April 27, 2024   12:57:10 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เจาะกระดานหุ้น : ลุ้นเหนื่อย...!!!
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 18/09/2007 @ 09:37:31
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

โมนิก้า เห็นดัชนีอ่อนตัวปิดลบเล็กน้อยก็รู้ได้ทันทีว่า สัปดาห์คงต้องมานั่งลุ้นนอนลุ้น ตะแคงลุ้นว่า ดัชนีจะยืนหยัดเหนือแนวรับ 800 จุดได้หรือไม่ เพราะบรรยากาศหลายอย่างไม่เป็นใจให้ดัชนีทะยานขึ้นไปอย่างมั่นคงนะซี

*เนื่องจากหุ้นขนาดใหญ่อย่างกลุ่มธนาคาร และพลังงาน พากันปิดลบกันถ้วนหน้า และเมื่อเทียบออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์ โมนิก้า แทบเป็นลมล้มพับไปกองอยู่ที่พื้นเลยก็ว่าได้ และหากมองถึงรายละเอียดปลีกย่อยที่ส่งผลต่อการลงทุนในสัปดาห์นี้แล้ว...ต้องลุ้นอีกเฮือกใหญ่พะยะค่ะ

*ที่สำคัญสัปดาห์นี้ยังไม่มีข่าวใหม่ๆ จรรโลงจิตใจ แถมกูรูส่วนใหญ่มองว่าตลาดจะไม่ตอบรับข่าวดีมากนัก เท่ากับเป็นการบอกใบ้ว่าสถานการณ์ของตลาดหุ้นไม่น่าจะกระเตื้องขึ้นเลยนะเนี่ย และยังผลให้มูลค่าการซื้อขายนับวันจะเบาบางลงเรื่อยๆ

*แถมสัปดาห์นี้ยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามากระตุ้นการลงทุน จึงต้องลุ้นกันต่อไปว่าดัชนีจะวิ่งขึ้นไปทดสอบแนวต้านบริเวณ 715-720 จุดได้อีกหรือไม่ เพราะมองไปทางไหนด้านไหนก็มีแต่แรงซื้อเก็งกำไรสั้นๆ เต็มไปหมดนะซี

*ประหลาดสุดๆ คงเป็นกรณีของ EVER ที่แจ้งการจำหน่ายเงินลงทุนหุ้นสามัญของMy Resort จำนวน 44,999,994 หุ้น ให้แก่ บริษัท นิวฮาร์เบอร์วิลล์ จำกัด ในราคาหุ้นละ 5.77 บาท คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 259,532,590.35 บาท ว่าได้รับเงินค่าซื้อขายหุ้นทั้งหมด จากบริษัท นิวฮาร์เบอร์วิลล์ จำกัด เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2550 นั่นแหล่ะ

* โมนิก้า ถึงอยากให้หน่วยงานตรวจสอบของตลาดหลักทรัพย์ฯ กระทุ้งเรื่องี่มาที่มาของแหล่งเงินที่ในการซ้อขายหุ้นครั้งนี้โดยด่วน เพราะเดี๊ยนได้กลิ่นตุๆ ของเงินก้อนดังกล่าวโชยมาแต่ไกล แถมแมงลือเม้าท์กันให้แซ่ดว่า งานนี้เป็นมวยล้มต้มคนดูเหมืนเช่นที่แล้วมาเดี๊ยนจึงขอรบกวนแค่ให้ตลาดฯ แจ้งแหล่งที่มาของเงินดังกล่าวแค่นั้นพอ...ส่วนที่เหลือเดี๊ยนจะไปขอความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ไล่สอบ ไล่บี้เองเจ้าค่ะ

*เหมือนกับในรายของ IEC ไปๆ มาๆ ก็ตองยสมบัติเก่ากินจนได้ โดยล่าสุดมีมติอนุมัติให้บริษัทขายเงินลงทุนทั้งหมดใน บริษัทคริสตัล อะโกร จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนจัดตั้งในประเทศกัมพูชา และบริษัทถือหุ้นอยู่คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 50 ของทุนจดทะเบียนจำนวน 500 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ1,000 เหรียญสหรัฐ ในราคาขายหุ้นละ 1,000เหรียญสหรัฐ รวมเป็นมูลค่าซื้อขายทั้งสิ้นจำนวน500,000 เหรียญสหรัฐ ให้แก่ พันตรีอายุพันธ์ กรรณสูต นะจ๊ะ
*เผอิญ โมนิก้า เป็นสาวมั่นประเภทสอดรู้สอดเห็นเรื่องชาวบ้าน จึงขอตั้งคำถามว่า ดีลดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างไร และใครเป็นคนทาบทามดีลนี้ เพราะแมงลือหลยสำนักกำลังตั้งข้อสังเกตถึงดีลการซื้อขายหุ้นครั้งนี้นั่นเอง

*ประเสริฐสุดๆ คงมีแต่แม่บังเกิดเกล้าอย่าง BEC ที่เข้าไปอุปถัมส์ค้ำชู บริษัท บีอีซี- เทโร เอ็กซ์ซิบิชั่นส์ จำกัด ด้วยการถือเพิ่มจากร้อยละ 51 เป็นร้อยละ 100 ทั้งที่บริษัทลูกก็ไม่ได้ทำเงินมากมายก่ายกองแบบนี้ โมนิก้า ไม่กล่าวชมเชยก็ดูกะไรอยู่เพราะเดี๊ยนเห็นเฮีย ฉัตรชัย เทียมทอง ใส่เงินอัดฉีดบริษัทลูกมาแล้วหลายต่อหลายครั้งนะซี

*หลังจากเจอนโยบายทางบัญชีใหม่เล่นงานจนผลประกอบการไตรมาสสองขาดทุนป่นปี้ มาคราวนี้เฮียณรงค์ ทัศนนิพันธ์ จึงต้องเร่งสร้างผลงานให้เข้าตากรรมการโดยด่วนและดูเหมือนผลงานดังกล่าวจะเป็นที่ถูกอกถูกใจบรรดาแม่ยกเสียด้วย เพราะงานใหม่ที่รับเข้ามามีเม็ดเงินมากถึง 134 ล้านบาท?น่าเสียดายที่ข่าวดีดังกล่าดันามช่วงที่ตลาดหุ้นย่ำแย่ราคาหุ้นถึงไม่ขานรับเท่าที่ควร

*ยิ่งถ้าย้อนกลับมาดูหุ้นแบงก์ด้วยแล้วหล่ะก้อ "โมนิก้า" ขอบอกตามตรงว่า ดูได้เฉพาะบางตัวเท่านั้น โดยพาะในราย ACL นับวันจะกลายเป็นสาละวันเตี้ยลง เตี้ยลง จนไม่ต้องพูดถึงแนวรับให้เสียเวลา เพราะตั้งแต่ข่าวเรื่องแบงก์กรุงเทพต้องการขายหุ้นที่ 8 บาทซ่าลงราคาหุ้นก็แกว่งตัวขึ้นๆ ลงๆ ไร้ทิศทางมาตลอด เดี๊ยนถึงอยากให้นักลงุนเข้าซื้อหุ้นเฉพาะช่วงที่อ่อนตัวลงมา และหาจังหวะเทขายเมื่อปรับตัวขึ้นนะจ๊ะ

*ผิดกับในรายของ BBL KBANKและ SCB แม้จะหมดข่าวเรื่องผลประกอบการ แต่ก็ยังเป็นกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจอยู่วันยันค่ำ นับตั้งแต่ต้นปีราคาหุ้นถึงได้ปรับตัวขึ้นเรื่อยๆ เผอิญภาวะกรลงทุนในช่วงที่ผ่านมาไม่เป็นใจเท่าที่ควร ราคาหุ้นถึงได้จวนเจียนจะลงแหล่ มิลงแหล่แบบนี้ไงหล่ะ...หากถามว่าหุ้นกลุ่มนี้น่าลงทุนไหม ขอตอบ่าน่าลงนอย่างแรงเจ้าค่ะ

*ก่อนจากกันเดี๊ยนถึงขอแนะนำให้คุณๆ ใช้ยุทธวิธีเล่นหุ้นแบบ เข้าเร็ว ออกเร็ว หรืออีกวิธีหนึ่งก็คือ ซื้อเมื่ออ่อนตัว ที่สำคัญหากไม่เข้าซื้อหุ้นในช่วงที่อ่อนตัวลงมาก็คงไม่ใช่แฟนพันธ์แท้ โมนิก้า นะจะบอกให้


:lol:

 กลับขึ้นบน
บุคคลทั่วไป
บุคคลทั่วไป
#1 วันที่: 18/09/2007 @ 16:15:54 : สำหรับนักลงทุน
นักลงทุน ไม่ควรพลาด ใช้เงินทำงาน กำไรสูงสุด 2 เท่า ใน 60 วัน


หัวข้อ
นักลงทุน ไม่ควรพลาด ใช้เงินทำงาน กำไรสูงสุด 2 เท่า ใน 60 วัน
รายละเอียด

ถ้าคุณเป็นนักลงทุน ไม่ควรพลาด ใช้เงินทำงาน กำไรสูงสุด 2 เท่า ภายใน 60 วัน!!! บริษัทจดทะเบียนถูกกฏหมายทุกประการ

ไม่ต้องแนะนำใคร ไม่ต้องขายสินค้า ไม่ต้องหาสมาชิก แค่คุณลงทุนซื้อหุ้นสินค้า ดังนี้
1 หน่วย ราคา 800.- ซื้อกี่หุ้นก็ได้ไม่จำกัดจำนวน
ปันผลกำไร งวดแรก นับไป 20 วัน ได้รับ 400.-
ปันผลกำไร งวดสอง นับไป 40 วัน ได้รับ 1200.-
รวม 60 วัน ได้รับ 1600.- (เสียภาษี 5%)
ซื้อเท่าไหร่ ได้กำไร 2 เท่าตัว บริษัทฯ ถูกต้องตามกฎหมายแน่นอน เพราะใช้ระบบบริหารกำไร ของสินค้าซื้อขายทั่วไปในท้องตลาด สมาชิกสามารถซื้อสินค้าที่บริษัทฯ รับของได้ที่ห้างฯ แมคโคร ทั่วประเทศ และกำลังจะมีร้านแฟรนไชน์ ไทยมาร์ท ที่มาช่วยฟื้นชีวิตร้านโชห่วย ให้กลับสู่สังคมไทยอีกครั้ง รายได้ไม่รั่วไหลออกนอกประเทศ เหมือนห้างฯดัง ของบริษัทข้ามชาติ ซึ่งนำกำไร 70 % ส่งนอกประเทศทั้งหมด
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com