SET
การปรับลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ส่งผลลบต่อทิศทางระยะสั้นค่อนข้างมาก ดังจะเห็นได้ว่า แม้จะพยายามดีดกลับ แต่ดัชนีไม่อาจยืนเหนือเส้นดังกล่าว กลับปรับลดลงต่อเนื่อง ขณะเดียวกันยังทำให้ Stochastic มีสถานะด้านลบมากขึ้น รูปแบบ Inverted Hammer ที่เกิดขึ้น อาจทำให้เกิดการดีดกลับช่วงสั้นได้อีก แต่ก็จะมีระยะทางไม่ไกลเกินกว่า Dead Cross ที่เกิดขึ้นบริเวณ 833 จุด

มุมมองระยะกลาง - TUCC
กลยุทธ์การลงทุน: ซื้อ
การเรียงตัวของเส้นค่าเฉลี่ยของ TUCC แสดงถึงรูปแบบขาขึ้นของโครงสร้างระยะยาวอย่างเด่นชัด ราคาปรับขึ้นต่อเนื่อง ตั้งแต่แรกเริ่มของการซื้อขาย กระทั่งทำจุดสูงสุดได้ที่ 11.90 บาท เมื่อ ต.ค. ที่ผ่านมา การอ่อนตัวลงจากบริเวณดังกล่าว เนื่องด้วยภาวะซื้อมากเกินไปในสัญญาณระยะสั้น โดยมีเส้นค่าเฉลี่ย 25 สัปดาห์ ที่ 10.00 บาท ทำหน้าที่แนวรับหลัก ขณะนี้ราคาหุ้นเริ่มฟื้นตัว อีกทั้งยังมีความเป็นไปได้ที่จะดีดตัวทำจุดสูงใหม่อีกครั้ง คาดว่าจะเป็นบริเวณ 14.00-15.00 บาท ในโครงสร้างระยะกลาง

หุ้นเด่น เล่นสั้น - TYM
กลยุทธ์การลงทุน: ซื้อ
จากกราฟรายวัน ราคามีรูปแบบ Reversal Pattern โดยเริ่มกลับตัวสู่แนวโน้มขาขึ้น โดยสามารถยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วัน พร้อมกับการสะสมกำลังมาระยะหนึ่ง นอกจากนั้น ยังมีสัญญาณซื้อจาก MACD, RSI & Stochastic อีกด้วย คาดว่ามีโอกาสที่หุ้นจะขึ้นไปทดสอบแนวต้านบริเวณจุดสูงสุดเดิมที่ผ่านมา ที่ 4.64 บาท และแนวต้านถัดไปคือ 6.00 บาท ตาม Fibonacci@161.8 จึงแนะนำ ?ซื้อ? โดยให้แนวรับที่ 4.20-4.30 บาท สำหรับ Stop loss อยู่ที่ 4.10 บาท เมื่อหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน

หุ้นเด่น เล่นสั้น - IEC
กลยุทธ์การลงทุน: ซื้อ
จากกราฟรายสัปดาห์ ราคามีรูปแบบ Reversal Pattern โดยเริ่มกลับตัวสู่แนวโน้มขาขึ้น โดยสามารถยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 สัปดาห์ พร้อมกับการสะสมกำลังมาระยะหนึ่ง นอกจากนั้น ยังมีสัญญาณซื้อจาก MACD, RSI & Stochastic อีกด้วย คาดว่ามีโอกาสที่หุ้นจะขึ้นไปทดสอบแนวต้านบริเวณ จุดสูงสุดเดิมที่ผ่านมา ที่ 1.35 บาท และแนวต้านถัดไปคือ 1.73 บาท ตาม Fibonacci@161.8 จึงแนะนำ ?ซื้อ? โดยให้แนวรับที่ 1.10-1.15 บาท สำหรับ Stop loss อยู่ที่ 1.08 บาท เมื่อหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 75 สัปดาห์

:lol:

กรณี MCOT แตกต่างจาก PTT ... เชื่อไม่ถูกกระทบ (ซื้อ)

ราคาหุ้น MCOT ลดลงมากถึง 11% วานนี้ จากความกังวลต่อประเด็นผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในลักษณะคล้ายกับ ปตท. เราประเมินว่าประเด็นการใช้คลื่นวิทยุโทรทัศน์ของ MCOT ต่างกับกรณีการครอบครองกรรมสิทธิในท่อก๊าซของ PTT เนื่องจาก MCOT ไม่ได้เป็นเจ้าของคลื่น เพียงแต่ใช้คลื่นชั่วคราวระหว่างรอ กสทช. เข้ามาจัดสรรคลื่นความถี่ใหม่ในอนาคต ทั้งนี้ในปี 49 เรื่องการแปรรูปของ MCOT ยังเคยถูกนำขึ้นร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา และศาลปกครอง แต่ในที่สุดก็ได้ถูกพิจารณายกคำร้องทั้งสองครั้ง เราจึงคิดว่าประเด็นการขอเพิกถอนการแปรรูป น่าจะไม่มีผลกระทบต่อ MCOT อีกแล้ว ในขณะที่มูลค่าพื้นฐานของ MCOT ที่ 27.25 บาท ซึ่งมี upside ถึง 20% จากราคาปิด ได้ถูกรวมความเสี่ยงจากผลของ พรบ.กระจายเสียงฯ ไว้ทั้งหมดแล้ว ราคาหุ้นที่ลดลงในขณะนี้ จึงน่าจะ เป็นจังหวะให้ทยอยสะสมหุ้น เราจึงปรับคำแนะนำจาก ?ขาย? เป็น ?ซื้อ?

ประเด็นการใช้คลื่นวิทยุโทรทัศน์ ต่างกับกรณีท่อก๊าซ
ความกังวลต่อหุ้น MCOT อยู่ที่ประเด็นการใช้คลื่นความถี่ ซึ่งถูกมองว่าเป็นสาธารณะสมบัติ เช่นเดียวกับท่อก๊าซ PTT อย่างไรก็ตาม กรณี MCOT ต่างออกไป เนื่องจากบริษัทไม่ได้เป็นเจ้าของคลื่น เพียงแต่ได้สิทธิใช้คลื่นจากผลของการแปรรูปรัฐวิสาหกิจในระหว่างรอการจัดสรรคลื่นของ กสทช. เราจึงเชื่อว่าผลกระทบจากกรณี PTT น่าจะไม่เกิดขึ้นกับ MCOT

การแปรรูป..ศาลปกครองเคยวินิจฉัยแล้ว
เราประเมินว่าความเสี่ยงจากคดีความ กรณีการขอเพิกถอนการแปรรูป สำหรับ MCOT น่าจะไม่มีแล้วในขณะนี้ ทั้งจากกรณีที่เคยมีผู้ยื่นฟ้องให้ถอนการแปรรูปต่อผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา และศาลปกครอง ในปี 49 แต่ในที่สุดก็ถูกพิจารณายกคำร้องทั้งหมด

ความเสี่ยงจาก พรบ.สื่อ .. ถูกรวมในประมาณการแล้ว
เรารวมความเสี่ยงจาก พรบ.สื่อ ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของ สนช. ไว้ในประมาณการทั้งหมดแล้ว มูลค่าพื้นฐาน 27.25 บาท ยังมี upside ถึง 20% จากราคาปิด



:lol: