May 12, 2024   6:21:53 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > 10 วันปีหนูไฟหุ้นไทยดิ่งวินาศสันตะโร
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 15/01/2008 @ 23:24:19
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

นับตั้งแต่ย่างก้าวเข้าปีหนูไฟพบหุ้นไทยวินาศสันตะโร ดัชนีฯลดลงแล้ว 78.31 จุด หรือ 9.12% ภายในเวลาเพียง 10 วันทำการ โดยต่างชาติขายสุทธิสูงกว่า 2.15 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้มาร์เก็ตแคปหายไปทันที 3.67 แสนล้านบาทภายใน 9 วันทำการ ขณะที่หุ้นมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ถูกเททิ้งเพิ้มขึ้นทุกวันกดดันราคาวูบลงต่อเนื่อง โดย PTT ขึ้นแท่นแชมป์หุ้นถูกเทขายหนักสุด ราคาวูบลงมา 68 บาท หรือ 18.08% งานนี้เซียนหุ้นฟันธงหากหลังจากนี้หุ้นมาร์เก็ตแคปยังถูกฝรั่งเลหลังต่อเนื่องมีหวังเจอกันที่ 750 -720 จุด ส่วน PTT ให้แนวรับที่ 270บาท
หลังจากที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยเริ่มปรับลดลงมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ เดือนพฤศจิกายน ด้วยแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งได้รับผลกระทบจากปัญหาการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ปัญหาการเมืองในประเทศ และเป็นการขายปรับพอร์ตการลงทุนเพื่อหยุดยาวในช่วงเทศกาลคริสต์มาส และปีใหม่ จากดัชนีฯที่เคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 924.70 จุด ในวันที่ 1 พ.ย. 50 ฉุดให้ลงมาปิดการซื้อขายที่ระดับ 791.71 จุดในวันที่ 20 ธันวาคม ที่ผ่านมา แต่ล่าสุดในช่วง 5 วันสุดท้ายของปี ดัชนีฯเริ่มปรับเพิ่มขึ้นอีกครั้ง โดยได้ปรับเพิ่มขึ้นไปทำระดับสูงสุดที่ 859.80 จุด ในวันที่ 28 ธันวาคม 2550 ซึ่งถือเป็นวันทำการสุดท้ายของปีของตลาดหุ้นไทย
การปรับเพิ่มขึ้นของดัชนีฯในช่วงดังกล่าวทำให้หลายฝ่ายคาดหวังว่า เมื่อผ่านพ้นเทศกาลปีใหม่ไปแล้ว ดัชนีฯน่าจะปรับตัวดีขึ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะหลังจากนักลงทุนต่างชาติกลับจากการพักผ่อนในช่วงวันหยุดยาว แต่ปรากฎว่าเหตุการณ์กลับไปเป็นไปตามคาด โดยดัชนีฯเริ่มปรับลดลงทันทีตั้งแต่วันแรกของการเปิดทำการในปี 2551 ซึ่งหลายคนเรียกว่าปี "หนูไฟ" ด้วยแรงขายของนักลงทุนต่างชาติที่เริ่มขายสุทธิต่อเนื่องอีกครั้ง หลังจากที่พบว่าปัญหาในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐเริ่มส่งผลกระทบต่อภาพรวมของเศรษฐกิจเป็นวงกว้างขึ้น จนประธานธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด ต้องออกมาส่งสัญญาณหลายครั้งว่าการลดดอกเบี้ยนโยบายยังคงต้องมีอยู่ต่อไปเพื่อบรรเทาปัญหาการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ประกอบกับ การเมืองในประเทศยังมีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทำให้นักลงทุนต่างชาติถอดใจขายสุทธิหนักมือขึ้น

- ดัชนีฯวูบ 78.31 จุด หรือ 9.12% ภายในเวลา 10 วันทำการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสำรวจความเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหลักทรัพย์พบว่า ในวันที่ 28 ธันวาคม 2550 หุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 858.10 จุด และหลังจากที่ตลาดฯเริ่มเปิดการซื้อขายในวันแรกของปี 2551 (2 ม.ค.)ดัชนีฯปรับลดลงมาปิดที่ 842.97 จุด หรือลดลง 15.13 จุด วันที่ 3 ม.ค.ดัชนีฯปิดที่ระดับ 832.63 จุด หรือลดลง 10.34 จุด วันที่ 4 ม.ค. ปิดการซื้อขายที่ระดับ 821.71 จุด หรือลดลง 10.92 จุด วันที่ 7 ม.ค.ปิดที่ 808.31 จุด ลดลง 13.40 จุด วันที่ 8 ม.ค.ดัชนีฯกลับมาปรับตัวดีขึ้นปิดการซื้อขายที่ 811.69 จุด เพิ่มขึ้น 3.38 จุด และในวันที่ 9 ม.ค.ดัชนีฯได้รีบาวน์ต่อเนื่องจนปิดการซื้อขายที่ระดับ 820.47 จุด เพิ่มขึ้น 8.78 จุด และหลังจากนั้นดัชนีฯได้เริ่มปรับลดลงอีกครั้ง โดยในวันที่ 10 ม.ค.ดัชนีฯพลิกกลับมาปิดที่ 800.18 จุด หรือลดลง 20.29 จุด วันที่ 11 ม.ค.ดัชนีฯปิดที่ 796.47 จุด หรือลดลง 3.71 จุด วันที่ 14 ม.ค.ดัชนีฯปิดที่ 791.15 จุด หรือ 5.32 จุด และวันที่ 15 ม.ค.ดัชนีฯปิดที่ 779.79 จุด หรือลดลง 11.36 จุด รวม 10 วันทำการหลังเปิดศักราชใหม่พบว่าดัชนีฯลดลง 68 จุด 78.31 จุด หรือ 9.12%

- ฝรั่งขายสุทธิ 21,549.11 ลบ.ภายในเวลา 10 วันทำการเท่ากัน
โดยการปรับลดลงของดัชนีฯดังกล่าวสอดคล้องกับการขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติที่ขายสุทธิออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยในวันที่ 2 ม.ค.นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 736.25 ลบ. วันที่ 3 ม.ค.ขายสุทธิ 2,313.68 ลบ. วันที่ 4 ม.ค.ขายสุทธิ 2,895.65 ลบ. วันที่ 7 ม.ค.ขายสุทธิ 4,523.10 ลบ. ในขณะที่วันที่ 8-9 ม.ค.ที่ดัชนีฯได้รีบาวน์ขึ้นแดนบวกอีกครั้ง แต่พบว่านักลงทุนต่างชาติยังเป็นฝ่ายขายสุทธิ โดยในวันที่ 8 ม.ค.ขายสุทธิ 2,433.43 ลบ. วันที่ 9 ม.ค.ขายสุทธิ 1,415.41 ลบ. วันที่ 10 ม.ค.ขายสุทธิ 1,505.32 ลบ. วันที่ 11 ม.ค.ขายสุทธิ 1,184.24 ลบ. วันที่ 14 ม.ค.ขายสุทธิ 2,119.82 ลบ.และวันที่ 15 ม.ค.ขายสุทธิอีก 2,422.21 ลบ. โดยรวมความมุ่งมั่นของการขายสุทธิในเวลา 10 วันทำการสูงถึง 21,549.11 ลบ.

- พบ ราคาหุ้น PTT ปรับลดลงมากกว่าตลาดฯถึง 1 เท่าตัว

ทั้งนี้พบว่าภายในเวลา 10 วันทำการแรกของปี 2551 ราคา บมจ.ปตท.(PTT) ซึ่งเป็นหุ้นมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ยอดนิยมของนักลงทุนต่างชาติ ปรับลดลงถึง 68 บาท หรือ 18.08% จาก ราคาปิดที่ 376 บาทในวันที่ 28 ธันวาคม 2550 ซึ่งเป็นวันทำการสุดท้ายของปี มาอยู่ที่ 308 บาท นั่นแปลว่าราคาหุ้น PTT ปรับลดลงสูงกว่าการลดลงของดัชนีฯถึง เกือบ 1 เท่าตัว ภายในเวลา 10 วันทำการเท่ากัน ในขณะเดียวกันพบว่าเมื่อสำรวจราคาหุ้นมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่อื่นๆ พบว่าราคาล้วนปรับลดลงโดยถ้วนหน้า อาทิ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ราคาปิดวันที่ 28 ธันวาคม 50 อยู่ที่ระดับ 164 บาท วันที่ 15 ม.ค.51 ปิดที่ 151 บาท ลดลง 13 บาท หรือ 7.92% บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP ราคาปิดวันที่ 28 ธ.ค. 50 อยู่ที่ 86.50 บาท ปิดวันที่ 15 ม.ค.51 ที่76 บาท ลดลง 10.05 บาท หรือ 12.13% บริษัท ปตท.เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTCH ราคาปิดวันที่ 28 ธ.ค.50 ที่ 124 บาท ปิดวันที่ 15 ม.ค.51 ที่ 105 บาท ลดลง 19 บาท หรือ 15.32% บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU ราคาปิดวันที่ 28 ธ.ค.50 ที่ 400 บาท วันที่ 15 ม.ค.51 ที่ 378 บาท ลดลง 22 บาท หรือ 5.5% และ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ราคาปิดวันที่ 28 ธันวาคม 50 ที่ 86.50 บาท ปิดวันที่ 15 ม.ค.ที่ 77 บาท ลดลง 9.5 บาท หรือ 10.98%

- มาร์เก็ตแคปวูบ 3.67 แสนลบ.
การปรับลดลงอย่างต่อเนื่องของดัชนีฯ จากแรงขายสุทธิอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยของนักลงทุนต่างชาติในช่วง 9 วันที่การที่ผ่านมา (2-14 ม.ค.51) กดดันให้มาร์เก็ตแคปของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจากที่อยู่ที่ระดับ 6,536,318.51 ล้านบาท ในวันที่ 2 ม.ค.51 มาอยู่ที่ 6,168,360.24 ล้านบาท ในวันที่ 14 ม.ค.51 หรือลดลง 367,958.3 ล้านบาท

-เซียนหุ้นฟันธงถ้ายังขายไม่เลิกพบกันใหม่ที่ 750 - 720 จุด
นักวิเคราะห์ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก กล่าวถึงทิศทางของดัชนีตลาดหุ้นไทยในขณะนี้ว่าน่าจะยังเป็นขาลงอยู่ และยิ่งหากราคาหุ้นบริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) หรือ PTT ปรับตัวต่ำลงกว่า 300 บาท คาดอยู่ที่ระดับ 274 บาท ซึ่งถือเป็นราคาที่เหมาะสำหรับการเข้าซื้อลงทุน จากความไม่ชัดเจนในกรณีค่าเช่าท่อก๊าซของ PTT ที่อาจจะส่งผลต่อความมั่นใจของนักลงทุน และทำให้มีแรงเทขายหุ้นออกมากดดันดัชนีฯให้ปรับลดลง

นอกจากหุ้นกลุ่มที่มีมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่อย่างเช่น PTT ที่มีต่อการซื้อขายในตลาดฯ แล้ว BANPU และหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ เช่น SCB และ KBANK ที่ราคาหุ้นได้ปรับตัวลดลง ประกอบกับปัจจัยภายในประเทศทั้งเรื่องของการเมืองที่ยังต้องรอการพิจารณาตัดสินคดีการยุบพรรคพลังประชาชนของศาลฎีกา หลังจากที่มีข้อกล่าวหาว่าเป็นนอมินีให้พรรคไทยรักไทยจึงทำให้ภาพรวมตลาดมีแรงขายออกมาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม หากการเมืองมีความชัดเจนดัชนีฯ อาจจะดีดตัวกลับมาเป็นบวกได้ แต่เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีความชัดเจนจึงไม่สามารถประเมินสถานการณ์ได้แต่ถือว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่ความเคลื่อนไหวของตลาดน่าเป็นห่วง โดยมองกรอบแนวรับไว้ที่ 730-720 จุด และแนวต้านอยู่ที่ 795 จุด

อย่างไรก็ตาม จะสังเกตได้ว่าหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่มีแรงเทขายออกมาอย่างต่อเนื่องจากนักลงทุนต่างชาติเพื่อถือเงินสด โดยคาดว่าแรงขายจากนักลงทุนต่างชาตินั้นเพื่อต้องการกลับไปตั้งหลัก และเมื่อสถานการณ์ทุกอย่างเริ่มชัดเจนขึ้นนักลงทุนต่างชาติก็จะกลับมาลงทุนใหม่ แต่คงไม่ได้เห็นในช่วงครึ่งปีแรกนี้

ขณะที่นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซิกโก้ กล่าวว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยตั้งแต่ช่วงต้นปี 2551 จนถึงวันนี้ ดัชนีฯปรับตัวลดลงประมาณเกือบ 80 จุด โดยมองว่า ปัจจัยหลักที่กดดันดัชนีฯ คือ ปัจจัยภายนอกประเทศ หลังภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯเข้าสู่ภาวะถดถอย ทั้งนี้ ปัจจัยภายในประเทศ เรื่องการเมืองที่ยังไม่มีความชัดเจนก็กดดันดัชนีฯ แต่อย่างไรก็ตาม หากการเมืองมีความชัดเจน ก็อาจส่งผลต่อตลาดฯทั้งในแง่บวกและแง่ลบได้ ประกอบกับนักลงทุนต่างชาติยังเทขายออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนักลงทุนต่างชาติเทขายเฉลี่ยวันละ 1,000 -2,000 ล้านบาท รวมแล้วนักลงทุนต่างชาติเทขายประมาณ กว่า 20,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ มองว่า หากราคาหุ้น บมจ.ปตท. หรือ PTT หลุดต่ำกว่า 300 บาท มีแนวรับอยู่ที่ 280-270 บาท ทั้งนี้นักลงุทนต่างชาติยังมีแรงเทขายออกมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับหุ้นที่นักลงทุนต่างชาติเทขายส่วนใหญ่เป็นกลุ่มมาร์เก็ตแคปจะน่าจะส่งผลกดดันให้ดัชนีฯปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 750 จุดได้
ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ กล่าวว่า หากราคาหุ้น บมจ.ปตท. หรือ PTT หลุดต่ำกว่า 300 บาท ดัชนีฯมีแนวโน้มลดลง 3 จุด ซึ่งปิดตลาดวันนี้ดัชนีฯอยู่ที่ 779.79 จุด ส่งผลให้ดัชนีฯลดลงอยู่ที่ 776 จุด ได้ อย่างไรก็ดี มองว่า หากกลุ่มมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ปรับตัวลดลงทั้งกลุ่ม ก็ยิ่งส่งผลซ้ำเติมให้ดัชนีฯปรับตัวลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ กลยุทธ์การลงทุนแนะนำ นักลงทุน ชะลอการลงทุน เนื่องจากยังมีแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติอย่างต่อเนื่อง

การปรับตัวลงของหุ้นบิ๊กแคปยอดนิยมในเวลา 10 วันทำการ (2 ม.ค.-15 ม.ค.)

หุ้น ราคาปิด 28 ธ.ค. ราคาปิด 15 ม.ค. ลดลง(บาท) %
PTT 376 308 68 18.08
PTTCH 124 105 19 15.32
PTTEP 164 151 13 7.92
TOP 86.50 76 10.05 12.13
BANPU 400 378 22 5.5
SCB 86.50 77 9.5 10.98


:lol:

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com