P_aud สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 531 | วันที่: 29/09/2005 @ 10:50:42 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ตั้งเป้าหมายเป็นแปลงสภาพเป็น บมจ.ในไตรมาสแรกปี 49 และกระจายหุ้นปลายปี ระบุแต่ยังรอความชัดเจน
เรื่องการเกลี่ยผลตอบแทนการลงทุน 3 การไฟฟ้า รอนโยบายรัฐสรุปว่าหากผลตอบแทนต่ำแล้วควรจะกระจายหุ้นหรือไม่
รายงานข่าวแจ้งว่า ในงานเสวนา 45 ปี กฟภ. เส้นทางผู้นำธุรกิจจำหน่ายไฟฟ้าอาเซียน นายไมตรี ลักษณะโกเศศ รองผู้ว่าการวางแผน
และพัฒนาระบบไฟฟ้า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ กฟภ. กล่าวว่า ขณะนี้ได้เตรียมพร้อมแปลงสภาพ โดยตั้งเป้าหมายจะจดทะเบียนเป็น
บริษัทมหาชนภายในต้นปี 2549 และกระจายหุ้นภายในปลายปี 2549 หรือต้นปี 2550 อย่างไรก็ตาม เพื่อสร้างการเตรียมพร้อม กฟภ.
ได้ปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินการและเตรียมจัดตั้งบริษัทลูก 6 บริษัท เพื่อปรับโครงสร้างองค์กรรองรับการแข่งขันในอนาคต ได้แก่
บริษัทจัดหาจำหน่ายพลังงานไฟฟ้าในพื้นที่พิเศษ บริษัทร่วมทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานร่วมแบบ Distributed Generator บริษัท
สารสนเทศและสื่อสาร บริษัทจัดหาผู้ปฏิบัติงานให้ กฟภ. บริษัทวิศวกรรมและบริษัทก่อสร้างและบำรุงรักษาระบบไฟฟ้า โดยจะให้
บริการทั้งในและต่างประเทศ
กฟภ.มีแผนจะลงทุนเพิ่มใน 4-5 ปีข้างหน้า ประมาณ 120,000 ล้านบาท ลงทุนเกี่ยวกับระบบส่งเป็นส่วนใหญ่เพื่อบริการประชาชน
อย่างเพียงพอ ซึ่งเป็นการบริการเพื่อสังคมหรือไม่มีกำไรประมาณกว่า 10,000 ล้านบาทต่อปีดังนั้น หากการเกลี่ยผลตอบแทนการลง
ทุนสำหรับ 3 การไฟฟ้า (บมจ. กฟผ. กฟภ. และการไฟฟ้านครหลวง) แล้ว กฟภ.ได้ต่ำเกินไปก็จะส่งผลทั้งเรื่องการกระจายหุ้นและการลง
ทุนดังกล่าว จึงขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐบาลว่าจะตกลงเกลี่ยอย่างไร ซึ่งจะประชุมในบ่ายวันนี้ นายไมตรี กล่าว
นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสหกิจ กระทรวงการคลัง กล่าวว่า ประเด็นหลักของการ
กระจายหุ้น นอกเหนือจากให้รัฐวิสาหกิจปรับปรุงประสิทธิภาพตนเองยังตั้งเป้าหมายลดหนี้สาธารณะของประเทศ เพราะต้องการจะนำ
เงินที่ได้จากการลดหนี้ไปลงทุนด้านสังคมต่างๆ โดยแผนการลงทุนด้านธุรกิจไฟฟ้าในเมกะโปรเจกต์มีเม็ดเงิน 300,000-400,000 ล้าน
บาท หากแปรรูปหนี้ของธุรกิจไฟฟ้าจะไม่ถือว่าเป็นหนี้สาธารณะ อย่างไรก็ตาม การเกลี่ยรายได้ 3 การไฟฟ้า อาจจะเป็นจุดที่อาจจะ
ต้องมาทบทวนแผนการกระจายหุ้นของการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายก็ได้
นายณอคุณ สิทธิพงศ์ รองปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ขณะนี้ได้ปรับโครงสร้างองค์กรธุรกิจไฟฟ้า ทำให้เกิดความชัดเจนในการสร้าง
ความมั่นคงและบริการต่อภาคประชาชน แม้จะแปรรูปไปแล้วจะจัดตั้งเป็นกองทุนขึ้นมาเพื่อลงทุนด้านสังคมที่จะมีกระแสไฟฟ้าไปส่งให้
ประชาชนในพื้นที่ห่างไกลอย่างแน่นอน ส่วนโครงสร้างค่าไฟฟ้าใหม่กำหนดชัดเจนว่าโครงสร้างค่าไฟฟ้าฐานจะไม่เปลี่ยนแปลงใน 3 ปี
ข้างหน้า แต่ค่าเอฟทีหรือค่าไฟฟ้าอัตโนมัติจะเปลี่ยนแปลงตามต้นทุนเชื้อเพลิง
กองทุนที่จะจัดตั้งขึ้นมาใหม่กำลังพิจารณาว่าคงจะจัดเก็บจากโรงไฟฟ้าเอกชนหรือผู้ก่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ ซึ่งจะนำมาลงทุนทั้งเพื่อ
สังคมและการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังชีวมวลแต่จะจัดเก็บอัตรามากน้อยขนาดไหนนั้น คณะกรรมการกำกับกิจการไฟฟ้าที่กำลังจะจัดตั้ง
ขึ้นมาเป็นผู้พิจารณา นายณอคุณ กล่าว
ที่มา:
กระแสหุ้นรายวัน
|