* แนะหุ้นเด่น KEST-KGI-ZMICO-CNS-ASL
เจ้าหน้าที่ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซิกโก้ เปิดเผยว่า มติ ครม. ล่าสุด ประเมินว่าไม่ได้แตกต่างจากการดำเนินธุรกิจในลักษณะเดิมของผู้ประกอบการค้าหลักทรัพย์มากนัก จึงเชื่อว่าไม่มีนัยสำคัญต่อหุ้นในกลุ่มหลักทรัพย์ รวมทั้งส่งผลให้การดำเนินธุรกิจสะดวกและครบวงจรมากขึ้นด้วย
"จากที่ได้ดูข้อมูลแล้ว พบว่ากฎกระทรวงที่ออกมาไม่ได้แตกต่างจากของเดิมที่มีอยู่เลย เพราะเดิมโบรกเกอร์ก็ทำธุรกิจได้หลายหลากและครบวงจรอยู่แล้ว ผมไม่แน่ใจว่าเขาออกมาทำไม่ไม่มีประโยชน์ เพราะน่ามีนัยสำคัญราคาหุ้นในกลุ่มหลักทรัพย์คงปรับเพิ่มขึ้นรับข่าวดีแล้ว" แหล่งข่าวรายเดิม กล่าว
สำหรับผู้ประกอบการด้านหลักทรัพย์ที่ทำธุรกรรมครบวงจรในปัจจุบันประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KGI, บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEST, บริษัทหลักทรัพย์ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) หรือ CNS และบริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ ZMICO ดังนั้นจึงเป็นหลักทรัพย์ที่มีความโดดเด่นมากที่สุดในกลุ่มนี้หลังจากที่ภาครัฐสนับสนุนให้ดำเนินธุรกิจที่ครบวงจรมากขึ้น เพราะมีศักยภาพในการรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้
อย่างไรก็ตาม หลักทรัพย์ของ บริษัท หลักทรัพย์แอ๊ดคินซัน จำกัด (มหาชน) หรือ ASL ยังสามารถเข้าไปเล่นเก็งกำไรได้ เนื่องจากสัญญาณทางเทคนิคมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นได้ต่อเนื่องต่อจากวันที่ 25 ก.ย.50 โดยให้แนวรับวันนี้ไว้ที่ 0.99 บาท แนวต้านไว้ที่ 1.06 บาท ส่วนแนวต้านในสัปดาห์นี้ให้ไว้ที่ 1.17 บาท และ 1.19 บาทตามลำดับ
นักวิเคราะห์รายหนึ่ง กล่าวว่า จากสัญญาทางเทคนิคหุ้น ASL เริ่มเข้าสู่ช่วงขาขึ้น นักลงทุนสามารถเข้าเก็งกำไรได้ เพราะได้ข่าวการขาย บล.เอเพ็กซ์ เข้ามาช่วยหนุนอีกเรื่องหนึ่ง โดยประเมินแนวรับที่ 1.03 - 1.00 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1.10-1.15 บาท และมีโอกาสที่ราคาหุ้นจะขึ้นไปทำ New high ที่ระดับ 1.20 บาท
* ร่างกฎกระทรวงประกอบธุรกิจหลักทรัพย์
สำหรับร่างกฎกระทรวงว่าด้วย การอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ พ.ศ.... ซึ่งเสนอโดยกระทรวงการคลัง เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ โดยเพิ่มช่องทางให้ผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์สามารถประกอบธุรกิจได้หลากหลาย รวมทั้งมีความเป็นอิสระในการจัดโครงสร้างการประกอบธุรกิจยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ความเป็นมาและเหตุผลในการเสนอร่างกฎกระทรวง เนื่องจากกฎกระทรวงที่เกี่ยวกับการอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทต่างๆ ที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันนั้น ได้กำหนดสถานะของผู้มีสิทธิได้รับใบอนุญาตไว้อย่างจำกัด ซึ่งมีผลเป็นการจำกัดจำนวนผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ในบางประเภท และทำให้ผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ไม่สามารถจัดโครงสร้างองค์กรให้สอดคล้องกับความต้องการในทางธุรกิจของตนเองได้
ดังนั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการธุรกิจหลักทรัพย์มีความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น โดยมีช่องทางการหารายได้หลากหลายยิ่งขึ้น และมีความเป็นอิสระในการจัดโครงสร้างการประกอบธุรกิจ ซึ่งกำหนดให้ผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมตามเกณฑ์ที่กำหนด สามารถขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ได้ โดยไม่จำกัดจำนวนผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ ภายใต้การอนุญาตในรูปแบบใหม่ ที่ครอบคลุมการประกอบธุรกิจหลายประเภทเพื่อรองรับการทำธุรกิจอย่างครบวงจร
แต่ยังคงธุรกิจหลักทรัพย์บางประเภทที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักทรัพย์ให้สามารถขอรับใบอนุญาตแยกต่างหากได้ จึงเห็นควรออกกฎกระทรวงว่าด้วยการอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ พ.ศ..... ออกตามความในพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 รวมทั้งสมควรกำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์โดยทั่วไปสามารถจัดหรือปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรให้สอดคล้องกับความต้องการในทางธุรกิจของตนเองได้โดยสะดวกและมีค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด
สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง
1. ยกเลิกกฎกระทรวงการให้ใบอนุญาตที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
2. กำหนดรูปแบบการให้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ ดังนี้
2.1 ใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ แบบ ก (Full Services) สำหรับประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ได้ทุกประเภท ได้แก่ 1) การเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ 2) การค้าหลักทรัพย์ 3) การจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ 4) การเป็นที่ปรึกษาการลงทุน 5) การจัดการกองทุนรวม 6) การจัดกองทุนส่วนบุคคล 7)
กิจการการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ และ 8) การจัดการเงินร่วมลงทุน
2.2 ใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ แบบ ข (Boutique Debt Services) สำหรับประกอบธุรกิจตราสารแห่งหนี้ ได้แก่ 1) การเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์อันเป็นตราสารแห่งหนี้ 2) การค้าหลักทรัพย์อันเป็นตราสารแห่งหนี้ 3) จัดจำหน่ายหลักทรัพย์อันเป็นตราสารแห่งหนี้ 4) การเป็นที่ปรึกษาการลงทุน และ 5) กิจการการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์
2.3 ใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์แบบ ค (Boutique Asset Management Services) สำหรับประกอบธุรกิจจัดการลงทุน ได้แก่ 1) การจัดการกองทุนรวม 2) การจัดการกองทุนส่วนบุคคล 3) การเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่เป็นหน่วยลงทุน 4) การค้าหลักทรัพย์ที่เป็นหน่วยลงทุน 5) การจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ที่เป็นหน่วยลงทุน 6) การเป็นที่ปรึกษาการลงทุน และ 7) การจัดการเงินร่วมลงทุน
2.4 ใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์แบบ ง (Boutique Limited BDU Services) สำหรับประกอบธุรกิจการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่เป็นหน่วยลงทุน การค้าหลักทรัพย์ที่เป็นหน่วยลงทุน และจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ที่เป็นหน่วยลงทุน
2.5 การให้ใบอนุญาตแยกสำหรับธุรกิจหลักทรัพย์บางประเภทที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก ได้แก่ 1) การเป็นที่ปรึกษาการลงทุน 2) กิจการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ และ 3) การจัดการเงินร่วมลงทุน
3. กำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการ ในการขอรับใบอนุญาตตามร่างกฎกระทรวงฯ จะกำหนดเกณฑ์ตามแนวปฏิบัติที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งมีดังนี้
3.1 กำหนดผู้มีสิทธิขอใบอนุญาตของแต่ละรูปแบบของข้อ 2. ได้แก่ บริษัท หลักทรัพย์ ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินอื่นที่กำหนด บริษัทที่จัดตั้งขึ้นใหม่เพื่อขอใบอนุญาตสำหรับบริษัทประกันชีวิตให้ทำได้เฉพาะรูปแบบ ค (ธุรกิจการจัดการลงทุน) รูปแบบ ง (ธุรกิจหน่วยลงทุน) และการเป็นที่ปรึกษาการลงทุน ทั้งนี้ ผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์รายเดิมสามารถมาขอ upgrade เป็น package แบบใดก็ได้ และขอได้ทันทีเมื่อกฎกระทรวงมีผลใช้บังคับ สำหรับรายใหม่ให้เริ่มขอได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2555 เป็นต้นไป
3.2 กำหนดเกณฑ์คุณสมบัติความพร้อมของผู้ที่จะได้รับอนุญาต ประกอบด้วย ทุนจดทะเบียนตามที่กำหนด ฐานะทางการเงินที่ดี การควบคุมและการปฏิบัติงานที่ดี การดำรงเงินกองทุนและเงินสำรองได้ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด กรรมการ ผู้บริหาร และผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ไม่มีลักษณะต้องห้าม ตามที่กำหนด
3.3 กำหนดเกณฑ์ขั้นตอนการขอรับใบอนุญาต การขอความเห็นชอบการออก ใบอนุญาต และการให้ความเห็นชอบการประกอบธุรกิจ ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ ก.ล.ต. พิจารณาให้ความเห็นชอบการจัดตั้งบริษัทขึ้นใหม่ เพื่อขอรับใบอนุญาต และพิจารณาออกใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนุญาต
4. กำหนดเกณฑ์การขอคืนใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์เดิม เพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ใหม่ เป็นกรณีที่สถาบันการเงินต้องการ upgrade โดยจะขอรับใบอนุญาตเป็น package ตามแบบ ก (ทำทุกประเภท) หรือแบบ ข (ด้านตราสารแห่งหนี้) หรือแบบ ค (ด้านการจัดการลงทุน) ซึ่งการขอรับใบอนุญาตตามรูปแบบดังกล่าวจะมีใบอนุญาตบางประเภทที่มีอยู่ปัจจุบันซ้ำกันอยู่แล้ว ให้คืนใบอนุญาตที่มีอยู่เดิม
5. กำหนดเกณฑ์การคิดค่าธรรมเนียมคำขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ และค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ สำหรับรายใหม่ มีดังนี้
5.1 คิดค่าธรรมเนียมคำขอรับใบอนุญาต คำขอละ 30,000 บาท
5.2 ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์
5.2.1 ใบอนุญาตแบบ ก ใบละ 20 ล้านบาท
5.2.2 ใบอนุญาตแบบ ข ใบละ 5 ล้านบาท
5.2.3 ใบอนุญาตแบบ ค ใบละ 5 ล้านบาท
5.2.4 ใบอนุญาตแบบ ง ใบละ 30,000 บาท
5.2.5 ใบอนุญาตเดี่ยวประเภทต่าง ๆ ใบละ 30,000 บาท
สำหรับกรณีที่มาขอ upgrade ใบอนุญาตใน package แบบต่างๆ ข้างต้น แต่มีใบอนุญาตบางประเภทอยู่แล้ว ให้จ่ายส่วนต่างจนครบในอัตราที่กำหนดแต่ละแบบ
****************
ข้อมูลแบบรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์ของผู้บริหาร (แบบ 59-2)
ชื่อผู้บริหาร ความสัมพันธ์ * ประเภทหลักทรัพย์ วันที่รับเอกสาร วันที่ได้มา/จำหน่าย จำนวน ราคา วิธีการได้มา/จำหน่าย
อยุทธ์ ชาญเศรษฐิกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 08/01/2550 05/01/2550 145,000 27.02 ขาย
พัชนี ลิ่มอภิชาต ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 12/02/2550 08/02/2550 100,000 32.25 ขาย
พัชนี ลิ่มอภิชาต ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 20/02/2550 19/02/2550 50,000 31.75 ขาย
พัชนี ลิ่มอภิชาต ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 28/02/2550 27/02/2550 100,000 31.05 ขาย
พัชนี ลิ่มอภิชาต ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 23/05/2550 22/05/2550 420,000 38.77 ขาย
พัชนี ลิ่มอภิชาต ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 24/05/2550 23/05/2550 700,000 38.54 ขาย
ที่มา : สำนักงาน ก.ล.ต.