May 4, 2024   1:54:02 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > 16 หุ้นแจ็กพ็อต
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 03/10/2007 @ 09:28:42
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

16 หุ้นบจ. รับอานิสงส์รถไฟฟ้าสายสีม่วง แดง วานนี้ค.ร.ม.ไฟเขียวเพิ่ม ทำบางซื่อ บางใหญ่ กลุ่มก่อสร้าง แบงก์ อสังหาฯ ได้ดียกขโยง อสังหาฯจับตา PF PS คอนโดฯตามเส้นทางรถไฟฟ้า วัสดุก่อสร้าง ทาทาสตีล ปูนซีเมนส์ไทยเฮงสุด คมนาคมจ่อชงสายสีแดงระยะ 2 เข้าค.ร.ม.ปลายเดือนตุลาคม ส่วนวันนี้รัฐเปิดขายซองเส้นสีแดง เฟส 1 อิตัลไทย ยูนิค ลั่นชิงดำแน่

นายพงศ์พันธุ์ อภิญญากุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัท หลักทรัพย์ กิมเอ็งจำกัด กล่าวว่า การที่ค.ร.ม. อนุมัติรูปแบบลงทุนก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ระยะทาง 23 กิโลเมตร ด้วยเงินลงทุน 59,997 ล้านบาท โดยเป็นเงินลงทุนในระบบรางและสถานีกว่า 31,000 ล้านบาท ออกมานั้น จะส่งผลดีกับหุ้นกลุ่มก่อสร้าง แบงก์ และ อสังหาริมทรัพย์ ค่อนข้างมาก
ทั้งนี้กลุ่มที่ได้รับผลประโยชน์ทางตรง คือ กลุ่มผู้รับเหมาขนาดใหญ่ ที่จะเข้าร่วมประมูลงานในเดือน พ.ย.นี้ ทั้งบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD, บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) CK และ STEC โดยหุ้นที่เด่นที่สุดคือบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ STEC เนื่องจากเป็นหุ้นที่มีค่าพีอีต่ำสุดในบรรดาบริษัทก่อสร้างขนาดใหญ่

นายภูวดล ลาภอุดมสุข ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารหรือสถาบันการเงินที่น่าจะได้รับประโยชน์มากที่สุดจากการปล่อยกู้ให้โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า คือ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB เนื่องจากเป็นธนาคารของภาครัฐ ดังนั้นจึงต้องสนับสนุนโครงการจากทางภาครัฐอยู่แล้ว

ด้านนักวิเคราะห์บล.กรุงศรีอยุธยา จำกัด กล่าวว่า ธนาคารที่มีโอกาสปล่อยกู้ให้กับรถไฟฟ้าคือ ธนาคารกรุงไทยและธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB แต่ในส่วนของทหารไทยอาจมีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง โดยหากการเพิ่มทุนยังไม่เรียบร้อยก็อาจเป็นธนาคารแห่งอื่นที่ได้รับโอกาสไปแทน เช่น ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL และ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK เป็นต้น
นายธีระ ห้าวเจริญ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในส่วนของรัฐบาลชุดปัจจุบัน สำหรับโครงการรถไฟฟ้าที่ยังเหลืออยู่อีกทั้งหมด รัฐบาลจะพยายามผลักดันให้ที่ประชุม ค.ร.ม.อนุมัติกรอบการลงทุนรถไฟฟ้าเพิ่มอีก 1 สาย คือสายสีแดง ระยะที่ 2 (บางซื่อ-รังสิต) โดยคมนาคมจะดำเนินการสรุปแผนและนำเข้าสู่การพิจารณาของ ค.ร.ม.ให้ได้ภายในปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายนนี้

นายพัฒนพงษ์ ตนุมัธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสคอน คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ASCON เปิดเผยกับว่า หลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ค.ร.ม.) อนุมัติให้ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง บริษัทได้เตรียมที่จะร่วมมือกับพันธมิตรจากประเทศเยอรมนี เข้าร่วมประมูลโครงการดังกล่าว เนื่องจากมีประสบการณ์ในการก่อสร้างรถไฟฟ้ามาแล้ว ประกอบกับมีฐานะเงินทุนที่แข็งแกร่งและมีบุคลากรที่มีศักยภาพอีกด้วย

นายนที พานิชชีวะ ประธานกรรมการ บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ ระบุว่า บริษัทจะซื้อซองประมูลสายสีแดง เพราะเตรียมพร้อมเข้าร่วมประมูลเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะเข้าประมูลเองหรือต้องหาพันมิตรเข้าร่วมประมูล เพราะต้องรอดูเงื่อนไขการประมูลก่อนว่าเงื่อนไขได้กำหนดเอาไว้ยังไงบ้าง ทั้งนี้ UNIQ มีอุปกรณ์การก่อสร้างอย่างพร้อมเพรียงและยังมีบุคลากรที่มีความชำนาญงานรอบรับโครงการดังกล่าวแล้ว

นายชาติชาย ชุติมา รองประธานบริหารฝ่ายการเงิน ITD กล่าวว่า บริษัทซื้อซองประมูลสายสีแดงแน่ เตรียมพร้อมเกิน 100% ที่จะเข้าร่วมประมูลเส้นบางซื่อ-ตลิ่งชัน มูลค่า 8.75 พันล้านบาท และสายสีม่วง บางซื่อ-บางใหญ่ มูลค่า 29,160 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมา ITD ได้มีการเตรียมการเข้าร่วมการประมูลโครงการมานานแล้ว แต่ที่ผ่านมารัฐไม่มีความชัดเจนเรื่องการประมูลและมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา รวมทั้งมีแน้วโน้มที่จะเข้าประมูลเองโดยไม่จำเป็นต้องหาพันธมิตร
นายพงศ์พันธุ์กล่าวต่อว่า ส่วนกลุ่มอสังหาริมทรัพย์จะได้รับประโยชน์ในด้านของผู้พัฒนาที่ดินที่อยู่บริเวณรถไฟฟ้าหลายบริษัท แต่บริษัทที่โดดเด่นสุดในขณะนี้คือ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS เนื่องจากยังมีราคาที่ยังต่ำอยู่

เช่นเดียวกับกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่จะได้รับผลจากวงจรเศรษฐกิจที่จะเติบโตขึ้นมา โดยมองว่าช่วงนี้ควรเก็บหุ้น บริษัท ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL เนื่องจากเป็นหุ้นแบงก์ขนาดใหญ่ รวมถึงธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK หรือ บริษัท ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)หรือ SCB

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส จำกัดกล่าวว่า บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF จะมีความโดดเด่นมากจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงบางซื่อ-บางใหญ่นี้

นอกจากนี้ PF ยังมีที่ดินที่อยู่ในบริเวณรถไฟฟ้าสายนี้ค่อนข้างมาก และเป็นที่ดินขนาดใหญ่ ซึ่งเชื่อว่าการก่อสร้างรถไฟฟ้าที่เกิดขึ้น จะทำให้ PF สามารถสร้างสรรรูปแบบในการพัฒนาโครงการได้ง่ายขึ้นมากขึ้น เช่น การสร้างคอนโดมิเนียม แทนการสร้าง บ้านเดี่ยว หรือ ทาวน์เฮ้าส์
นอกจากนี้ ยังมีบริษัทจดทะเบียนที่กำลังเปิดขายโครงการเกาะแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง บางซื่อ-บางใหญ่ ซึ่งจะได้รับผลประโยชน์เช่นเดียวกัน อาทิ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI รวมไปถึง บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH

นายเทิดศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า ITD เด่นมากมีประสบการณ์ที่สุด แต่บริษัทที่จะได้รับผลประโยชน์มากแม้จะไม่ได้เข้าประมูลคือ บริษัท ชีฟโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SEAFCO เนื่องจากเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่ ทำเสาเข็ม และในการดำเนินโครงการไม่ว่าบริษัทใดจะเป้นผู้ชนะประมูลก็ต้องมีการส่งงานเสาเข็มมาให้กับ SEAFCO เช่นกัน

นายณรงค์ ทัศนนิพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซีฟโก้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การที่รัฐบาลเปิดประมูลรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอีกสายหนึ่ง จะเป็นผลดีต่อบริษัท เนื่องจากในการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าจะต้องใช้เสาเข็มเจาะค่อนข้างเยอะ

นายสุกิจ อุดมศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ นครหลวงไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในส่วนกลุ่มวัสดุก่อสร้างนั้นอาจจะได้รับผลดีในเชิงจิตวิทยา จากการที่ ค.ร.ม. อนุมัติ ก่อสร้าง รถไฟฟ้า โดยเฉพาะกลุ่มเหล็กที่จะนำมาใช้เป็นส่วนประกอบหลักในการก่อสร้างรถไฟฟ้า

ทั้งนี้แนะนำหุ้นพื้นฐานสำหรับกลุ่มก่อสร้าง บริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TSTH ซึ่งมีพื้นฐานการเงินที่แข็งแกร่งและมีเครือข่ายของบริษัทเหล็กยักษ์ใหญ่ในอินเดีย รวมถึงมีลูกค้าโดยตลอดเวลา และ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC ที่มีพื้นฐานที่แข็งแกร่งเช่นกัน

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรียังเห็นชอบเกี่ยวกับแนวทางการให้เอกชนเป็นผู้ร่วมดำเนินการสำหรับการบริการระบบเดินรถ PPP (Public Private Partnership) เนื่องจากเป็นรูปแบบที่เหมาะสมสำหรับการเดินรถไฟฟ้า รวมทั้งจะช่วยลดต้นทุนและลดการอุดหนุนจากภาครัฐ การดำเนินการของเอกชนจะมีความคล่องตัว ส่วนรายละเอียดมอบหมายให้ รฟม.ไปศึกษาเพิ่มเติม รวมทั้งระบบเชื่อมต่อรถไฟฟ้ากับเส้นทางอื่น โดยเฉพาะสายสีน้ำเงิน

นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่ามีการประกาศเชิญชวนให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมประมูลการก่อสร้างภายในเดือนตุลาคมนี้ ทั้งจะสามารถกำหนดการยื่นซองประมูลประมาณต้นเดือนพฤศจิกายน และคาดว่าจะสามารถเซ็นสัญญาการก่อสร้างได้ในเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2551 ซึ่งในส่วนของเงินกู้คลังจะเป็นผู้พิจารณา

นายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า คลังจะเดินหน้าเจรจากับธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (เจบิค) ในการนำเงินมาก่อสร้างรถไฟฟ้า แต่หากว่าเจบิคไม่อนุมัติทางกระทรวงการคลังจะพิจารณาจากแหล่งเงินกู้ภายในประเทศต่อไป ซึ่งเรื่องงบประมาณที่จะนำมาก่อสร้างนั้นไม่มีปัญหา ส่วนกรณีการจ่ายค่าจัดสรรกรรมสิทธิ์ที่ดินหรือการเวนคืนที่ดิน ที่หลายฝ่ายมองว่ามีมูลค่าสูงถึง 9,300 ล้านบาทนั้นเป็นราคาที่เหมาะสมที่กรมธนารักษ์เป็นผู้ประเมินตามหลักเกณฑ์ของกรมทางหลวงกำหนดซึ่งเป็นราคาที่ประชาชนก็พอใจ

ทั้งนี้ ภายหลังจากที่ ค.ร.ม.อนุมัติให้มีการก่อสร้างแล้ว คลังจะเดินหน้าโครงการทันที แต่แนวทางในการดำเนินงาน ร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชนจะเป็นในส่วนใดบ้างนั้น ต้องพิจารณากันต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร

ด้านนายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ยอมรับว่าในขณะนี้กระทรวงการคลังได้เจรจากับทางประเทศจีนเพื่อขอกู้เงินมาก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงอยู่ ซึ่งจะกู้เป็นเงินสกุลดอลลาร์โดยทางประเทศจีนจะคิดอัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี ซึ่งมีระยะเวลาในการชำระหนี้ 15 ปี

โดยขณะนี้ทางสถานทูตจีนได้นำธนาคารเพี่อการส่งออกและนำเข้า(เอ็กซิมแบงก์)ของประเทศจีนมาหารือในการให้เงินกู้แก่ประเทศไทย สำหรับโครงก่อสร้างพื้นฐานต่างๆทั้งการขนส่งและโทรคมนาคม ในวงเงินรวม 400 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งวงเงินนนี้อาจใช้ลงทุนก่อสร้างรถไฟฟ้าได้ แต่ต้องขึ้นอยู่กับผู้ประมูลด้วยว่าเป็นรายใด โดยกระทรวงการคลังจะเสนอกรอบวงเงินดังกล่าวให้ค.ร.ม.พิจารณาภายในเดือนนี้


:lol:

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com