May 5, 2024   11:29:36 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > จำไว้เพื่อนๆ .....เล่นหุ้น บล.ต้องใช้วิชาฤทธิ์มีดสั้น
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 25/09/2007 @ 23:16:35
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ชาวหุ้นริเล่นหุ้นหลักทรัพย์ ต้องหมั่นเพียรขยันศึกษา หลักสูตรวิชา "ฤทธิ์มีดสั้น" เหตุตลาดหุ้นไทยผีเข้าผีออก นักลงทุนพร้อมที่จะลุยเก็งกำไรอย่างบ้าคลั่ง และในทางกลับกัน พร้อมขายทิ้งอย่างไร้เยื่อใยแม้ขาดทุนก็ยอม เพราะยุทธวิธีเชือดเบ็ดเสร็จในวันเดียวได้ผลที่สุดสำหรับการลงทุนในยุคนี้ ฟากเซียนหุ้นจับยามสามตา หลักทรัพย์ตัวใหญ่ KEST-KGI-ZMICO-CNS ยกเว้นวันนี้ PHATRA เคว้ง! หลังบอร์ด ASL ขายไลเซ่นส์ เอเพกซ์ ให้ เมอร์ลิน ลินช์ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ผู้บริหาร PHATRA หอบหุ้นขายฝุ่นตลบ ฟันกำไรเนื้อๆ เข้ากระเป๋า

* ชอบลุยหุ้นหลักทรัพย์ต้องขยัน
นักลงทุนไทยในตลาดหุ้นยามนี้ หากสนใจลงทุนในหุ้นหลักทรัพย์ คงต้องขยันหาข้อมูลให้มากหน่อย เพราะหุ้นหลักทรัพย์มักมีข่าวใหม่ๆ เข้ามากระทบตลอดเวลา ทั้งที่ดีและไม่ดี แต่ที่สำคัญ คือ ทุกข่าวมักมีผลต่อราคาหุ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง ขณะที่นักลงทุนเองมักจะตัดสินใจเก็งกำไรตามราคาที่พุ่งขึ้นอย่างฉับพลัน และพร้อมจะเทขายตาม หากเห็นแรงขายทยอยเข้ามา รวมทั้งตัดใจขายขาดทุนโดยไม่ยากนัก โดยยึดหลัก "ฤทธิ์มีดสั้น" เข้าเร็วออกเร็วเพื่อลดความเสี่ยง เพราะตลาดหุ้นไทยยังไม่ได้ปรับขึ้นอย่างมั่นคงในระยะนี้

ปัจจุบันมีกระแสการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่า นักลงทุนรายใหญ่กำลังสนใจลงทุนในหุ้นหลักทรัพย์เป็นพิเศษ ซึ่งข่าวนี้แพร่สะพัดมาตั้งแต่ปลายสัปดาห์ก่อน และหากดูจากมูลค่าการซื้อขายที่ขยับเหนือ 2 หมื่นล้านบาทแล้ว พบว่าเป็นเรื่องที่ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมายแต่อย่างใด และหุ้นหลักทรัพย์เองมักจะขยับในช่วงก่อนการเลือกตั้ง เพื่อสอดรับกับการซื้อขายหุ้นที่ว่ากันว่า เป็นช่องทางหาเงินเพื่อนำไปใช้ในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 23 ธันวาคม 2550

* ได้ข่าวดีหนุนทั้ง ครม.อนุมัติทำธุรกิจหลากหลาย-ASL ขาย บล.เอเพกซ์
วานนี้ (25 ก.ย.) หุ้นหลักทรัพย์ยังมีสตรอรี่ใหม่เข้ามาสนับสนุนการลงทุนในระยะนี้ ทั้งในช่วงบ่ายที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติให้ออกกฎกระทรวงว่าด้วยการอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ ออกตามความในพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 รวมทั้งสมควรกำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์โดยทั่วไปสามารถจัดหรือปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรให้สอดคล้องกับความต้องการในทางธุรกิจของตนเองได้โดยสะดวกและมีค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด
ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ยังมีการอ้างแหล่งข่าวจาก บล.แอ๊ดคินซัน จำกัด (มหาชน) หรือ ASL ระบุว่า คณะกรรมการ (บอร์ด) ได้มีมติเห็นชอบขาย บล.เอเพกซ์ ให้ เมอร์ริล ลินช์ ในราคากว่า 100 ล้านบาท โดยจะแจ้งตลาดหลักทรัพย์ในเย็นวันที่ 25 หรือ 26 ก.ย.นี้ และตัวเงินดังกล่าวจะบันทึกเข้ามาในงบการเงินไตรมาส 4/50

* แรงซื้อ ASL ทะลัก ถล่มขาย PHATRA อ่วม
ส่งผลให้ราคาหุ้น ASL ปรับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่เข้ามาแบบถล่มทลาย และที่สุดได้ปิดที่ระดับ 1.04 บาท เพิ่มขึ้น 0.07 บาท หรือ 7.22% ปริมาณการซื้อขาย 244,557,300 หุ้น สูงสุดอันดับ 1 ของตลาด มูลค่าการซื้อขาย 249.76 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน ราคาหุ้น บล.ภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ PHATRA ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ บล.เมอร์ริล ลินช์ ได้ปรับลดลงสวนทางกันอย่างเห็นได้ชัด และปิดที่ระดับ 41.50 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 3.49% มูลค่าการซื้อขาย 69.32 ล้านบาท ซึ่งนักลงทุนคงวิตกกังวลว่าหาก เมอร์ลิน ลินช์ ได้ไลเซ่นส์ บล.เอเพกซ์ แล้ว คงจะยุติความสัมพันธ์กับ PHATRA แล้วหันมาทำธุรกิจของตัวเอง ภายใต้ใบอนุญาตของ บล.เอเพกซ์ นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้มีการตั้งข้อสังเกตุว่าผู้บริหาร PHATRA รับรู้ข่าวก่อนแล้วหรือไม่ เพราะดูจากการขายหุ้น PHATRA จะพบว่ามีออกมาตั้งแต่ต้นปี 2550 แล้ว

* บิ๊ก PHATRA ยันพันธมิตรส่งออเดอร์ตามปกติ
นายสุวิทย์ มาไพศาลสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ PHATRA เปิดเผยกับ eFinanceThai.com ว่า กรณีดังกล่าว เป็นเพราะเมอร์ริล ลินช์ ต้องการเข้ามารุกธุรกิจ Fix Income อย่างเช่น ตราสารหนี้ หรือหุ้นกู้ รวมถึง อัตราแลกเปลี่ยน ซึ่ง PHATRA ก็มีไลเซ่นส์ประกอบธุรกิจดังกล่าวแต่ไม่ได้ทำ
อย่างไรก็ดี ยืนยันว่า สัญญาระหว่าง PHATRA และ เมอร์ริล ลินช์ ยังเป็นไปตามปกติ เมอร์ริล ลินช์ ยังส่งออเดอร์การซื้อขายหุ้นให้ PHATRA ตามปกติ รวมถึงการสนับสนุนทางด้านรีเสิร์ช วาณิชธนกิจ และข้อมูลอื่นๆ
"เมอร์ริล ลินช์ คงต้องการเข้ามาทำธุรกิจ Fix Income ธุรกิจเดิมที่ทำกับ PHATRA ยังทำตามปกติ และไม่น่าแปลก เพราะมีหลักทรัพย์หลายแห่งที่ได้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ แต่ไม่ประกอบธุรกิจ เช่น บล.บาร์เคลย์ฯ" นายสุวิทย์ กล่าว

* วงการชี้โบรกฯ ใหญ่ได้ประโยชน์ร่างกฏกระทรวงฯ ใหม่
นายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.แอ๊ดคิดซัน เปิดเผยว่า กรณีมติ ครม. วันนี้ จะส่งผลดีต่อกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ทั้งหมด เนื่องจากเป็นการกระจายประเภทธุรกิจไม่ให้กระจุกตัวอยู่เฉพาะธุรกิจหลักทรัพย์มากเกินไป และโบรกเกอร์จะได้ซื้อใบอนุญาตที่ราคาถูกลง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ต้องซื้อราคาเหมารวม
แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทหลักทรัพย์รายใหญ่จะยังคงได้รับผลประโยชน์มากกว่ารายเล็ก เนื่องจากจะมีวิธีการทำธุรกิจที่ครอบคลุมและรองรับความต้องการของนักลงทุนได้มากกว่าเดิม ทั้งนี้ ยังเร็วไปที่จะสรุปว่าบริษัทหลักทรัพย์แห่งใดบ้างที่จะได้รับผลประโยชน์มากที่สุด
"จากข่าวนี้ บล.ทั้งรายใหญ่ รายเล็ก ต่างจะได้ผลประโยชน์ร่วมกันทั้งนั้น ถึงแม้ บล.รายใหญ่จะทำธุรกิจรองรับความต้องการได้มากกว่า แต่ใช่ว่ารายเล็กจะเสียเปรียบแต่เสมอไป เพราะใครเก่งด้านใดก็ทำด้านนั้นได้ จึงเร็วไปที่จะบอกว่าใครจะได้ประโยชน์มากสุด" นายรณกฤต กล่าว

:lol:

 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#1 วันที่: 25/09/2007 @ 23:17:59 :
* แนะหุ้นเด่น KEST-KGI-ZMICO-CNS-ASL
เจ้าหน้าที่ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซิกโก้ เปิดเผยว่า มติ ครม. ล่าสุด ประเมินว่าไม่ได้แตกต่างจากการดำเนินธุรกิจในลักษณะเดิมของผู้ประกอบการค้าหลักทรัพย์มากนัก จึงเชื่อว่าไม่มีนัยสำคัญต่อหุ้นในกลุ่มหลักทรัพย์ รวมทั้งส่งผลให้การดำเนินธุรกิจสะดวกและครบวงจรมากขึ้นด้วย
"จากที่ได้ดูข้อมูลแล้ว พบว่ากฎกระทรวงที่ออกมาไม่ได้แตกต่างจากของเดิมที่มีอยู่เลย เพราะเดิมโบรกเกอร์ก็ทำธุรกิจได้หลายหลากและครบวงจรอยู่แล้ว ผมไม่แน่ใจว่าเขาออกมาทำไม่ไม่มีประโยชน์ เพราะน่ามีนัยสำคัญราคาหุ้นในกลุ่มหลักทรัพย์คงปรับเพิ่มขึ้นรับข่าวดีแล้ว" แหล่งข่าวรายเดิม กล่าว
สำหรับผู้ประกอบการด้านหลักทรัพย์ที่ทำธุรกรรมครบวงจรในปัจจุบันประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KGI, บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEST, บริษัทหลักทรัพย์ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) หรือ CNS และบริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ ZMICO ดังนั้นจึงเป็นหลักทรัพย์ที่มีความโดดเด่นมากที่สุดในกลุ่มนี้หลังจากที่ภาครัฐสนับสนุนให้ดำเนินธุรกิจที่ครบวงจรมากขึ้น เพราะมีศักยภาพในการรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้
อย่างไรก็ตาม หลักทรัพย์ของ บริษัท หลักทรัพย์แอ๊ดคินซัน จำกัด (มหาชน) หรือ ASL ยังสามารถเข้าไปเล่นเก็งกำไรได้ เนื่องจากสัญญาณทางเทคนิคมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นได้ต่อเนื่องต่อจากวันที่ 25 ก.ย.50 โดยให้แนวรับวันนี้ไว้ที่ 0.99 บาท แนวต้านไว้ที่ 1.06 บาท ส่วนแนวต้านในสัปดาห์นี้ให้ไว้ที่ 1.17 บาท และ 1.19 บาทตามลำดับ
นักวิเคราะห์รายหนึ่ง กล่าวว่า จากสัญญาทางเทคนิคหุ้น ASL เริ่มเข้าสู่ช่วงขาขึ้น นักลงทุนสามารถเข้าเก็งกำไรได้ เพราะได้ข่าวการขาย บล.เอเพ็กซ์ เข้ามาช่วยหนุนอีกเรื่องหนึ่ง โดยประเมินแนวรับที่ 1.03 - 1.00 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1.10-1.15 บาท และมีโอกาสที่ราคาหุ้นจะขึ้นไปทำ New high ที่ระดับ 1.20 บาท

* ร่างกฎกระทรวงประกอบธุรกิจหลักทรัพย์
สำหรับร่างกฎกระทรวงว่าด้วย การอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ พ.ศ.... ซึ่งเสนอโดยกระทรวงการคลัง เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ โดยเพิ่มช่องทางให้ผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์สามารถประกอบธุรกิจได้หลากหลาย รวมทั้งมีความเป็นอิสระในการจัดโครงสร้างการประกอบธุรกิจยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ความเป็นมาและเหตุผลในการเสนอร่างกฎกระทรวง เนื่องจากกฎกระทรวงที่เกี่ยวกับการอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทต่างๆ ที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันนั้น ได้กำหนดสถานะของผู้มีสิทธิได้รับใบอนุญาตไว้อย่างจำกัด ซึ่งมีผลเป็นการจำกัดจำนวนผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ในบางประเภท และทำให้ผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ไม่สามารถจัดโครงสร้างองค์กรให้สอดคล้องกับความต้องการในทางธุรกิจของตนเองได้
ดังนั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการธุรกิจหลักทรัพย์มีความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น โดยมีช่องทางการหารายได้หลากหลายยิ่งขึ้น และมีความเป็นอิสระในการจัดโครงสร้างการประกอบธุรกิจ ซึ่งกำหนดให้ผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมตามเกณฑ์ที่กำหนด สามารถขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ได้ โดยไม่จำกัดจำนวนผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ ภายใต้การอนุญาตในรูปแบบใหม่ ที่ครอบคลุมการประกอบธุรกิจหลายประเภทเพื่อรองรับการทำธุรกิจอย่างครบวงจร
แต่ยังคงธุรกิจหลักทรัพย์บางประเภทที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักทรัพย์ให้สามารถขอรับใบอนุญาตแยกต่างหากได้ จึงเห็นควรออกกฎกระทรวงว่าด้วยการอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ พ.ศ..... ออกตามความในพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 รวมทั้งสมควรกำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์โดยทั่วไปสามารถจัดหรือปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรให้สอดคล้องกับความต้องการในทางธุรกิจของตนเองได้โดยสะดวกและมีค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด
สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง

1. ยกเลิกกฎกระทรวงการให้ใบอนุญาตที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
2. กำหนดรูปแบบการให้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ ดังนี้
2.1 ใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ แบบ ก (Full Services) สำหรับประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ได้ทุกประเภท ได้แก่ 1) การเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ 2) การค้าหลักทรัพย์ 3) การจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ 4) การเป็นที่ปรึกษาการลงทุน 5) การจัดการกองทุนรวม 6) การจัดกองทุนส่วนบุคคล 7)
กิจการการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ และ 8) การจัดการเงินร่วมลงทุน
2.2 ใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ แบบ ข (Boutique Debt Services) สำหรับประกอบธุรกิจตราสารแห่งหนี้ ได้แก่ 1) การเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์อันเป็นตราสารแห่งหนี้ 2) การค้าหลักทรัพย์อันเป็นตราสารแห่งหนี้ 3) จัดจำหน่ายหลักทรัพย์อันเป็นตราสารแห่งหนี้ 4) การเป็นที่ปรึกษาการลงทุน และ 5) กิจการการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์
2.3 ใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์แบบ ค (Boutique Asset Management Services) สำหรับประกอบธุรกิจจัดการลงทุน ได้แก่ 1) การจัดการกองทุนรวม 2) การจัดการกองทุนส่วนบุคคล 3) การเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่เป็นหน่วยลงทุน 4) การค้าหลักทรัพย์ที่เป็นหน่วยลงทุน 5) การจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ที่เป็นหน่วยลงทุน 6) การเป็นที่ปรึกษาการลงทุน และ 7) การจัดการเงินร่วมลงทุน
2.4 ใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์แบบ ง (Boutique Limited BDU Services) สำหรับประกอบธุรกิจการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่เป็นหน่วยลงทุน การค้าหลักทรัพย์ที่เป็นหน่วยลงทุน และจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ที่เป็นหน่วยลงทุน
2.5 การให้ใบอนุญาตแยกสำหรับธุรกิจหลักทรัพย์บางประเภทที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก ได้แก่ 1) การเป็นที่ปรึกษาการลงทุน 2) กิจการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ และ 3) การจัดการเงินร่วมลงทุน
3. กำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการ ในการขอรับใบอนุญาตตามร่างกฎกระทรวงฯ จะกำหนดเกณฑ์ตามแนวปฏิบัติที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งมีดังนี้
3.1 กำหนดผู้มีสิทธิขอใบอนุญาตของแต่ละรูปแบบของข้อ 2. ได้แก่ บริษัท หลักทรัพย์ ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินอื่นที่กำหนด บริษัทที่จัดตั้งขึ้นใหม่เพื่อขอใบอนุญาตสำหรับบริษัทประกันชีวิตให้ทำได้เฉพาะรูปแบบ ค (ธุรกิจการจัดการลงทุน) รูปแบบ ง (ธุรกิจหน่วยลงทุน) และการเป็นที่ปรึกษาการลงทุน ทั้งนี้ ผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์รายเดิมสามารถมาขอ upgrade เป็น package แบบใดก็ได้ และขอได้ทันทีเมื่อกฎกระทรวงมีผลใช้บังคับ สำหรับรายใหม่ให้เริ่มขอได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2555 เป็นต้นไป
3.2 กำหนดเกณฑ์คุณสมบัติความพร้อมของผู้ที่จะได้รับอนุญาต ประกอบด้วย ทุนจดทะเบียนตามที่กำหนด ฐานะทางการเงินที่ดี การควบคุมและการปฏิบัติงานที่ดี การดำรงเงินกองทุนและเงินสำรองได้ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด กรรมการ ผู้บริหาร และผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ไม่มีลักษณะต้องห้าม ตามที่กำหนด
3.3 กำหนดเกณฑ์ขั้นตอนการขอรับใบอนุญาต การขอความเห็นชอบการออก ใบอนุญาต และการให้ความเห็นชอบการประกอบธุรกิจ ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ ก.ล.ต. พิจารณาให้ความเห็นชอบการจัดตั้งบริษัทขึ้นใหม่ เพื่อขอรับใบอนุญาต และพิจารณาออกใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนุญาต
4. กำหนดเกณฑ์การขอคืนใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์เดิม เพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ใหม่ เป็นกรณีที่สถาบันการเงินต้องการ upgrade โดยจะขอรับใบอนุญาตเป็น package ตามแบบ ก (ทำทุกประเภท) หรือแบบ ข (ด้านตราสารแห่งหนี้) หรือแบบ ค (ด้านการจัดการลงทุน) ซึ่งการขอรับใบอนุญาตตามรูปแบบดังกล่าวจะมีใบอนุญาตบางประเภทที่มีอยู่ปัจจุบันซ้ำกันอยู่แล้ว ให้คืนใบอนุญาตที่มีอยู่เดิม
5. กำหนดเกณฑ์การคิดค่าธรรมเนียมคำขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ และค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ สำหรับรายใหม่ มีดังนี้
5.1 คิดค่าธรรมเนียมคำขอรับใบอนุญาต คำขอละ 30,000 บาท
5.2 ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์
5.2.1 ใบอนุญาตแบบ ก ใบละ 20 ล้านบาท
5.2.2 ใบอนุญาตแบบ ข ใบละ 5 ล้านบาท
5.2.3 ใบอนุญาตแบบ ค ใบละ 5 ล้านบาท
5.2.4 ใบอนุญาตแบบ ง ใบละ 30,000 บาท
5.2.5 ใบอนุญาตเดี่ยวประเภทต่าง ๆ ใบละ 30,000 บาท
สำหรับกรณีที่มาขอ upgrade ใบอนุญาตใน package แบบต่างๆ ข้างต้น แต่มีใบอนุญาตบางประเภทอยู่แล้ว ให้จ่ายส่วนต่างจนครบในอัตราที่กำหนดแต่ละแบบ

****************
ข้อมูลแบบรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์ของผู้บริหาร (แบบ 59-2)

ชื่อผู้บริหาร ความสัมพันธ์ * ประเภทหลักทรัพย์ วันที่รับเอกสาร วันที่ได้มา/จำหน่าย จำนวน ราคา วิธีการได้มา/จำหน่าย
อยุทธ์ ชาญเศรษฐิกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 08/01/2550 05/01/2550 145,000 27.02 ขาย
พัชนี ลิ่มอภิชาต ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 12/02/2550 08/02/2550 100,000 32.25 ขาย
พัชนี ลิ่มอภิชาต ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 20/02/2550 19/02/2550 50,000 31.75 ขาย
พัชนี ลิ่มอภิชาต ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 28/02/2550 27/02/2550 100,000 31.05 ขาย
พัชนี ลิ่มอภิชาต ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 23/05/2550 22/05/2550 420,000 38.77 ขาย
พัชนี ลิ่มอภิชาต ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 24/05/2550 23/05/2550 700,000 38.54 ขาย

ที่มา : สำนักงาน ก.ล.ต.


 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com