April 27, 2024   1:59:44 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > คัดหุ้นเด็ดกลุ่มอสังหาริมทรัพย์
 

Toon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 973
วันที่: 19/09/2007 @ 09:35:23
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

โบรกคัดสรรหุ้นเด็ดกลุ่มพัฒนาที่อยู่อาศัยศักยภาพดีพีอีต่ำมูลค่างานในมือล้น นำขบวนโดย PS, QH, AP และ LPN จัดเป็นหุ้น Top Picks จากความเป็นเจ้าตลาดบ้านเดี่ยวคอนโดมิเนียมและทาวน์เฮ้าส์ แนะ ?ซื้อ? เก็บกำไรเข้าพร์อตดักทางก่อนการเลือกตั้งเกิด

บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) แนะนำ ซื้อหุ้นกลุ่มพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยคาดว่ากำไรยังเติบโตสูงกว่า 20% เลือก PS, QH, AP และ LPN เป็นหุ้น Top Picks จากมูลค่างานในมือ ( Backlog ) สูงถึง 69.09 พันล้านบาทบวกประสิทธิภาพทำกำไรที่ดี ผลักดันกำไรเติบโตต่อเนื่อง หลัง 3 ปีที่ผ่านมา กำไรถูกกดดันด้วยประสิทธิภาพการทำกำไรที่ลดลง

ทั้งนี้ในช่วงปี 2547?2549 ฐานกำไรของกลุ่มธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย ถูกกดดันจากประสิทธิภาพการทำกำไรที่ลดต่ำลง อันเนื่องมาจากการแข่งขันที่รุนแรง, ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นหลังสิ้นสุดมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ในปี 2546 และความไม่สอดคล้องกันระหว่างการบันทึกรายได้กับค่าใช้จ่ายในการขาย ในช่วงเวลาที่มีการปรับเปลี่ยนสินค้า Norm Profit Margin ของกลุ่มลดลงจาก 23.4% ในปี 2546 มาอยู่ที่ 7.6% ในงวดครึ่งปีแรกของปี 2550 และทำให้กำไรจากการดำเนินงาน ไม่เคยขึ้นไปแตะจุดสูงสุดในปี 2546 ที่ 12.84 พันล้านบาท ทั้งนี้ยอดขายเพิ่มขึ้นเกือบ 70%

อย่างไรก็ตามยอดจองในโครงการคอนโดฯ ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้ Backlog ณ สิ้นไตรมาส 2/2550อยู่ที่ระดับสูงถึง 69.09 พันล้านบาท ซึ่งจะทยอยบันทึกรายได้ตั้งแต่ครึ่งปีหลังของปี 2550 ต่อเนืองถึงปี 2552 และผลจากการบันทึกรายได้จากคอนโดมิเนียมที่เพิ่มขึ้น ทำให้เกิดความสอดคล้องระหว่างการบันทึกรายได้กับค่าใช้จ่ายในการขาย ตลอดจนภาษีเงินได้นิติบุคคล ส่งผลให้ Norm Profit Margin สูงขึ้น คาดหมาย Norm Profit ของ 13 บริษัทใน Coverage ของฝ่ายวิจัยเติบโต 20.4% ในปี 2550 และ 21.7% ในปี 2551

อย่งไรก็ดีฝ่ายวิจัยเลือกหุ้นที่ดำรงสถานะเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม, มีความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจต่ำ, มี Market Cap เกิน 1 หมื่นล้านบาท และราคาหุ้นยังต่ำกว่า Fair Value ซึ่งมีหุ้นที่อยู่ในเกณฑ์ 4 บริษัทได้แก่ PS, QH, AP และ LPN ตามลำดับ โดยที่ PS เป็นเจ้าตลาดในสินค้าประเภททาวน์เฮ้าส์

ขณะที่รูปแบบการทำธุรกิจมีความเสี่ยงต่ำ, QH มีโครงสร้างรายได้กระจายตัว ขณะที่การเติบโตของผลประกอบการปี 2550 และ 2551 ถูกผลักดันด้วยโครงการบ้านที่เจาะกลุ่มลูกค้าในตลาดกลาง, AP เป็นบริษัทที่มี Backlog สูงถึง 12.98 พันล้านบาท ทำให้มีหลักประกันรายได้ในระยะยาว ส่วน LPN เป็นเจ้าตลาดในธุรกิจคอนโดมิเนียม แต่ในปี 2551 จะมีจุดอ่อนในเรื่องประสิทธิภาพการทำกำไร จึงเลือกไว้เป็นอันดับสุดท้าย

ทันหุ้น[/size:acabc2cf30">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com