ที่มา : ทันหุ้น

ตลาดหุ้นไทยยังคึกหลังปลายสัปดาห์ก่อนโชว์ฟอร์มสดรับเฟดหั่นดอกเบี้ย หนุนราคาน้ำมันพุ่งทำนิวไฮ ส่งไม้ต่อสัปดาห์นี้ยังวิ่งฉิว จับประเด็นหุ้นในกลุ่มแนวโน้มกำไรโดโตโดดเด่น เล่นดักผลงานไตรมาส 3/2550 หลังเข้าสู่สัปดาห์สุดท้ายของไตรมาสบวกแรงหนุนกองทุนทำราคาเพื่อปิดงบบัญชี (วินโดรว์ เดรสซิ่ง) โบรกเกอร์-กองทุนประสานเสียงจับตาหุ้นกลุ่มแบงก์ พลังงานครองแชมป์โชว์กำไรอื้อ

นางสาวมยุรี โชวิกรานต์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ นครหลวงไทย จำกัด กล่าวว่า ในสัปดาห์นี้การคาดการณ์ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2550 ของบริษัทจดทะเบียนคาดว่าจะเป็นปัจจัยหนุนการลงทุน ขณะเดียวกันเป็นสัปดาห์สุดท้ายของไตรมาส 3/2550 มองว่าตลาดหุ้นไทยน่าจะมีแรงทำราคาเพื่อปิดงบบัญชี (Window Dressing)

?ประเด็นในเรื่องผลประกอบการไตรมาส 3/2550 ของหุ้นแต่ละกลุ่มน่าจะมีแรงเก็งกำไรเข้ามา พร้อมกับการทำ Window Dressing แต่อาจจะไม่แรงเท่าเรื่องผลประกอบการเพราะเมื่อเทียบดัชนีเมื่อสิ้นไตรมาส 2/2550 อยู่ที่ประมาณ 777 จุด กับดัชนีตอนนี้ที่ใกล้จะปิดงบไตรมาส 3 อยู่ที่ประมาณ 840 จุดทำให้บวกอยู่ประมาณ 8% ทำให้ความจูงใจเรื่องนี้อาจจะน้อยกว่า?นางสาวมยุรีกล่าว

ดังนั้นสำหรับกลยุทธ์การลงทุนแนะนำหุ้นที่คาดว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2550 จะออกมาโดดเด่นและเป็นหุ้นที่ยังมีอัพไซต์ให้เล่นได้ นำโดยหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิจะเติบโตโดดเด่นจากการตั้งสำรองหนี้เสียที่มีแนวโน้มลดลง ประกอบกับสัญญาณการฟื้นตัวการบริโภคภายในประเทศจะเริ่มชัดเจนขึ้นในช่วงปลายปี โดยแนะนำหุ้น KBANK ให้ราคาเหมาะสมที่ 96.20 บาท และหุ้น BAY ให้ราคาเหมาะสมที่ 31.22 บาท

เช่นเดียวกับหุ้นในกลุ่มพลังงานที่ยังได้รับปัจจัยหนุนจากทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ยังคงมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มโรงกลั่นที่ราคาหุ้นยังมีอัพไซต์จากราคาเหมาะสม เช่น TOP ให้ราคาเหมาะสมที่ 111 บาท RRC ให้ราคาเหมาะสม 26 บาท ส่วน BANPUให้ราคาเหมาะสมที่ 348 บาท และPTT ให้ราคาเหมาะสมที่ 340 บาท

?กลุ่มพลังงานผลงานไตรมาส 3 ยังโดดเด่น แต่หุ้นน้ำมันส่วนใหญ่ราคาหุ้นก็ขยับเข้ามาใกล้เป้าหมายหมดแล้ว แต่ก็ยังพอมีอัพไซต์ให้เล่นได้เพราะราคาน้ำมันยังอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะหุ้นโรงกลั่น อย่าง TOP และRRC จากค่าการกลั่นไตรมาส 3/2550 นี้ที่ระดับ 6.6 เหรียญต่อบาร์เรลสูเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 ที่อยู่ระดับ 4 เหรียญต่อบาร์เรล?นางสาวมยุรีกล่าว

นอกจากนี้ยังมีหุ้นในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ที่เข้าสู่ฤดูกาลไฮซีซั่น โดนแนะนำ CCET ให้ราคาเหมาะสมที่ 7.52 บาท หุ้น HANA ให้ราคาเหมาะสมที่ 31 บาท และ DELTA ให้ราคาเหมาะสมที่ 24.49 บาท

กองทุนเริ่มทำวินโดรว์เดรสซิ่ง
นายวิชชุ จันทาทับ ผู้อำนวยการ ฝ่ายการลงทุนตราสารทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.)ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า การทำวินโดรว์ เดรสซิ่ง หรือการทำราคาหุ้นเพื่อปิดงบบัญชี คาดว่าจะมีการเริ่มทำได้ตั้งแต่สัปดาห์นี้ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นใหญ่ในกลุ่มหลัก

?เรื่องวินโดรว์ เดรสซิ่ง ก็คงมีผลต่อตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้เพราะเป็นสัปดาห์สุดท้ายของไตรมาส 3/2550 แต่ผลก็คงไม่เยอะมากนัก เพราะส่วนใหญ่จะทำในงวดครึ่งปีและปลายปีซึ่งจะมีการประชุมใหญ่ของบรรดากองทุนกัน ขณะที่ตลาดหุ้นไทยก็ปรับตัวขึ้นได้จากปัจจัยภายในด้วย?นายวิชชุกล่าว

นอกจากนี้การที่ระดับพีอีเรโชตลาดหุ้นไทยในระดับที่ต่ำยังคงน่าดึงดูดเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค ประกอบกับการปรับขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ยังส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่มหลักที่มีผลต่อตลาดหุ้นไทยด้วย ซึ่งยังคงป้าดัชนีสิ้นปีที่ระดับ 850 จุด

ทั้งสำหรับหุ้นในกลุ่มที่ยังคงโดดเด่นและคาดว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ถึงไตรมาส 4/2550 ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี คือกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ที่ได้รับประโยชน์จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาลงซึ่งจะกระตุ้นการใช้จ่ายให้ดีขึ้น หนุนการขยายสินเชื่อของกลุ่มให้เติบโต

?กลุ่มแบงก์ยังได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง หลังจากเฟดมีการปรับลดดอกเบี้ยครั้งล่าสุดอีก 0.50% ซึ่งคาดว่าครั้งต่อไปจะมีการปรับลดลงอีกประมาณ 0.25% ซึ่งมีโอกาสที่เดือนต.ค.นี้ทางกนง.จะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงเกินกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ทำให้คาดว่าการเติบโตของสินเชื่อจะขยายตัวต่อเนื่อง?นายวิชชุกล่าว

ขณะที่หุ้นในกลุ่มพลังงานก็ยังเป็นหุ้นที่นำตลาดและปรับขึ้นโดดเด่นจากแนวโน้มราคาน้ำมันที่ยังปรับตัวขึ้นต่อเนื่องซึ่งคาดว่าในช่วงไตรมาส 4/2550 ราคาสินค้าคอมมูลิตี้ทั้งราคาน้ำมัน ค่าการกลั่นและราคาถ่านหินยังคงมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูง

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ (24 ก.ย.2550) ปิดที่ระดับ 836.51 เพิ่มขึ้น 5.00 จุด หรือ 0.60% มูลค่าการซื้อขาย 2,3828.34 ล้านบาท


:lol: