kaisel สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 3,380 | วันที่: 24/09/2007 @ 08:44:01 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต หุ้นไทยไปต่อ แนะเล่นหุ้น 3 กลุ่มหลักอย่างพลังงาน-แบงก์-อสังหาริมทรัพย์ จับตาแนวโน้มราคาน้ำมันถ้ายังทรงสูงดันหุ้นกลุ่มพลังงานไปต่อ ส่วนแบงก์เล่นก่อนผลงบการเงินและอสังหาฯรับผลดีดอกเบี้ยรับลด แนวต้านรอบนี้ 840 จุด ดูหุ้นดาวโจนส์เป็นหลัก
นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า การปรับตัวหุ้นของขนาดใหญ่ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มพลังงาน ที่ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลกที่อยู่ในระดับสูง โดยราคาน้ำมันดิบไลท์ล่วงหน้าสัญญาส่งมอบเดือนตุลาคม ที่ตลาดนิวยอร์ก ปิดตลาดที่ราคา 83.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทำให้เชื่อว่ายังมีโอกาสปรับตัวได้ต่อในสัปดาห์นี้
สำหรับแนวโน้มดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันนี้ คาดว่าดัชนีฯมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นได้ต่อเนื่องจากช่วงสัปดาห์ก่อน ได้มีการประเมินว่าแรงซื้อจากนักลงทุนต่างประเทศยังมีเข้ามาต่อเนื่องโดยให้จับตาดูการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันในตลาดโลก ซึ่งหากราคาน้ำมันทรงตัวในระดับสูงจะส่งผลดีต่อแรงซื้อที่เข้ามาในหุ้นกลุ่มพลังงานแต่
ทั้งนี้หากราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้นทะลุ 86 ดอลลาร์/บาร์เรล อาจส่งผลทางด้านลบมากกว่าทางบวก เนื่องจากต้นทุนในการดำเนินงานในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับน้ำมันจะเพิ่มขึ้น และสะท้อนให้ผลประกอบการลดลง อย่างไรก็ตาม ประเมินแนวรับไว้ที่ 821 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 842 จุด แนะนำให้หาจังหวะเข้าซื้อในกลุ่มพลังงานได้ แต่ประเมินแนวโน้มราคาน้ำมันประกอบการตัดสินใจลงทุนด้วย
ทั้งนี้ ประเด็นค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ทำให้คาดว่าเม็ดเงินจากนักลงทุนต่างประเทศเริ่มกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ย่านเอเชียอีกครั้ง ซึ่งหมายรวมถึงตลาดหลักทรัพย์ไทย ที่ราคาหุ้นยังต่ำกว่าตลาดหลักทรัพย์ในภูมิค ซึ่งส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนวันนี้คึกคักและปริมาณการซื้อขายหนาแน่น
นอกจากนี้กรณีที่กระทรวงพาณิชย์ ประกาศตัวเลขการส่งออกเดือนสิงหาคม 2550 มีมูลค่าถึง 1.39 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 17.9% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นยอดการส่งออกที่มีมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ก็ถือเป็นปัจจัยบวกภายในประเทศ ที่ส่งผลต่อจิตวิทยาการลงทุนเช่นกัน
นายวิวัฒน์ เตชะพูลผล หัวหน้ากลยุทธ์การลงทุน บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ทิศทางดัชนีตลาดหุ้นวันนี้ คาดว่าดัชนีฯจะปรับตัวขึ้นไปต่อได้ เนื่องจากได้รับแรงกระตุ้นจากบรรยากาศการลงทุนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยตลาดมีความคึกคักมาก
อย่างไรก็ตามแนะนำให้นักลงทุนติดตามดัชนีดาวโจนส์ ประกอบการลงทุนด้วย เพราะหาก
ดัชนีดาวโจนส์ปรับลดลงแรง เชื่อว่าจะเป็นตัวแปรที่ทำให้บรรยากาศการลงทุนที่ดีเกิดสะดุดได้ อีกทั้งรอดู การปรับตัวของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกในสัปดาห์หน้าด้วย เพราะเชื่อว่าจะมีผลต่อการลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงานอย่างมีนัยสำคัญ
"หุ้นไทยน่าจะปรับตัวขึ้นไปต่อ เพราะได้รับแรงกระตุ้นที่ทำให้กลับมาคึกคักอีกครั้งแต่ก็ต้องดูดัชนีดาวโจนส์ด้วย หากปรับลง 200-300 จุด ก็จะทำให้ตลาดฯหุ้นเราสะดุดได้เหมือนกัน ส่วนราคาน้ำมันดิบก็ยังมีผลต่อแรงซื้อหุ้นพลังงานอยู่บ้างและคิดว่าราคาน้ำมันดิบยังน่าจะปรับขึ้นต่อไปได้"นายวิวัฒน์ กล่าว
กลยุทธ์การลงทุนแนะนำนักลงทุนให้เข้าซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานและธนาคาร เช่น บริษัทปตท. จำกัด (มหาชน)(PTT) , บริษัท โรงกลั่นน้ำมันระยอง จำกัด (มหาชน)(RRC),ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)(BBL) และธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)(KBANK)
โดยประเมินแนวรับดัชนีฯไว้ที่ 820-815 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 835-840 จุด
นางสาวสุภากร สุจิรัตนวิมล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคทีบี กล่าวว่าดัชนีฯสามารถบวกต่อได้ หากไม่มีปัจจัยลบมากระทบต่อดัชนี อย่างไรก็ตามต้องติดตามทิศทางการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นต่างประเทศ อาจส่งผลให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกัน ประกอบกับราคาน้ำมันที่อาจมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น อาจส่งผลให้มีแรงหนุนเข้ามาในกลุ่มพลังงาน ทำให้ดัชนีฯปรับเพิ่มขึ้นตามได้
โดยแนะนำให้ลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงาน อย่าง PTT เนื่องจากได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น กลุ่มธนาคาร BBL-KBNAK เนื่องจากแนวโน้มว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ย และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ อาทิ AP- LPN เพราะผลประกอบการมีแนวโน้มที่ดีโดยประเมินดัชนีฯแนวรับ 816-817 จุด และแนวต้านที่ 842 จุด
:lol:
|