บล.เคทีบี คว้าตำแหน่งสุดยอด ที่ปรึกษาฯและอันเดอร์ไรท์ปี 50 หลังนำ BWG ลงเทรดราคาพุ่ง 193.33% ส่วน MILL อีกหนุ่งหุ้นในต้นสังกัด โชว์ลีลาเด็ดไม่แพ้กัน ราคาพุ่งจากไอพีโอกว่า 79% ส่วนรองได้แก่ APM ดัน TNDT เข้าเทรดราคาพุ่งจากไอพีโอ 176.77% มือไอบี มองปีหน้า เทรนด์หุ้นไอพีโอ จะคึกคักหรือไม่ขึ้นอยู่กับ ภาวะตลาดหุ้นและรัฐบาลใหม่ ด้านนักวิเคราะห์ เชื่อปี 51 ยังเป็นปีทองของหุ้นไอพีโอ จับว่าที่ บจ.น้องใหม่ 13 แห่ง เข้าจดทะเบียนใน SET-mai ตามรอยรุ่นพี่

จากการรวบรวมข้อมูลของผู้สื่อข่าว eFinanceThai.com พบว่าตั้งแต่ต้นปี 2550 จนถึงปัจจุบัน (17 ธ.ค.50) ปรากฎว่า มีบริษัทที่เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและตลาดเอ็มเอไอ รวมทั้งสิ้น 12 แห่ง โดยแบ่งเป็นเข้าระดมทุนใน ตลท. 6 แห่ง ประกอบด้วยบริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MJD,บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ, บริษัท รสา พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ RASA, บริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC, บริษัท ไทยง้วนเมทัล จำกัด (มหาชน) หรือ TYM ,บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) หรือ BWG
ในขณะที่ตลาด เอ็มเอไอ ประกอบด้วย บริษัท มิลล์คอนสตีลอินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ MILL, บริษัท ไทย เอ็น ดี ที จำกัด (มหาชน) หรือ TNDT, บริษัท มัลติแบกซ์ จำกัด(มหาชน) หรือ MBAX และบริษัท ยูบิส (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) หรือ UBIS ,บริษัท ไซแมท เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน)หรือ SIMAT และบริษัท บอดี้ โกลฟ(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ BGT

สำหรับหุ้นไอพีโอที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด 3 อันดับแรกในปี 2550 พบว่า อันดับ 1 ได้แก่ บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) หรือ BWG เข้าเทรด 14 พ.ย.50 ราคาไอพีไอที่ระดับ 3.00 บาท กับราคาปิดวานนี้ที่ 8.80 บาท เพิ่มขึ้น 193.33% ซึ่งที่ปรึกษาทางการเงินและอันเดอร์ไรท์ คือ บล.กรุงไทย อันดับ 2 ได้แก่ บริษัท ไทย เอ็น ดี ที จำกัด (มหาชน) หรือ TNDT เข้าเทรด 28 ก.ย.50 ราคาไอพีโอที่ระดับ 3.10 บาท เทียบกับราคาปิดวานนี้ที่ 7.65 บาท เพิ่มขึ้น 146.77% ซึ่งที่ปรึกษาทางการเงินคือ บริษัท แอสเซท โปรแมเนจเม้นท์ หรือ APM ส่วนอันเดอร์ไรท์ คือ บล.พัฒนสิน ส่วนอันดับที่ 3 ได้แก่ บริษัท มิลล์คอนสตีลอินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ MILL เข้าเทรดวันที่ 6 พ.ย.50 ราคาไอพีโอที่ระดับ 2.90 บาท เทียบกับราคาปิดวานนี้ที่ระดับ 5.20 บาท เพิ่มขึ้น 79.31%

*** ZMICO มองภาพรวม IPO ปี 51 ยังประเมินยาก แต่เชื่อการมีรัฐบาลจากการเลือกตั้งช่วยดึงเงินทุนตปท.ได้ง่ายขึ้น


นายภาณุ คงแท่น ผู้จัดการฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.ซีมิโก้ กล่าวถึงภาพรวมการนำบริษัทเข้าระดมทุนในตลาดหุ้นหรือ IPO ปี 2551 ว่ายังคงประเมินความแตกต่างจากปีนี้ได้ค่อนข้างยาก แต่การที่ประเทศจะมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนนั้น จะเป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่จะเสริมความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างประเทศ และยิ่งถ้ารัฐบาลที่เข้ามาใหม่มีเสถียรภาพ ก็ย่อมจะทำให้เกิดความสะดวกในการติดต่อนักลงทุนสถาบันต่างประเทศให้เข้ามาซื้อหุ้น หรือร่วมถือหุ้นบริษัทที่จะเสนอขาย IPO ได้

อย่างไรก็ดี ในส่วนของบล.ซีมิโก้ การตั้งราคาขาย IPO และการให้ส่วนลดราคาหุ้นหากเทียบจากราคาตลาดของหุ้นประเภทเดียวกันจะยังคงต้องพิจารณาด้านปัจจัยพื้นฐานธุรกิจเป็นอันดับแรกก่อน อันดับต่อมาคือเรื่องความผันผวนของภาวะตลาดหุ้นประกอบด้วย เพราะมั่นใจว่าเลือกบริษัทที่มีพื้นฐานดีมานำเสนอขาย IPO กับประชาชนเป็นเรื่องสำคัญที่สุดและจะทำให้มีการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี จะเช่นเดียวกันกับภาพรวมหุ้น IPO ส่วนใหญ่ในปีนี้ที่ประสบความสำเร็จ มีราคาปรับเพิ่มขึ้นเหนือราคาจองได้อย่างชัดเจน

***บล.เคทีบี มองความคึก IPO ปีหน้าขึ้นอยู่ภาพรวมรัฐบาลที่มีผลตรงต่อการกระตุ้นศก.และตลาดทุน

แหล่งข่าวจาก บล.เคทีบี ได้กล่าวถึงแนวโน้มงานด้านวาณิชธนกิจ โดยเฉพาะการระดมทุนกับประชาชนทั่วไป หรือ IPO ว่า หากภาพรวมรัฐบาลที่จะเข้ามาบริหารประเทศใหม่ ซึ่งจะมีผลโดยตรงต่อการวางแผน และดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงการพัฒนาส่งเสริมการลงทุนในตลาดทุนด้วย

ทั้งนี้หากเศรษฐกิจไทยอยู่ในทิศทางที่ดีแล้ว แผนการเพิ่มจำนวนบริษัทจดทะเบียนของตลาดหลักทรัพย์แบบเร่งรัดหรือ ฟาสแทรค ก็จะทำใด้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จำนวนบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนใหม่ๆในตลาดหลักทรัพย์จึงมีน่าจะมีจำนวนมากขึ้นกว่าปีปัจจุบันมาก และนักลงทุนไทยก็จะมีความต้องการลงทุนในตลาดหุ้น รวมถึงหุ้น IPO มากขึ้นตามไปด้วย
ขณะที่เรื่องการตั้งค่าP/Eหุ้น IPO ที่จะเสนอขายประเมินว่าจะมีส่วนลดที่เหมาะสม อยู่ในระดับพอสมควร ไม่มากหรือน้อยเกินไปต่างจากปีนี้มากนัก

***วงการ ประสานเสียง 51 ปีทองหุ้นไอพีโอ

นายชัย จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.พัฒนสิน เปิดเผยว่า แนวโน้มของหุ้นไอพีโอในปี 2551 น่าจะสดใสต่อเนื่องจากปีนี้ เพราะเป็นหุ้นใหม่คงจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นจำนวนมาก ในขณะเดียวกันช่วงที่ผ่านมาหุ้นไอพีโอยังได้รับความสนใจจากนักลงทุนและส่วนใหญ่สามารถยืนเหนือราคาจองได้ แต่ก่อนที่นักลงทุนจะตัดสินใจเข้าซื้อหุ้นไอพีโอนั้นควรที่จะพิจารณาปัจจัยพื้นฐานของหุ้นดังกล่าวประกอบด้วย เพราะหุ้นไอพีโอแต่ละตัวมีปัจจัยพื้นฐานการดำเนินธุรกิจที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ต้องพิจารณาจากราคาไอพีโอและผลตอบแทนที่จะได้รับในอนาคตด้วยเพื่อป้องกันความเสี่ยง

"ไอพีโอปี 51 ดูแล้วน่าจะสดใสเพราะในปีนี้หุ้นไอพีโอหลายตัวก็คึกคักและได้รับความสนใจจากนักลงทุนและสามารถยืนเหนือราคาจองได้ คงจะเป็นการนำร่องที่ดี อีกอย่างบรรยากาศการลงทุนน่าจะดีขึ้นกว่าปีนี้ คงจะส่งผลบวกต่อหุ้นไอพีโอด้วย" นายชัย กล่าว

ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ในช่วงนี้หุ้นไอพีโอส่วนใหญ่ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นแรงจนสามารถยืนเหนือราคาจองได้ในการเข้าซื้อขายวันแรกและได้รับความสนใจจากนักลงทุนเพราะสภาพคล่องในตลาดฯที่มีอยู่มาก ประกอบกับราคาหุ้นที่ไม่แพงมากนักและเหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานเป็นตัวช่วยดึงดูดความสนใจจากนักลงทุน นอกจากนี้ภาวะดอกเบี้ยในปัจจุบันที่อยู่ในระดับต่ำยังเป็นปัจจัยที่ดึงดูดให้นักลงทุนหันมาลงทุนในตลาดหุ้นเพราะได้ผลตอบแทนมากกว่าการฝากเงินไว้ในธนาคาร ดังนั้นจากแนวโน้มของหุ้นไอพีโอในช่วงที่ผ่านมาคงจะสนับสนุนให้หุ้นไอพีโอในปี 2551 มีทิศทางที่ดีขึ้นจากปีนี้อีกด้วย

*** 13 บจ.จ่อคิวเข้า ตลท.-mai ปี 51

จากการรวบรวมรายชื่อของบริษัทที่อยู่ระหว่างยื่นไฟลิ่งแก่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ซึ่งขณะนี้ ก.ล.ต.นับ 1 ไฟลิ่งแล้วมีทั้งสิ้น 13 บริษัท ได้แก่ บมจ.เอเชีย ซอฟท์ เข้าจดทะเบียนในตลาด mai ที่ปรึกษาทางการเงินคือ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) , บมจ.ไดเมท สยาม เข้าจดทะเบียนในตลาด mai ที่ปรึกษาทางการเงินคือ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ , บมจ.บิวเดอร์สมาร์ท เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ที่ปรึกษาทางการเงินคือ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์

บมจ.ทริปเปิลที บรอดแบรนด์ เข้าจดทะเบียนใน ตลท. ที่ปรึกษาทางการเงินคือ บล. ฟินันซ่า , บมจ.หลักทรัพย์ เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ เข้าจดทะเบียนใน ตลท. ที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ.หลักทรัพย์ บีฟิท, บมจ.เอสโซ่ เข้าจดทะเบียนใน ตลท. ที่ปรึกษาทางการเงิน คือ บมจ.หลักทรัพย์ ภัทร, บมจ.ซินเน็ค(ประเทศไทย) เข้าทะเบียนใน ตลท. ที่ปรึกษาทางการเงิน คือ บล.พัฒนสิน , บมจ.เจมาร์ท เข้าจดทะเบียนในตลท. ที่ปรึกษาทางการเงินคือ บมจ.หลัดทรัพย์ แอสเซท พลัส, บมจ.ซาบีน่า เข้าจดทะเบียนใน ตลท. ที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท ซิกโก้ แอดไวเซอรี่, บมจ.โลหะกิจ เข้าจดทะเบียนใน ตลท. ที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ.หลักทรัพย์ ซิมิโก้

บมจ.สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลล์ เข้าจดทะเบียนใน ตลท. ที่ปรึกษาทางการเงิน คือ บริษัท แอดไวเซอรี่ พลัส, บมจ.พรีเมียร์ มาร์เก็ตติ้ง เข้าจดทะเบียนใน ตลท. ที่ปรึกษาทางการเงินคือ บริษัท แอดไวเซอรี่ พลัส และ บมจ.น้ำปะปาไทย เข้าจดทะเบียนใน ตลท. ที่ปรึกษาทางการเงินคือ บล.กสิกรไทย



ตารางเปรียบเทียบราคา IPO กับราคาปิดวันแรกที่เข้าซื้อขายใน SET และ MAIของหลักทรัพย์ใหม่ในปี 2550

ชื่อหลักทรัพย์ ราคา IPO ราคาปิดวานนี้ เปลี่ยนแปลง (%)
UNIQ 1.80 2.88 60
RASA 6.50 4.76 -26.77
DTAC 40 38.25 -4.38
TYM 3 4.36 45.33
BWG 3 8.8 193.33
MJD 4.70 4.46 -5.11
MILL 2.90 5.2 79.31
TNDT 3.10 7.65 146.77
MBAX 5 3.96 -20.8
UBIS 1.75 2.78 58.86
SIMAT 3.80 3.8 ไม่เปลี่ยนแปลง
BGT 4.70 3.46 -26.38

ที่มา : eFinanceThai.com รวบรวม


:lol: