*"โมนิก้า" อยากจะร้องเพลง ผีกาก้า ใจจะขาด ให้เข้ากับบรรยากาศรอบคัดเลือกฟุตบอลแชมเปี้ยนลีก แต่ก็เกรงใจ ผีซับไพรม์ ซึ่งเป็นต้นเหตุให้ตลาดหุ้นทั่วโลกตกระเนระนาดกันทั่วโลก จึงได้แต่หำเพลงอยู่ในลำคอไปเรื่อยๆ เดี๋ยวนักลงทุนรายย่อยจะเข้าใจผิดว่า ชอบซ้ำเติมคนล้ม นะซี

*ทั้งที่ข้อกล่าวอ้างเรื่อง ซับไพรม์ ฟังไม่ขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียว แต่บรรดานักวิเคราะห์พวกหัวขี้เรื่อยๆ ก็ปักใจเชื่อว่าจะต้องมีผลกระทบเกิดขึ้นในระยะยาว โดยเฉพาะคำอธิบายที่บอกว่า ตลาดเครดิตทั่วโลกเสียหาย จนทำให้ทุนต้องเคลื่อนออกจากเอเชียกลับไปช่วยเหลือที่อื่นๆทั้งในยุโรปและสหรัฐฯ...น่าจะเป็นคำอธิบายที่ทำให้นักลงทุนตื่นตระหนกมากขึ้นเจ้าค่ะ

*ถึงกระนั้น "โมนิก้า" ก็ยังไม่ปักใจเชื่อเรื่องดังกล่าวอยู่ดี เพราะตราบใดที่ตลาดหุ้นย่านเอเชียยังให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าโซนยุโรป ก็ไม่มีวันที่กองทุนใหญ่ๆ จะถอนเงินไปลงทุนยังประเทศที่ให้ผลตอบแทนน้อยกว่าอย่างแน่นอน

*เหมือนเช่นบทความวันก่อนของคุณพี่วิษณุ ซึ่งพูดถึง "คนที่ขาดทุนป่นปี้เพราะราคาหุ้นตกถือเป็นเครื่องเซ่นสังเวยชะตากรรม เพื่อไถ่บาปของนักลงทุนอื่นๆไป คนที่เหลือก็พร้อมจะลืมซับไพร์มไปจนหมดสิ้น เหลือไว้แต่ตำนาน พร้อมกับข้อกล่าวหาว่า เป็นเพราะสื่อมวลชนให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากเกินสมควร"

*เดี๊ยนถึงไม่ขอแสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับเรื่องซับไพรม์ เพราะต่อให้พูดจนปากฉีกถึงรูหู นักลงทุนก็คงไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น หลังเกิดอาการหน้ามืดตามัวไม่ฟังเสียงคัดค้านอะไรทั้งสิ้นชั่วคราว "โมนิก้า" ถึงพยายามเชียร์ให้นักลงทุนเข้าไปรับหุ้นพื้นฐานดีที่ลงมาเยอะๆเป็นประจำ

*เนื่องจากเห็นกันจ๊ะๆ ว่า ดัชนีมีแนวโน้มอ่อนตัวลงไปที่แนวรับ 750 จุดค่อนข้างสูงและการที่ดัชนีรูดหลุดแนวรับ 780 จุดลงไปอย่างง่ายดายก็ไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้น เพราะกองทุนในประเทศใหญ่ๆ ตั้งป้อมเก็บหุ้นช่วงที่อ่อนตัวลงมาลูกเดียวเจ้าค่ะ

*แม้ในระหว่างนี้จะมีมาร์เก็ตติ้งหน้าเงินทั้งหลายแนะนำให้นักลงทุนเข้าไปเล่นหุ้นขนาดเล็กกันเป็นจำนวนมาก แต่เดี๊ยนกลับเห็นตรงข้ามกับกลุ่มคนดังกล่าวอย่างสิ้นเชิง เพราะหุ้นขนาดเล็กที่แนะนำให้เล่นแต่ละตัวฐานะทางการเงินดูไม่ได้เลยสักตัว...การที่หุ้นขนาดเล็กปรับตัวขึ้นแรงๆ จึงเป็นการ "ลากขึ้นมาเชือด" ชัวร์ป๊าบ

*โดยเฉพาะคำพูดนักวิเคราะห์บางแห่งที่บอกว่า ช่วงนี้หุ้นจะซึมเซา และผันผวนไปอีกนาน นักลงทุนอย่าไปใส่ใจมากเลยดีกว่า สู่เลือกเล่นหุ้นเก็งกำไ หาสตอรี่เด่นประเด็นร้อน กับหุ้นมีแววทิศทางดี จะหาตังค์ง่ายกว่า ใครมัวแต่หวังหุ้นพื้นฐานอย่างพลังงานตอนนี้ คงเลือดออกแผลเหวอะเป็นแถวๆ...ช่างเป็นคำพูดของพวกหน้าเงินจริงๆ พับผ่าซิ

*ยิ่งเห็นนักวิเคราะห์รายดังกล่าวแนะนำให้เล่นหุ้น EMC โดยเชื่อว่าผลประกอบการไตรมาสสองคงมีอะไรเจ๋งๆ ให้ตื่นเต้นเล่น เพราะจากมีงานประมูลเข้ามาอย่างต่อเนื่องเผลอๆ อาจจะรับรู้รายได้กระฉูดเป้าแตกก็ได้ อีกทั้งยังมีข่าวดีเรื่องจะไปลุยงานก่อสร้างที่ประเทศดูไบ ก็เลยให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 4.10 บาท พร้อมกับขอให้คนที่ซื้อรวยในบัดดล...เชลียร์จนก้นมันแผล็บแล้วนะพี่

*เนื่องจากกระจอกข่าวสำนักต่างๆ รู้กันทั่วคุ้งทั่วแควว่า ผู้ถือหุ้นใหญ่ฉวยจังหวะเทขายหุ้นโกยเงินเข้ากระเป๋าไปเพียบ คุณยังมีหน้ามาเชียร์ให้เล่นหุ้นประเภทนี้อีกเหรอ เพราะท้ายที่สุดนักลงทุนรายย่อยคงกระเป๋าฉีกกับเป็นแถบๆ ส่วนเจ้าของบริษัทก็รวยจนพุงปลิ้นอีกตามเคยนะจะบอกให้

*ขนาดหุ้นข้าวโพดหวาน APURE ซึ่งเคยได้ชื่อว่าเป็นหุ้นเก็งกำไรยอดนิยมของขาใหญ่ เมื่อมาเจอภาวะการลงทุนที่ไม่เป็นใจก็จอดไม่ต้องแจวเหมือนกัน โดยล่าสุดลงมายืนใต้ 2.50 บาท พร้อมกับอยู่ในทิศทางขาลงอย่างบูรณาการ สงสัยจะปลุกผีให้ขึ้นมาอาละวาดไม่สำเร็จแล้วแหง๋ๆ ราคาหุ้นถึงได้ดำดิ่งลงแรงเหลือเกิน

*เช่นเดียวกับหุ้นน้องตั๊ก TUCC เคยได้รับความนิยมจากบรรดาเสี่ยน้อย เสี่ยใหญ่กันเป็นอย่างดี แต่พอมีหุ้นน้องใหม่ที่ใสปิ๊งกว่าเท่านั้นแหล่ะ...บรรดาเสี่ยๆ ก็ผละทิ้งน้องตั๊กแบบไม่มีเยื้อใยไมตรีทันที จนกลายเป็นหุ้นดาวร่วงประจำครึ่งปีแรกแบบนี้ "โมนิก้า"มองว่ากว่าจะโงหัวขึ้นคงต้องรออีกนานนะจ๊ะ

*หากนักลงทุนต้องการเล่นหุ้นจนตัวสั่น "โมนิก้า" ขอแนะนำ วอแรนต์ เป็นอันดับแรก เพราะตัวเลขที่รวบรวมในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาพบว่า นักลงทุนสามารถรับรู้ผลกำไรและผลขาดทุนได้ทันที จึงเป็นหุ้นทางเลือกที่ 2 สำหรับคนที่กล้าได้กล้าเสีย...ส่วนใครที่รู้ตัวว่าไม่มีคุณบัติดังกล่าวก็ถอยไปไกลๆ เลยเจ้าค่ะ

*ขอเตือนสติอีกครั้งว่า ข้อมูลจาก Lipper บอกไว้ชัดเจนว่า ตลาดหุ้นย่านเอเชียยังให้ผลตอบแทนที่ดีแก่บรรดากองทุนยักษ์ใหญ่ นักลงทุนจึงไม่ควรเสียค่าโง่เทขายหุ้นทิ้งจากเรื่องไม่เป็นเรื่องนะจะบอกให้


:lol: