Toon
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 973 |  วันที่: 19/09/2007 @ 09:18:47 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต ตลาดวันนี้ น่าจะถึงเวลาขยับหลังปรับฐานลงไปรับข่าวด้านลบพอสมควร โดยผลมติของเฟด น่าจะเป็นตัวชี้วัดสำคัญ ส่วนบรรดา"เซียน"ทั้งหลาย ต้องแสวงหา หุ้นขวัญใจ น่าลงทุนกันต่อไป
BECราคาหุ้นอ่อนตัวระดับที่น่าสนใจ
ประเมินภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาในช่วงครึ่งปีหลัง น่าจะเริ่มฟื้นตัวกลับขึ้นมาโดยปัจจัยหลักคือ การใช้เม็ดเงินจากภาครัฐในการรณรงค์เลือกตั้งช่วงปลายปี รวมไปถึงเม็ดเงินโฆษณาของพรรคการเมืองต่างๆ ที่เชื่อว่าจะใช้กันจำนวนมาก โดยยอดจองโฆษณาในเดือนก.ย.มีแนวโน้มในทิศทางที่ดีต่อเนื่อง
คาดว่าในปีนี้ BEC จะมีกำไรสุทธิ 2,035 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.85% จากปีก่อนโดยหากมีการปรับขึ้นค่าโฆษณาในปีหน้า จะทำให้ผลดำเนินการของบริษัทสูงขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีต่อราคาหุ้น
ราคาหุ้น ณ วันนี้ถือว่าอ่อนตัวลงมาในระดับที่น่าสนใจ จึงสมควร เข้าไป ซื้อ ราคาเป้าหมาย 25.50 บาท
GFPTได้อานิสงฆ์จากราคาไก่ขยับ
แม้จะไม่ใช่หุ้นพิมพ์นิยม แต่ไม่น่าพลาด เหมาะกับการ ซื้อเก็งกำไร ราคาเหมาะสม 15.80 บาท
ราคาไก่ค่อยๆฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผลประกอบการขาดทุนของบริษัทในไตรมาส 2ลดลงอย่างชัดเจน จึงคาดว่าในไตรมาส 3 นี้ผลประกอบการจะกลับมามีกำไรสุทธิได้อีกครั้ง ทั้งนี้ บริษัทเปิดเผยว่าได้เริ่มเดินเครื่องผลิตในโรงงานแปรรูปไก่ปรุงสุกโรงใหม่แล้ว หลังจากที่ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานจากลูกค้า ทำให้กำลังผลิตเพิ่มขึ้นจาก 18,750 ตันต่อปี เป็น 30,000 ตันต่อปี ส่งผลให้ขยายรายได้จากการส่งออกเพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเห็นผลชัดเจนในไตรมาส 4
ในครึ่งปีหลังจะมีการฟื้นตัวอย่างโดดเด่น ขณะที่ปีหน้าคาดว่าการขยายกำลังการผลิตจะทำให้รายได้ขยายตัว 24%
CP7-11สวยใสแม้ยังมีปัจจัยเสี่ยง
เป็นบริษัทที่น่าสนใจที่สุดในกลุ่มค้าปลีก ซึ่งนอกจากกำไรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการที่ไม่ต้องบันทึกผลขาดทุนจากเซี่ยงไฮ้ โลตัส นับจากไตรมาส 3 เป็นต้นไปแล้ว การเปิดสาขาใหม่และการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม จะเป็นการเติบโตในระยะยาวของบริษัทโดยคาดว่าอีก 10 ปีข้างหน้า เซเว่น อีเลฟเว่น ในเมืองไทยจะมีสาขาถึง 7,300แห่งหรือขยายตัวจากปัจจุบันประมาณ 80%
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีความเสี่ยงจาก 2 ปัจจัยคือ มีความเป็นไปได้ที่การขายเซี่ยงไฮ้ โลตัส จะใช้ระยะเวลานานกว่าที่คาดและการเติบโตของอุปสงค์ลดลงเร็วกว่าที่ประมาณการไว้ น่าจะมีลดการเติบโตของรายได้จากสาขาเดิมและลดจำนวนการเปิดสาขาใหม่
แต่ในภาพรวม ยังเป็นหุ้นที่สมควร ซื้อเก็งกำไร ราคาเป้าหมาย 13.80 บาท
MAJORมีแผนลงทุนต่อเนื่อง
ดูทิศทางบริษัทสดใส หุ้นน่าสนใจต้อง ซื้อ ราคาเป้าหมาย 20.50 บาท
ผู้บริหาร MAJOR เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนการลงทุนเพื่อการขยายธุรกิจโรงภาพยนตร์ในปี 2551 โดยลงทุนเพิ่มรวม 8 โครงการ รวมมูลค่าการลงทุนกว่า 1 พันล้านบาท เพื่อขยายโรงหนังไม่ต่ำกว่า 49 โรง ทั้งรูปแบบสแตนด์อะโลนและการเปิดตามดิสเคานต์สโตร์ทั้งเทสโก้ โลตัส และบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ โดยเฉพาะโครงการสแตนด์อะโลนสาขารัตนาธิเบศ ใช้งบลงทุนกว่า 700 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดในช่วงไตรมาส 3 ปีหน้า และโครงการเมเจอร์ อเวนิว รัชโยธิน ที่ลงทุนร่วมกับสยามฟิวเจอร์ โดยเฟสแรกลงทุนไปแล้ว 1พันล้านบาท คาดว่าจะเปิดในปีหน้าเช่นกัน
ขณะเดียวกัน MAJOR ยังคงนโยบายขยายการลงทุนต่อเนื่องในปี 2551 โดยจะมีปรับรูปแบบการลงทุนเน้นโรงภาพยนตร์แบบสแตนด์อะโลนและดิสเคานต์สโตร์ เพื่อให้สอดคล้องกับรสนิยมของผู้บริโภค พร้อมกับนโยบายการลงทุนแบบต้นทุนต่ำ เพื่อรองรับศักยภาพการเติบโตในอนาคต ประกอบกับพฤติกรรมของหนุ่มสาวยุคใหม่ที่หันมาสันทนาการโดยเสพสื่อโรงภาพยนตร์มากขึ้น ส่งผลให้โฆษณาผ่านสื่อโรงภาพยนตร์ยังมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องในระดับสูง ทำให้ MAJOR ยังคงมีทิศทางที่สดใส
ข่าวหุ้น[/size:b01c2e1599">
|
