ที่มา : เผดิมภพ สงเคราะห์

หัวคอลัมน์ : BANPU ซื้อเก็งกำไร
สัปดาห์ที่แล้วตลาดมีการเคลื่อนไหวในลักษณะ sideway up ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยเกิน 20,000 ล้านบาทต่อวันถือว่าสูงพอใช้ได้ กลุ่มน้ำมันที่พุ่งขึ้นมาแรงเมื่อสัปดาห์ก่อนเริ่มจะพักตัวบ้าง หุ้นที่เป็นตัวนำตลาดจึงเปลี่ยนเป็น KBANK BAY BANPU RRC ATC แต่มีแรงขายออกมามากในหุ้น BBL และ KTB แต่โดยรวมนักลงทุนต่างประเทศยังคงซื้อสุทธิ SET สัปดาห์นี้เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยอะไรใหม่ๆเราจึงคาดว่าปริมาณการซื้อขายน่าจะลดลง แนวต้านบริเวณ 850 จุด ควรจะผ่านไปตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว แต่ก็ยังไม่ผ่านดูแล้วเหมือนตลาดจะหมดแรง หลังจากที่เราแนะนำซื้อมาหลายวันตั้งแต่ 820จุด ตอนนี้ถ้าหลุด 840 จุดลงมาเราจะเปลี่ยนคำแนะนำมาเป็น"ขาย" ตอนนี้ wait and see ไปก่อน แนวต้าน 850 จุด แนวรับ 830 จุด

BANPU เราให้ความสนใจตัวนี้มาก จากราคาถ่านหิน Barlow Jonker Index (BJI) ที่กลับขึ้นมาใกล้จุดสูงสุดเดิมของปีนี้ที่ประมาณ 70 เหรียญต่อตัน เป็นการปรับเพิ่มขึ้นจากราคาตอนต้นปีประมาณ 35% และในช่วงปี 2551-2553 เรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อธุรกิจถ่านหินที่อยู่ในช่วงขาขึ้น โดยประมาณการที่ปรับขึ้นนี้จะสูงกว่าประมาณการตลาดอยู่ที่ประมาณ 3% เรามองว่าแนวโน้มที่

สดใสของราคาขายเฉลี่ย จะปรับตัวสูงขึ้นเกินกว่าผลกระทบจากปริมาณยอดขายที่ลดลงในปีนี้และปีหน้าของ BANPU สำหรับปริมาณถ่านหินสำรองของบริษัทยังปรับเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น โดยบริษัทตั้งเป้าการเพิ่มปริมาณถ่านหินสำรองมาเป็นอย่างน้อย 15 ปีการผลิต ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ 10 ปี และอยู่ในระดับเดียวกับมาตรฐานสากล ตามตัวเลขในเบื้องต้นของเรา คาดว่าปริมาณถ่านหินสำรองของบริษัทจะเพิ่มขึ้น 80-100 ล้านตัน ซึ่งสูงกว่าประมาณการเดิมของเราที่คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 30 ล้านตันอยู่มาก และที่สำคัญคือจากการที่ BANPU เป็นผู้ผลิตแบบ coal-cum-power operator ปัจจัยใดๆ ที่จะส่งผลกระทบให้กำไรปรับตัวลดลงนั้นจะได้รับการแบ่งเบาจากกำไรที่แน่นอนของธุรกิจไฟฟ้า ในทางเทคนิค BANPU มีการทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง จาก Momentum ของหุ้นตัวนี้ เราแนะนำให้ ?ซื้อเก็งกำไร? ให้แนวต้านที่ 370 บาท

RRC จากเมื่อวันศุกร์ที่แล้วเราแนะนำให้ซื้อ ATC วันนี้เราขอแนะนำ ?ซื้อ? RRC เนื่องจากเราเห็น Upside ที่จะเกิดขึ้นจากการควบกิจการกันและจะมีการปรับเพิ่มประมาณการกำไรในอนาคตหลังการควบรวม โดยการควบรวมกันน่าจะเป็นในช่วงเดือนมกราคมปีหน้า เราคาดว่าประโยชน์จากการควบรวมกิจการจะส่งผลให้ EBITDA เพิ่มขึ้นประมาณ 3,100 ล้านบาทในปี 2552 และปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ 5,300 ล้านบาทในปี 2554หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตของ EBITDA เฉลี่ยที่ 9% สำหรับปี 2552-2554 ดังนั้น มูลค่าเพิ่มของบริษัทใหม่จะอยู่ที่ประมาณ 6 บาทต่อหุ้น ในทางเทคนิคสำหรับ RRC กำลังขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 26 บาท เราแนะนำให้หาจังหวะรับที่บริเวณ 24.50 บาท หรือ Follow Buy ถ้าสามารถยืนเหนือ 26 บาทได้ ให้แนวต้านที่ 28.50 บาท

บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง สาขาเชียงใหม่ ของเรียนเชิญนักลงทุนเข้ารับการอบรมการใช้เทคนิควิเคราะห์หุ้น โดยคุณเผดิมภพ ในวันพุธที่ 3 ตุลาคม 2550 เวลา 12.30-14.30 น. สนใจสำรองที่นั่งได้ที่ โทร 053-876-113 ฟรีตลอดงานครับ