April 27, 2024   3:37:37 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เก็บมาให้อ่าน.....จัดพอร์ตให้คุณแม่ลูก 2
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 18/09/2007 @ 20:45:40
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

โดยวรวรรณ ธาราภูมิ : บลจ. บัวหลวง

สวัสดีค่ะ ดิฉันได้รับอีเมลจากคุณยุพดี เธอบอกว่า อายุ 31 ปี รายได้ครอบครัวอยู่ที่ 70,000 บาท มีลูกเล็กๆ 2 คน คงกำลังน่ารักน่าชัง มีเงินเก็บอยู่ 300,000 บาท ต้องการลงทุนในกองทุน

ดิฉันจึงขอเสนอการจัดสรรเงินลงทุนของคุณยุพดีจากข้อมูลเท่าที่มี โดยสมมติว่าคุณสามารถเก็บสำรองเพิ่มได้ทุกเดือนอีกเดือนละ 10,000 บาท

1.เงินสำรองเผื่อฉุกเฉิน

สำรองส่วนแรกที่มีอยู่แล้ว 300,000 บาท เผื่อฉุกเฉินสัก 50,000 บาท จากเงินเก็บ 300,000 บาทก่อน (จะทำให้เงินเก็บเหลือ 250,000 บาท) โดยไปลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ชนิดที่ซื้อ/ขายคืน ได้ทุกวันทำการ

กรณีต้องการใช้ฉุกเฉิน คุณจะได้ถอนเป็นเงินสดได้ในวันรุ่งขึ้นหรือภายใน 2 วันทำการ กองทุนตราสารหนี้เหล่านี้ให้ผลตอบแทนที่ผ่านมาดีกว่าฝากออมทรัพย์ (ประมาณ 2.5% ถึง 2.8% ต่อปี) โดยสามารถถอนได้ใกล้เคียงกับออมทรัพย์ แต่จะได้รับเงินช้ากว่า 1-2 วันทำการ ขึ้นกับแต่ละกองทุน

นอกจากนี้ คุณควรสำรองจากเงินที่สมมติว่าจะเก็บได้เพิ่มขึ้นทุกเดือน เดือนละ 10,000 บาท โดยกันมาเดือนละ 5,000 บาท มาไว้ในกองทุนตราสารหนี้ที่ว่านี้ จนกว่าจะมีปริมาณเงินสำรองเท่ากับรายจ่ายประจำในครอบครัวรวม 6 เดือน หลังจากนั้นจึงลงทุนเต็ม 10,000 บาท เพื่อการเกษียณของคุณ

2.เงินลงทุนเพื่ออนาคตลูก

พ่อแม่ย่อมรักและวางแผนอนาคตทางการเงินให้ลูกไว้ก่อน อย่างน้อยก็เพื่อ การศึกษาในระดับสูงของลูก ในส่วนนี้ขอให้คุณนำเงิน 250,000 บาท ไปลงทุนให้ลูกทั้งหมดก่อน โดยดูจากอายุลูกคนโตอีกประมาณ 13 ปีก็จะเข้าเรียนขั้นปริญญาตรีแล้ว ลองมีทุนรองรังบางส่วนให้เขาสำหรับเรียนปริญญาตรีดีไหม

เงิน 250,000 บาท นั้น สมมติว่าคุณลงทุนระยะยาวด้วยการซื้อกองทุนหุ้นไว้ให้ ทั้งกองทุนในประเทศ และต่างประเทศ โดยลองสมมติผลตอบแทนคาดหวัง ในระดับ 10% ต่อปี ซึ่งตามจริงแล้วในบางปีอาจได้มากกว่านี้ บางปีอาจได้น้อยกว่านี้ และบางปีอาจติดลบบ้าง แต่เฉลี่ยๆ แล้ว ให้เป้าหมายเป็น 10% ต่อปี

หากเป็นตามนี้มันจะงอกเลยกลายเป็น 863,068 บาท เมื่อลูกคนโตเริ่มเข้าเรียน ปริญญาตรีปีแรก อย่างไรก็ตามใน 3 ปีท้ายๆ ของการลงทุนก่อนจะถึงช่วงที่ลูกจะเข้ามหาวิทยาลัย คุณอาจต้องขยับพอร์ตการลงทุนให้เสี่ยงน้อยลงด้วยการมาลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ เพื่อจะได้ไม่ต้องรับความผันผวนของตลาดหุ้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในแต่ละช่วง แต่ควรปลอดภัยไว้ก่อน เพราะจะต้องใช้เงินแล้ว

3.วางแผนเพื่อตนเองในวัยเกษียณ

ตามอายุคุณ หากทำงานจนอายุ 60 ปี ก็เหลือเวลาอีก 29 ปีจะเกษียณ กรณีนี้ให้สะสมเอาใหม่จากเงินที่คุณเก็บเพิ่มได้ทุกเดือน เดือนละ 10,000 บาท ซึ่งเวลาผ่านไป คุณก็สามารถมีรายได้เพิ่มขึ้น เก็บได้มากขึ้น

สมมติว่าคุณเก็บได้เดือนละ 10,000 บาท มีเวลาลงทุนยาวนานถึง 29 ปีกว่าคุณจะเกษียณ ขอแนะนำให้ลงทุนในกองทุนหุ้นค่ะ ทั้งกองทุนหุ้นในประเทศและต่างประเทศ เพื่อกระจายการลงทุนออกไปให้ได้รับโอกาสทั่วโลก และลดความเสี่ยงจากการกระจุกตัวลงทุนเฉพาะประเทศไทย

หากผลตอบแทนจากการลงทุนระยะยาวเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 10% ณ วันเกษียณ คุณจะมีเงินก้อนจากการลงทุนสม่ำเสมอทุกเดือนประมาณ 20 ล้านบาท และก็เหมือนที่แนะนำไว้คือเมื่อคุณกำลังจะเกษียณ คุณต้องลดสัดส่วนการลงทุนในกองทุนหุ้นลง เพื่อลดความเสี่ยงค่ะ

ทั้งนี้ คุณน่าจะพิจารณาลงทุนในกองทุน RMF ที่เป็นหุ้นให้เต็มเพดานที่สรรพากรอนุญาตไว้ก่อน เพราะเงินที่คุณลงทุนในแต่ละปีจะได้รับสิทธิ การไม่ต้องเสียภาษีทำให้ประหยัดภาษีไปได้อีกเท่ากับอัตราภาษีขั้นสูงสุดในปัจจุบันของคุณ รายละเอียดดูได้ที่เวบไซต์ ของ บลจ. ต่างๆ

หากคุณไม่อยากมีกองทุนหุ้นมาก ก็ลงทุนในกองทุนผสมได้ กองทุนประเภทนี้ มีทั้งหุ้น พันธบัตร เงินฝาก กับตราสารหนี้บริษัทเอกชน ปนกันไป จึงช่วยลดความเสี่ยงจากหุ้นลงไปได้ส่วนหนึ่ง แต่ผลตอบแทนคาดหวังก็ต้องลดลงไปด้วย เช่นเหลือ 8% เป็นต้น ซึ่งหากเป็นดังนั้น ณ วันเกษียณ คุณจะมีเงินเก็บอยู่ 13.6 ล้านบาท

ไม่มีใครตอบได้ว่าอะไรจะเหมาะสมที่สุด คุณต้องพิจารณาเอง โดยดูเป้าหมาย จำนวนเงินที่ต้องการในอนาคต ระยะเวลาที่จะลงทุนในแต่ละก้อน ผลตอบแทนคาดหวัง และความเสี่ยงที่เรารับได้ และแต่ละปีที่ผ่านไป อย่าลืมกลับมา ทบทวนดูว่าที่ลงทุนไปแล้วเป็นอย่างไร ยังอยู่ในกรอบเป้าหมายของเราหรือไม่ ต้องปรับปรุงอะไรบ้าง โดยดูสภาพตลาดการลงทุนในตราสารประเภทต่างๆ เปรียบเทียบหา โอกาสเพิ่มเติมในการลงทุนด้วย

ขอให้ประสบผลสำเร็จในการลงทุน


:lol:

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com