องมูลค่า 2,422 ล้านบาท ส่งผลให้ตั้งแต่ต้นปี 51 (รวม 10 วันทำการ) นักลงทุนต่างประเทศขายหุ้นไทยแล้วมูลค่า 21,549 ล้านบาท
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาการปรับตัวลงของตลาดหุ้นภูมิภาคตั้งแต่ต้นปี 51 พบว่า SET ปรับลงหนักสุด ?9.13% รองลงมาเป็น ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ?8.72% และตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ?7.92%

ซิตี้กรุ๊ป ขาดทุนไตรมาส 4/50 มูลค่า 9.83 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
บริษัทซิตี้กรุ๊ป อิงค์ ธนาคารรายใหญ่สุดของสหรัฐ เผยผลประกอบการไตรมาส 4/50 ประสบภาวะขาดทุน มูลค่า 9.83 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นการขาดทุนรายไตรมาสครั้งแรกตั้งแต่ก่อตั้งในปี 1998 สาเหตุมาจากการลงทุนในตลาดซับไพร์ม รวมถึงหนี้ที่มีความเสี่ยงอื่นๆ ทำให้ ซิตี้กรุ๊ป ปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชีลง 1.81 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ ซิตี้กรุ๊ป จะระดมทุน มูลค่า 1.45 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการเสนอขายหุ้นบุริมสิทธิแปลงสภาพ ปรับลดเงินปันผล และปรับลดตำแหน่งพนักงาน จำนวน 4,200 ตำแหน่ง เพื่อหนุนงบดุลบัญชีธนาคาร
และวันนี้ (16 ม.ค.51) ตามเวลาสหรัฐ ยังคงต้องติดตามการประกาศผลประกอบการไตรมาส 4/50 ของบริษัทต่อไป คือ บริษัทเจพีมอร์แกน เชส ว่าตัวเลขจะออกมาอย่างไร

สหรัฐเผย PPI ทั่วไป ธ.ค.50 ลดลง 0.1% MOM แต่ PPI พื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.2% MOM
สหรัฐเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ประจำเดือน ธ.ค.50 PPI ทั่วไปลดลง 0.1% หลังจากเพิ่มขึ้น 3.2% ในเดือน พ.ย.50 แต่ PPI พื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.2% ซึ่งเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือน พ.ย.50

โพลล์รอยเตอร์คาดเงินเฟ้อทั่วไปสหรัฐ ธ.ค.50 เพิ่มขึ้น 0.3% ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐานคาดเพิ่มขึ้น 0.2%
วันนี้ (16 ม.ค.51) ตามเวลาสหรัฐ ติดตามการเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อ (CPI) ประจำเดือน ธ.ค.50 ของสหรัฐ โพลล์รอยเตอร์คาดว่าเงินเฟ้อทั่วไปจะเพิ่มขึ้น 0.3% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือน พ.ย.50 ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐานคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือน พ.ย.50

ความคืบหน้าการเมืองไทย
ศาลฎีกา นัดฟังคำตัดสินคดีฟ้องพรรคพลังประชาชนเป็นนอมินีพรรคไทยรักไทย เป็นวันที่ 18 ม.ค.51
ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง นัดฟังคำตัดสินคดีที่นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ได้ยื่นฟ้องกรณีพรรคพลังประชาชน เป็นนอมินีพรรคไทยรักไทย ในวันที่ 18 ม.ค.51 เวลา 16.00 น.จากเดิม วานนี้ (15 ม.ค.51)
กกต.ประกาศรับรองว่าที่ ส.ส.เพิ่ม 7 คน ส่งผลให้รับรองว่าที่ ส.ส.ไปแล้ว 431 คน
วานนี้ (15 ม.ค.51) กกต.ประกาศรับรองว่าที่ ส.ส.อีก 7 คน รวมถึงว่าที่ ส.ส. 3 คน จากพรรคพลังประชาชน เขตเลือกตั้งที่ 3 จ.นครราชสีมา ส่งผลให้ล่าสุด กกต.ประกาศรับรองว่าที่ ส.ส.ไปแล้ว 431 คน โดยยังเหลือว่าที่ ส.ส.อีก 25 คน ที่ กกต.ต้องประกาศรับรองให้ครบ 456 คน จาก 480 คน หรือ 95% ของจำนวน ส.ส.ทั้งหมด ก่อนวันที่ 22 ม.ค.51 ซึ่งครบ 30 วัน หลังเลือกตั้ง
เลขาฯ พรรคพลังประชาชน คาดประกาศจัดตั้งรัฐบาล 6 พรรคการเมือง 19 ม.ค.51
เลขาธิการพรรคพลังประชาชน คาดว่าจะประกาศจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่ประกอบด้วย 6 พรรคการเมือง อย่างเป็นทางการภายในวันที่ 19 ม.ค.51 พร้อมยืนยัน นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน จะเป็นผู้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ คาดว่าพรรคชาติไทย และพรรคเพื่อแผ่นดิน จะประกาศร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชนในวันที่ 17 ม.ค.51

โพลล์รอยเตอร์คาด กนง.คงอัตราดอกเบี้ย R/P 1 วัน ระดับเดิม 3.25%
วันนี้ (16 ม.ค.51) ติดตามการประชุม กนง.ซึ่งเป็นการประชุมครั้งแรกของปีนี้ โพลล์รอยเตอร์คาดว่า กนง.จะคงอัตราดอกเบี้ย R/P 1 วัน ที่ระดับเดิม 3.25% เพื่อหนุนการฟื้นตัวของอุปสงค์ในประเทศ แม้อัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวเพิ่มขึ้นก็ตาม รวมทั้งความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก
นอกจากนี้ ที่ประชุม กนง.วันนี้จะหารือถึงการปรับสมมติฐานราคาน้ำมันใหม่ ซึ่งจะเป็นการปรับราคาน้ำมันในกรณีฐานให้สูงขึ้นจากการประชุม กนง. ครั้งก่อน รวมทั้งประเมินผลกระทบจากปัญหาซับไพร์ม

ข่าวหุ้นที่น่าสนใจ

KTB ตั้งเป้าสินเชื่อปี 51 โต 6% YOY
KTB ตั้งเป้าสินเชื่อปี 51 เติบโต 6% หรือประมาณ 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งอยู่บนประมาณการสมมติฐาน GDP โตที่ 4.5-5.0% โดยมาจากโครงการด้านน้ำมันหรือไฟฟ้าที่ได้อนุมัติไปแล้วเมื่อปี 50 ขณะที่มาจากโครงการเมกะโปรเจคท์น้อยมาก ส่วนสินเชื่อรายย่อยคาดว่าจะเติบโตได้ดีในปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะเติบโตในระดับตัวเลข 2 หลัก

CENTEL คาดกำไรสุทธิปี 51 โต 15% YOY
CENTEL คาดกำไรสุทธิปี 51 เติบโต 15% จากเปิดให้บริการของโรงแรมเซ็นทรัล เวิล์ด ช่วงกลางปี 51 ขณะที่ธุรกิจอาหารยังเติบโตดี นอกจากนี้ ยังมีแผนลงทุนกว่า 3 พันล้านบาท ในปี 51 และ 2 พันล้านบาท ในปี 52 เพื่อก่อสร้างโรงแรมแห่งใหม่

RS คาดพลิกมีกำไรสุทธิปี 51
RS คาดผลิกกลับมามีกำไรสุทธิปี 51 ภายหลังมองอัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มสูงขึ้นเป็น 30% จากปี 50 ซึ่งอยู่ที่ 25% หลังจากลดต้นทุนด้านทีวีและวิทยุลง โดยตั้งเป้ารายได้ในปี 51 ไว้ที่ 3 พันล้านบาท ขณะที่คาดว่ารายได้ในปี 50 จะอยู่ที่ 2.5 พันล้านบาท ต่ำกว่าในปี 49 ซึ่งอยู่ที่ 3 พันล้านบาท

MEDIAS ตั้งเป้ารายได้ปี 51 โต 10% YOY
MEDIAS ตั้งเป้ารายได้ปี 51 เติบโต 10% จากปี 50 ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ 120.14 ล้านบาท จากเม็ดเงินโฆษณาที่คาดว่าจะเติบโตจากภาวะการเมืองที่ชัดเจน รวมทั้งมีแผนเข้าไปผลิตภาพยนตร์และจัดคอนเสิร์ตเพิ่มขึ้น ขณะที่บริษัทยังอยู่ระหว่างเจรจาทำธุรกิจอื่นๆ นอกเหนือจากธุรกิจทีวี

PICNI ยื่นเข้าแผนฟื้นฟูศาลล้มละลายกลาง
PICNI ยื่นเข้ากระบวนการแผนฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง ภายหลังจากช่วงที่ผ่านมา บริษัทประสบปัญหาภาวะหนี้และสภาพคล่องทางการเงิน จนกระทบการดำเนินธุรกิจ ส่วน ตลท.ยังคงขึ้นเครื่องหมาย SP ห้ามซื้อขายหุ้น PICNI ต่อไป จนกว่าบริษัทจะนำส่งงบการเงินสิ้นสุดปี 50

โดย บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคิน จำกัด ประจำวันที่ 16 มกราคม 2551

:lol:

 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#1 วันที่: 16/01/2008 @ 10:51:41 :
ภาวะตลาดหุ้นรายวัน


แนวโน้มตลาดวันนี้
ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ปิดร่วงลงต่ำกว่าแนวรับสำคัญที่ 780 จุดตามตลาดหุ้น
ต่างประเทศที่เผชิญความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ และระมัดระวังต่อผล
ประกอบการในกลุ่มการเงินที่มีแนวโน้มออกมาย่ำแย่จากการปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ทาง
การเงิน ขณะที่ปัจจัยในประเทศด้านการเมืองยังไม่มีความคืบหน้า ศาลได้เลื่อนการ
ตัดสินคดีทางการเมืองออกไปเป็นวันที่ 18 ม.ค. นี้ Set index ปิดร่วงลง -11.36 จุด(-
1.44%) มาปิดที่ 779.79 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายปานกลางที่ 1.4 หมื่นลบ. แรงขาย
ส่วนใหญ่ในหุ้นกลุ่มพลังงาน เดินเรือและเทคโนโลยี นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่ออีก
2.4 พันลบ.คาดตลาดวันนี้จะปิดร่วงลงต่อในวันนี้หลังภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯยังคงเพิ่ม
ความกังวลให้กับตลาดได้อีก Citigroupประกาศผลขาดทุนประจำ 4Q50เมื่อวานนี้
ขาดทุนหนักขณะที่ตัวเลขค้าปลีกสะท้อนการชะลอตัวของการใช้จ่ายผู้บริโภค สำหรับ
ในวันนี้จะมีการประชุมกนง.โดยตลาดคาดว่ากนง.น่าจะประกาศคงอัตราดอกเบี้ยR/P1
วันไว้ที่ 3.25%เท่าเดิมดังนั้นจะไม่น่าจะส่งผลต่อตลาดนัก

เราแนะนำนักลงทุนลดการเก็งกำไรในวันนี้ ผลประกอบการของกลุ่มธนาคารที่จะ
ประกาศออกมาก่อนกลุ่มอื่นโดยรวมคาดกำไรสุทธิทั้งกลุ่มจะลดลงจากปีก่อนราว 80%
แต่ธนาคารขนาดใหญ่อย่าง KBANK, SCB และ BBL ยังมีความน่าสนใจทั้งด้านผล
ประกอบการที่ขยายตัวสวนทางกลุ่มและความแข็งแกร่งที่สูงกว่า ดังนั้นจึงแนะนำสะสม
หุ้นกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ และหุ้นที่จ่ายเงินปันผลสูง

Stock Pick: PTTEP (ปิด 151 ซื้อ เป้าปี 51, 178) แม้คาดกำไรสุทธิจะลดลงเล็กน้อย (-
2%YoY) ในปี 50 แต่คาดจะกลับมาโตโดดเด่น (EPS Growth+33%) ในปี 51 หลัง
โครงการอาทิตย์เริ่มดำเนินการ ขณะที่ในระยะยาวยังมีศักยภาพในการเติบโตอีกมากจาก
แหล่งสำรองในมือที่จะทยอยรับรู้รายได้เข้ามา โดยคาดปริมาณขายจะเพิ่มขึ้น 8%-9%
ต่อปีตลอด 3 ปีข้างหน้า (8)

สาระสำคัญวันนี้
- ผลประมูลอีออกชั่นรถไฟรางคู่ฉะเซิงเทรา - แหลมฉบังกลุ่มกิจการร่วมค้าที.เอส.ซีเสนอราคาต่ำสุด
- DRT (2.70 ซื้อ เป้าปี 51, 3.62) ผลประกอบการมั่นคง ปันผลสูง

ปัจจัยบวก
+ ล่าสุดกกต.ประกาศรับรองว่าที่ส.ส.ได้เกือบ 90%แล้ว และคาดว่าจะทันการเปิด
ประชุมสภาฯได้ในวันที่ 22ม.ค. 51 ขณะพรรคพปช.คาดจะประกาศจัดตั้งรัฐบาล6 พรรคได้ในสุดสัปดาห์นี้
+ ตลาดหุ้นไทยมีราคาน่าสนใจในขณะนี้ที่ระดับPER 11.29 เท่า และอัตรา
ผลตอบแทนเงินปันผล 3.50%ต่อปี ขณะที่อัตราการขยายตัวของEPSของบจ.ปี
51มีแนวโน้มดีขึ้นมาก จากที่เราคาดว่าจะหดตัวราว -5% ในปี50 เป็นขยายตัวราว 15%ในปี51

ปัจจัยลบ
- หุ้นสหรัฐโดนถล่มหลังCitigroupแจ้งผลประกอบการที่ขาดทุนหนักจากการปรับ
ลดมูลค่าทางบัญชีลงมากซึ่งสืบเนื่องจากการทรุดตัวของตลาดSubprime (JP
Morgan ประกาศวันนี้ และMerrill Lynch ประกาศวันพฤหัสบดี) ขณะที่ปัจจัย
ลบใหม่ที่ได้รับความกังวลเพิ่มขึ้นคือการใช้จ่ายผู้บริโภคซึ่งกำลังได้รับ
ผลกระทบจากราคาพลังงานที่สูงขึ้นและราคาบ้านที่ลดลง โดยการใช้จ่าย
ผู้บริโภคคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 2 ใน3 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจสหรัฐ
- เลื่อนการตัดสินคดีทางการเมืองเป็นวันที่ 18 ม.ค.51
- เรื่องค่าเช่าท่อก๊าซPTTที่ยังไม่สรุปยังกดดันราคาหุ้นต่อไป
- ต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยหนักมาตลาด รวมตั้งแต่ต้นปีที่ราว 2 หมื่นล้านบาท
- สัปดาห์นี้กลุ่มธนาคารจะทยอยประกาศผลประกอบการปี50 ซึ่งเราคาดว่า
ธนาคารขนาดใหญ่BBL, KBANK, SCBจะแสดงกำไรสุทธิปี50เติบโตขึ้นyoy
ส่วนKTB, SCIB, BAY และ TMB จะมีกำไรสุทธิปี50ลดลงมาก
- ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมากเริ่มกระทบต่อกลุ่มส่งออก

ปัจจัยที่น่าติดตาม
- 16ม.ค.51 ประชุมกนง.(คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยR/P1วันไว้ที่ 3.25%)
- 18ม.ค.51 นัดตัดสินคดีทางการเมือง เวลา 16.00น.

Stocks in trend
BMCL (1.03 กลยุทธ์วันนี้-ซื้อเก็งกำไร เป้าหมาย 1.15) และ CK (7.65 ซื้อ เป้าหมาย
10.50) ได้ประโยชน์จากการที่บอร์ดรฟม.ชี้ขาดให้รัฐร่วมกับ BMCL ในการ
ดำเนินงานก่อสร้างและขยายการเดินรถส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงหัว
ลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ เพราะเห็นว่ามีต้นทุนต่ำที่สุดและสะดวกต่อ
ผู้โดยสารในการเดินทางได้ต่อเนื่อง (3) (6) ... MCOT (28 ซื้อ เป้าหมาย 42) ส้มหล่น
หลังจากสถานี TITV หยุดออกอากาศทำให้โฆษณาไหลเข้าเพราะเป็นสถานีข่าวที่มี
รูปแบบใกล้เคียงกัน (4) ... PTTCH (105 ซื้อ เป้าหมาย 160) คาดกำไร 4Q07 เติบโต
23%yoy และ 6% qoq จากราคาผลิตภัณฑ์โดยรวมที่ยังสูงต่อเนื่อง โดยเฉพาะราคา
MEG และ HDPE (1)

Wall Street: ผลขาดทุนCitigroupและตัวเลขค้าปลีกที่ย่ำแย่ฉุดตลาดหุ้นสหรัฐปิดร่วงแรง
เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นสหรัฐปิดดิ่งลงแรงหลังCitigroupเปิดเผยผลขาดทุนประจำ4Q50ที่
สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 9.83 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการทรุดตัวของ
ตลาดเงินกู้Subprime ซึ่งทำให้ต้องปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชีลงถึง 1.81 หมื่น
ล้านดอลลาร์ พร้อมประกาศปรับลดจำนวนพนักงานลง 4,200 ตำแหน่งด้วย
ขณะเดียวกันตัวเลขค้าปลีกประจำเดือนธ.ค.ที่น่าผิดหวังได้ดึงตลาดหุ้นลงด้วย
เนื่องจากตัวเลขการค้าปลีกได้ปรับลงสู่ระดับที่ต่ำที่สุดในรอบ5ปีจากราคาน้ำมันที่
เพิ่มขึ้นและราคาบ้านที่ดิ่งลง ทำให้เพิ่มความกังวลต่อการคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจ
ถดถอยในสหรัฐยิ่งขึ้นเพราะการใช้จ่ายผู้บริโภคคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 2 ใน3 ของ
กิจกรรมทางเศรษฐกิจสหรัฐ DJIA -277.04(-2.17%) ปิด 12,501.11 S&P500 -
35.30(-2.49%) ปิด 1,380.95 และ Nasdaq -60.71(-2.45%) ปิด 2,417.59

ราคาน้ำมัน: ปิดร่วงแรงตามตลาดหุ้นสหรัฐที่กังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอยส่งผลอุปสงค์
ราคาน้ำมันปิดร่วงลงรุนแรงเมื่อวานนี้ตามตลาดหุ้นสหรัฐที่ดิ่งลงท่ามกลางความ
วิตกต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยจากผลประกอบการที่ย่ำแย่ของกลุ่ม
การเงินและตัวเลขค้าปลีกที่ลดลงเกินคาด ซึ่งล้วนทำให้เกิดความวิตกต่ออุปสงค์ใน
น้ำมันที่จะลดลง WTIส่งมอบเดือนก.พ. ร่วง -2.30(-2.44%) ปิด 91.90 ดอลลาร์/
บาร์เรล Brent ส่งมอบเดือนก.พ. ดิ่ง -1.94(-2.09%) ปิด 90.98 ดอลลาร์/บาร์เรล

ราคา DTAC ที่ตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ วันที่ 15 ม.ค.51 ปิดที่US$1.04

ข่าวอุตสาหกรรม
ผลประมูลอีออกชั่นรถไฟรางคู่ฉะเซิงเทรา - แหลมฉบังกลุ่ม
กิจการร่วมค้าที.เอส.ซีเสนอราคาต่ำสุด
การแข่งขันเสนอราคาอี-ออคชั่นสำหรับโครงการก่อสร้างเส้นทาง
รถไฟรางคู่ ฉะเซิงเทรา ? แหลมฉบัง เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2251
ปรากฏว่า กลุ่มบริษัทร่วมค้า ทีเอสซี เสนอราคาต่ำสุด ที่ 3,926 ล้าน
บาท จากราคากลาง 5,292 ส่วนอันดับ 2 คือ กลุ่มบริษัท อิตาเลียนไทย
ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด และอันดับที่ 3 คือ กลุ่มกิจการร่วมค้า CKTU J/V
ทั้งนี้คาดว่าจะประกาศรายชื่อของผู้ชนะประมูลอีก1-2 สัปดาห์
ความเห็น แม้ว่า ITD และ CK จะไม่ใช่ผู้เสนอราคาต่ำสุด แต่ก็ยังมี
โอกาสหากคณะกรรมการของ รฟท.พิจารณาแล้วเห็นว่าผู้ที่เสนอราคา
ต่ำสุดไม่สามารถทำงานได้เนื่องจากเสนอราคาต่ำกว่าราคากลางถึง
25% อย่างไรก็ตามเราคิดว่า ITD และ CK จะไม่ได้ผลกระทบมากนัก
หากไม่ได้ก่อสร้างงานนี้เนื่องจากปัจจุบันทั้งสองบริษัทมีงานในมือสูงอยู่แล้ว (อาทิตย์)

โดย บจ.หลักทรัพย์ โกลเบล็ก ประจำวันที่ 16 มกราคม 2551

:lol:
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#2 วันที่: 16/01/2008 @ 10:52:34 :
ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

ผิดหวังข้อมูลฝั่งสหรัฐฯ กดดันตลาดต่อ
KGI เล็งเห็นว่าความเสี่ยงที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะถดถอยมีสูงขึ้น และน่าจะกดดันให้นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นลดความเสี่ยงต่อ เมื่อคืนตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับลงแรง หลังจากยอดค้าปลีกเดือน ธ.ค. 2550 ลดลง 0.4% จากเดือนก่อนหน้า (ตลาดคาดว่าจะไม่เปลี่ยนแปลง) ซึ่งเป็นตัวเลขที่แย่ที่สุดในรอบ 5 ปี ทำให้ ณ ขณะนี้ข้อมูลทั้งภาคแรงงานและภาคการบริโภค ส่งสัญญาณถึงเศรษฐกิจถดถอย อย่างไรก็ดี KGI ยังให้น้ำหนักทางสหรัฐฯ ถดถอยเพียง 50% และจะติดตามข้อมูลในเดือนถัดๆ ไป ก่อนจะมีข้อสรุป เนื่องจากเราเพิ่งเห็นตัวเลขที่ย่ำแย่เพียงเดือนเดียวเท่านั้น
อีกปัจจัยสำคัญได้แก่ผลขาดทุนของซิตี้กรุ๊ป ซึ่งแจ้งผลขาดทุนไตรมาส 4/2550 มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์เกือบเท่าตัว จากการบันทึกการเสื่อมค่าของตราสารที่เกี่ยวข้องกับซับไพร์ม และในคืนนี้ เจพี มอร์แกนจะรายงานงบ ส่วนเมอร์ริลล์ ลินช์จะเป็นคืนพรุ่งนี้ ซึ่งความกังวลต่อสถาบันการเงินดังกล่าว น่าจะทำให้นักลงทุนไม่กล้ากลับเข้าซื้อในวันนี้ แม้ว่าดัชนีหุ้นจะลงมามากแล้ว ด้านตลาดสินค้าโภคภัณฑ์รับรู้ถึงความเสี่ยงของเศรษฐกิจอเมริกาเช่นกัน ราคาน้ำมันดิบปรับลง 2.5% สู่ระดับต่ำกว่า 92 เหรียญ/บาร์เรลล์ ส่วนดัชนีค่าระวางเรือร่วงอีก 4.2% ที่ 7,336 จุด
กลยุทธ์: นักลงทุนระยะสั้นให้ซื้อลุ้นเด้งที่ช่วงแนวรับ 764-758 จุด เพื่อรอขายตามรอบรีบาวด์ ส่วนนักลงทุนระยะกลางที่สะสมหุ้นมาตลอด เราเห็นว่าควรเข้าเฉลี่ยต้นทุนหุ้นพื้นฐานดีให้ต่ำลงอีก เนื่องจากเรามองปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเข้าสู่จุดต่ำสุดในกลางปี และในไตรมาส2-ครึ่งปีหลังแนวโน้มการฟื้นตัวยังอยู่ เก็บหุ้นธนาคาร ที่ดิน บันเทิง และสื่อสาร ซึ่งเป็นสี่กลุ่มที่รับผลกระทบน้อยจากสหรัฐฯ

ความเห็นข่าวเด่นจากสถาบันวิจัยฯ
- KTB ตั้งเป้าสินเชื่อสุทธิเพิ่มอีก 6% ในปี 2008 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ประมาณ 4% หวังปัจจัยหนุนจากโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐที่น่าจะเริ่มขึ้นในครึ่งปีหลัง สัดส่วนเงินกองทุน (CAR) ยืนอยู่ที่ 15% เพียงพอรองรับการเติบโต การใช้บาเซล 2 จะมีผลกระทบต่อเงินกองทุนของ KTB เพียง 0.8% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมประมาณ 1-2% เนื่องจากมีสัดส่วนปล่อยกู้ให้ภาครัฐในสัดส่วนที่มากกว่าธนาคารอื่นๆ เป้าเติบโตสินเชื่อมากกว่าประมาณการเราที่ 5% เล็กน้อย หุ้นถูกเทขายมากเกินไปจากความกลัวเรื่องค่าใช้จ่ายสำรองและ CDO ราคาซื้อขายที่ PB51 ที่ 0.92 เท่าและ PE51 ที่เพียง 7 เท่า คงคำแนะนำ ซื้อ ที่ราคาเป้าหมาย 12.6 บาท
- นายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รมว.คลัง กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงผู้บริหารธนาคารทหารไทย โดยเฉพาะนายสุภัค ศิวะรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ เป็นหน้าที่ของกรรมการชุดใหม่ ที่ต้องดำเนินการอย่างโปร่งใส มีกระบวนการสรรหาที่เปิดกว้าง ซึ่งยังต้องใช้เวลาดำเนินการอีกหลายเดือน และกล่าวว่ากระทรวงการคลังไม่เสนอชื่อนายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) หรือนายบุญทักษ์ หวังเจริญ อดีต รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคาร กสิกรไทย ซึ่งได้หารือกับทางไอเอ็นจี ว่า คงไม่พิจารณาแค่ 2 ราย แต่ ต้องมีทางเลือกอย่างน้อย 3-4 ราย
- Western Digital (WD) ผู้ผลิต hard disk drive ขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสองจากอเมริกา ประกาศที่จะลงทุนเพิ่มอีก 170 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (5.6 พันล้านบาท) เพื่อจะเพิ่มกำลังการผลิตอีก 20% ในปีนี้ เราเชื่อว่า CCET จะได้รับผลประโยชน์โดยตรง เนื่องจาก WD เป็นลูกค้ารายหลักของ CCET ตั้งแต่ปี 2547 เนื่องด้วยความสัมพันธ์อันดีและประสบการณ์อันยาวนานกับ WD เราเชื่อว่า CCET จะได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มเติมจากการขยายกำลังการผลิตนี้ ซึ่งจะทำให้ยอดขาย(เหรียญสหรัฐฯ)ที่เราประมาณไว้ว่าจะเติบโตได้ 30% คงคำแนะนำ ซื้อ ด้วยราคาเป้าหมาย 8.2 บาท

โดย บมจ.หลักทรัพย์ เคจีไอ(ประเทศไทย) ประจำวันที่ 16 ม.ค. 2551

:lol:
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com