April 27, 2024   7:30:22 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ไม่ซื้อวันนี้ ก็สายเกิน...
 

Toon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 973
วันที่: 18/09/2007 @ 09:11:01
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

จั่วหัวข้างต้น จะบอกว่าเชียร์แขก และพาแมงเม่าไปตาย ก็ต้องขอยอมรับช่วยไม่ได้จริงๆครับ
สถานการณ์มันเป็นเช่นนั้น จะไม่บอกกัน ก็เสียของ จะบอกกัน ก็อาจจะมีพวกปากหอยปากปู หาว่าเชียร์การพนัน แต่สำหรับท่านผู้อ่าน ข่าวหุ้นธุรกิจ คงจะเข้าใจดีว่า เราคิดอย่างไร
ส่วนคนอื่นจะคิดอย่างไร ก็สุดแท้แต่ครับ

เมื่อวานนี้ ดัชนีราคาหุ้นติดลบ นั่นคือปรากฏการ ที่อธิบายได้ว่า เกิดจากการถล่มลงของราคาหุ้น ปตท. หรือ PTT และเครือข่ายเป็นหลัก เหตุผลก็ง่ายมาก คือ เกิดจากติดเครื่องหมาย XD นั่นคือ ซื้อหุ้นแล้วไม่ได้รับปันผลกลางปี คนที่รับไปแล้ว ก็ไม่อยากถือต่อขายทิ้งไปก่อน แล้วตามมาซื้อคืนทีหลัง
ขนาดถล่มอย่างนี้ ยังยืนเหนือ 800 จุดได้สำเร็จ ก็มีสัญญาณเดียวครับคือ บานดัชนีSET รวมที่ 800 จุด คือแนวรับจิตวิทยาที่แข็งแกร่งจากนี้ไป คือขาขึ้นอย่างเดียว
เรื่องนี้ผมเคยเขียนไว้เมื่อวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา ในหัวข้อ ?ได้เวลาซื้อเก็บ?มาครั้งหนึ่ง แต่ตอนนี้ แม้รายละเอียดจะแตกต่างออกไปมาก แต่สาระสำคัญก็ยังเหมือนเดิมคือเวลาซื้อมาถึงแล้ว

ลองย้อนกลับไปดูของเก่าสักนิดนะครับ ผมเขียนเอาไว้ว่า
มีประเด็นหลัก 2 ประเด็นที่ต้องพิจารณาเกี่ยวกับสถานการณ์ตลาดเก็งกำไรของเอเชียยามนี้ ทั้งตลาดหุ้น และตลาดเงิน

1)ราคาหุ้นบลูชิพส่วนใหญ่ถูกแรงเทขายทิ้งโดยไม่สมเหตุสมผลเสียจนกระทั่งได้เวลาซื้อเก็บของถูกรอบใหม่แล้วหรือไม่?
2)ค่าเงินเอเชียที่เคยแข็งชนิดต้องหาทางรับมืออุตลุต กลับมาเป็นอ่อนยวบทันทีอย่างไม่คาดหมาย เพราะเงินไหลออกบางส่วน นอกจากทำให้เงินเฟ้อเป็นกังวลแล้ว กลยุทธ์การเล่นเกมค่าเงินของบริษัทยักษ์ใหญ่ในโลกที่เรียกว่า แครี่ เทรด จะถึงกาลอวสานหรือไม่?
ก่อนจะตัดสินใจว่าควรสรุปอย่างไร ต้องย้อนไปดูที่มาและตรรกะของตลาดเก็งกำไรเอเชียให้ถ้วนถี่สักเล็กน้อย

หากมองจากมุมของสัญญาณทางเทคนิค ตลาดหุ้นเอเชีย(รวมทั้งไทย)ถูกแรงซื้อยาวนานหลายเดือนของต่างชาติเข้ามาดันดัชนีให้ขึ้นสูงมากกว่า 30% และเพิ่งจะถูกขายทิ้งรุนแรงชนิดไม่ใส่ใจกับข้อเท็จจริงใดๆ แต่เป็นตามใบสั่งของต้นสังกัดในบริษัทแม่ โดยอ้างกรณีซับไพร์ม เป็นสาเหตุของการขายจนทำให้ราคาหุ้นสำคัญร่วงลงมาประมาณ 10%
ข้อเท็จจริงดังกล่าว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพื้นฐานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นเอเชียเลยแม้แต่น้อย ที่เคยดีอย่างไร ก็ยังคงดีเช่นเดิม ที่เคยเลวอย่างไร ก็ไม่เลวกว่าเดิม นั่นแสดงว่า แรงขายแรงซื้อ ไม่มีสหสัมพันธ์กับพื้นฐานของบริษัท
พิจารณามาถึงตรงนี้ ก็ต้องย้อนกลับไปดูพื้นฐานของบริษัทเพื่อพิจารณาเทียบกับราคาล่าสุดของหุ้นในตลาดที่ซื้อขายกันอยู่ โดยใช้เกณฑ์สำคัญคือ P/BV และ P/E เป็นเครื่องมือประกอบการพิจารณา
จะเห็นได้ชัดว่า ราคาหุ้นพื้นฐานหรื่อบลูชิพของตลาดเอเชีย โดยเฉพาะตลาดหุ้นไทยนั้น กลับร่วงลงมาต่ำกว่าพื้นฐานเสียเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งโดยเกณฑ์พิจารณาของนักเล่นหุ้นระดับเซียนไม่ว่าที่ไหนๆในโลก ก็มีหลักการเดียวกับคือ ซื้อเก็บ เพราะราคาที่เป็นอยู่แสดงว่าเข้าเขตขายมากเกินสมควรแล้ว

ราคาหุ้นบลูชิพที่ร่วงลงมาต่ำกว่าพื้นฐาน หากไม่มีปัญหาสภาพคล่องมากเกินเหตุ เป็นที่ทราบกันดีว่า พร้อมจะเด้งกลับไปสู่ราคาเดิมได้เร็วกว่าธรรมดา ไม่ต้องรอดูปัจจัยอื่นๆ ยกเว้นความชัดเจนของตลาดอย่างเดียว
นักกลยุทธ์ที่ฮ่องกงและสิงคโปร์ของบรรดากองทุนหลักที่เข้ามาในเอเชีย พากันให้ความเห็นอย่างมองโลกในแง่ดีว่า การปรับฐานของราคาหุ้นบูลชิพที่ไม่เกิน 15% ซึ่งไม่มีผลทำให้เกิดการปรับกลยุทธ์ในลักษณะ?ถูกบังคับขาย? แต่เป็นแค่ภาวะ?ดิสเคาท์ราคา?เท่านั้น
เป็นเรื่องที่ดีอย่างยิ่ง เพราะยืนยันว่า แรงเทขายรุนแรงที่เกิดขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นแค่?สัญญาณเตรียมตัวซื้อ?อย่างมีนัยๆที่แท้จริง และไม่ควรพลาดกับปรากฎการณ์หรือเสียงวิเคราะห์ของโบรกเกอร์

มุมมองที่เกิดขึ้น เกิดจากการวิเคราะห์พื้นฐานในระยะปานกลางและยาวของเศรษฐกิจเอเชียว่า ยังไม่มีสัญญาณอะไรเลยที่บ่งชี้ว่า ปีนี้และปีหน้า จะเป็นปีของหายนะเศรษฐกิจในเอเชีย แม้จะมีบางธุรกิจได้รับผลพวงจากความเสียหายของเศรษฐกิจอเมริกาที่เกิดขึ้นจากกรณีฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์แตกในช่วงหลายเดือนมานี้

การวิเคราะห์เช่นนี้ ตรงกับข้อเท็จจริงที่นักวิเคราะห์สัญญาณทางเทคนิครู้กับดีว่ายามนี้ ราคาหุ้นบลูชิพส่วนใหญ่ เข้าเขตขายมากเกิน จนต้องถึงเวลารีบาวด์แรงๆอีกรอบ
ใครไม่ซื้อ แสดงว่าเป็นแค่แมงเม่าอ่อนหัดอย่างแท้จริงวันนี้ ผมขอย้ำอีกว่า ข้อเขียนเมื่อเดือนก่อน ยังคงถูกต้องโดยพื้นฐาน และยังมีตัวแปรใหม่เพิ่มเติมเข้ามาอีก นั่นคือ ธงของการเลือกตั้งวันที่ 23 ธันวาคม 2550 เป็นธงชัยชี้ให้เห็นว่า จากนี้ไปจนถึงวันก่อนเลือกตั้ง ราคาหุ้นจะต้องทะยานต่อไปแนวต้านที่ 860 จด น้อยเกินไปครับ โอกาสแตะ 900 จุดรอบ 2 เป็นไปได้อีกครั้งเหตุผลหลักมี 2 ข้อคือ

1)ค่าดอลลาร์ที่อ่อนยวบอีกครั้งหนึ่ง จะทำให้ระลอกการหนีออจกากอเมริกาของทุนเก็งกำไรมายังเอเชีย เกิดขึ้นระลอกใหญ่อีกอย่างแน่นอน ไทยยังเป็นเป้าหมายของนักลงทุนต่อไป
2)การระดมทุนไปหาเสียงเลือกตั้งของกลุ่มทุนที่สนใจการเมือง และที่สนับสนุนนักการเมือง หรือพรรคการเมือง จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ไม่ว่าจะหาทางสกัดอย่างดก็ไม่เป็นผล
ข้อเท็จจริงอย่างนี้ เป็นธรรมดาของโลกครับ ไม่ต้องทำเป็นไขสือมีคุณธรรมอะไรมากแบบพวกมือถือสาก ปากถือศีลอะไรนั่นหรอก
ดัชนี 800 จุดเมื่อวานนี้ เป็นจุดต่ำสุดที่จะซื้อแล้วครับ จากนี้ไป อย่าหวังว่าจะได้เห็น
ง่ายๆ จนกว่าหลังเลือกตั้งผ่านไปแล้วนั่นแหละครับ
ไม่เชื่อไม่ว่า แต่อย่าบ่นทีหลังอีกก็แล้วกัน
ส่วนจะซื้อหุ้นไหน ต้องลางเนื้อชอบลางยากันเอาเองครับ

ข่าวหุ้น[/size:143a89e173">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com