April 30, 2024   12:02:33 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เจาะกระดานหุ้น : อย่าตระหนก
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 10/08/2007 @ 09:06:49
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

*หากการอ่อนตัวของดัชนวานนี้เป็นผลมาจากสัญาญทางเทคนิค โมนิก้า คงไม่มีอะไรต้องวิตกกังวล เพราะเป็นเรื่องที่มีการรับรู้กันอย่างขวางว่า ดัชนีต้องพักก่อนกระชากขึ้นแรงแต่ถ้าเกิดจากเรื่องไม่เป็นเรื่องประเทจับแพะชนแกะ...มันเกินจะรับได้นะค่ะ

*โดยเฉพาะเรื่องการแก้ พรบ. คนต่างด้าว กำลังมีคนบางคนโยงเรื่องดังกล่าวว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้ดัชนีรูดลงแรง และเป็นตัวกดดันให้นักลงทุนต่างชาติเร่งระบายเทขายหุ้นออกมาอย่างหนัก ทั้งที่เรื่องดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องตลาดหุ้น และรับการยกเว้นการเข้ามาประกอบธุรกิจ ?โมนิก้า? ถึงไม่เชื่อว่าเรื่องดังกล่าวมีผลกระทบต่อตลาดหุ้นเต็มๆ

*เนื่องจากการแสดงความคิดเห็นแบบนั้น เหมือนไม่ได้ใช้สมองคิดก่อนจะพูดโมนิก้า ถึงยอมไม่ได้หากใครจะมาทำลายตลาดหุ้นอันเป็นที่รัก และพยายามบิดเบือนข่าวสารจากบวกมาเป็นลบ เพรืนปล่ยให้คนพวกนั้นพูดอะไรพล่อยๆ ออกมาอีก มีหวังตลาดหุ้นต้องพังพาบจนหลุดแนวรับสำคัญทางจิตวิทยาที่ 800 จุดนเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน

*สำหรับประเด็นที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดกลับเป็นเรื่อง ราคาหุ้นของตลาดหุ้นไทยดันแพงกว่าตลาดหุ้นเพื่อนบ้านอย่าง เกาหลี ใต้หวัน และจีน ซึ่งอาจเป็นฉนวนเหตุสำคัญี่ทำให้นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นแล้วหันไปถือเงินสดเพื่อรอลงทุนรอบใหม่ หลังราคาหุ้นบางกลุ่มบางตัวมีราคาแพงเกินไปเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นต่างประเทศนะจะบอกให้

*สถานการณ์เช่นนี้แหล่ะ! ที่ทำให้กองทุนในประเทศฉวจังหวะที่หุ้นขึ้นเทขายหุ้นเอากำไรมานอนกอดไว้ก่อน และพยายามหาทางนำเงินไปลงุนยังต่างประเทศให้ได้มากสุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเป็นการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนที่ดูดีสุดในยามนี้

*ประกอบกับตลาดหุ้นไทยขาดแคลนหุ้นขนาดใหญ่ตัวใหม่ๆ ที่จะเป็นแม่เหล็กดึงเงินลงทุนจากต่างประเทศ ก็เลยทำให้ความฝันที่จะได้เห็นมาร์เก็ตแคปแตะระดับ 7 ล้านล้านบาทต้องเลื่อนออกไปอย่างมีกำหนด เพราะตัวเลขผลประกอบการไตรมาส 2 ส่วนใหญ่ก็ออกมาไม่ดี แล้วจะถจูงใจให้นักลงทุนต่างชาติลงทุนในบ้านเรานานๆ ได้อย่างไรหล่ะจ๊ะ

*?โมนิก้า? ถึงอยากให้นักลงทุนเลี่ยงไปลงุนยังหุ้นขนาดกลาง และขนาดเล็กพื้นฐานดีเป็นการทดแทน เพราะเมื่อใดที่หุ้นขนาดใหญ่ไปต่อไม่ไหว เมื่อนั้นจะเป็นคราวของหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กวิ่งแทน เดี๊ยนถึงนิยมให้นักลงทุนเล่นตามภาวะตลาด หรือที่เรียกว่าriding the fluctuation ฆ่าเวลาไปพรางๆ

*สำหรับนักลงทุนที่ต้องการซื้อหุ้นบลูชิพเก็บไว้ในพอร์ต โมนิก้า คงคัดค้านอะไรทั้งสิ้น เพราะขนาดกองทุนยักษ์ใหญ่อย่าง กบข. ยังเอ่ยปากว่าช่วงนี้เข้ามาเก็บหุ้นครั้งละ 100 ล้านบาท เดี๊ยนก็คงเห็นดีเห็นงามด้วย และขอยกมือทั้ง 2 ข้างสนับสนุนเต็มที เพราะระยะยาวหุ้นบลูชิพยังไงก็ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กอยู่วันยันค่ำ

*KEST และ KGI หุ้นยอดนิยมของการเล่นสั้น ที่หลายฝ่ายมองว่าจะตัวปลุกกระแสการเก็งกำไรกลับมาคึกคักได้อีกครั้ง ทำท่าจะไปได้สวยในช่วงก่อนหน้านี้ ราคาหุ้นเริ่มไต่ระดับและแรงซื้อไหลกลับเข้ามาให้เป็นประปราย แต่พอเจอข่าวสารที่ไม่เป็นมงคลต่อการลงทุน และส่งผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจของประเทศ แรงซื้อเลยเปลี่ยนเป็นแรงเทายอย่างฉับพลัน ฉุดราคาหุ้นลงมาปิดที่ 23.10 บาท ลบไป 1 บาท และปิดที่ 2.78 บาท ลบไปบาท ตามลำดับ

*ไม่ได้พูดถึงหุ้นคุณหญิงอ้อนานแล้ว มาเห็นอีกที SC กลับเดินหน้าทำราคาต่ำสุดใหม่อย่างต่อเนื่องทั้งที่ราคาปิดก่อนหน้านี้ถือเป็นเป็นราคาต่ำสุดแล้ว แต่ยังคงมีราคาต่ำสุดใหม่ๆมาให้เห็นเป็นระยะ กลายเป็นราคาต่ำเรียดดิน และไม่ได้เป็นหุ้นยอดนิยมเหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว งานนี้จึงไม่ใช่มีแต่ นายหัวทักษิณ ชินวัตร ที่อยู่ในช่วงขาลงเพียงลำพัง หุ้นคุณหญิงอ้อก็อยู่ในช่วงขาลงบูรณาการ ก็เป็นเฉกเช่นเดียวกับ...ฝาละมี...เอิง...เงยยยยยยยย

* สงสัยการเจรจาประนอมหนี้ระหว่าง EWC และ SGF หาข้อสรุปที่สวยหรู และลงตัวไม่ได้ ราคาหุ้นถึงได้โซซัดโซเซจนดูไม่ได้ โดยเฉพาะในรายหลังของหุ้นแฟคตอริ่งที่คาดว่าจะกลับมาเหินฟ้าติดลมบนภายหลัจากตลาดหลักทรัพย์ฯ อนุญาติให้ซื้อขายอีกครั้ง แต่พอเดี๊ยนเงยห้ามองราคาหุ้นในกระดานที่รูดลงไปกว่า 17% หรืออ่อนตัวลงไปถึง 0.07 บาทก่อนจะมาปิดที่ 0.34 บาท ก็คงไม่มีความจำเป็นต้องชายตามองอีกต่อไป เพราะอนาคตของหุ้นตัวนี้มืดมนเหลือเกินเจ้าค่ะ

* ส่วนหุ้นเหล็กน้องใหม่ TYM อาศัยความสดใหม่ แถมราคาถุกเป็นยันตันราคาหุ้นหลุดราคาจอง 3 แบบนี้ โมนิก้า มองว่าคงยืนหยัดต้นแรงเทขายได้ไม่นาน เพราะสถานการณ์ของตลาดหุ้นไม่เป็นใจให้นักลงุนเข้าไล่ซ้อหุ้นเล็กเลยน้อย หากวนนี้ราคาหุ้นสามารถดีดตัวไปได้ ก็ขอให้รู้ว่าเกิดจากการเก็งกำไรสั้นๆ เพราะราคาปิดที่ 3.26 บาท เหนือราคาจอง 0.26 บาท ไม่ได้ประกันว่าแรงเทขายสะเด็ดน้ำแล้วนะซี *ก่อนจากกันขอย้ำกันอีกครั้งว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วง l สัปดาห์ที่ผ่านมาบอบช้ำจากเรื่องเป็นเรื่องหนักเหลือเกินโมนิก้า ถึงขอวิงวอนให้นักลงทุนใช้สติพิจารณาว่า การเทขายหุ้นทิ้งตามกระแสเป็นเรื่องที่เหมาะสมไหม???

*หากเห็นว่าเกิดจากเรื่องไม่เป็นเรื่อง น่าจะลองถือหุ้นยาวๆ เพราะตัวเลขที่ผ่านมาช่วง 2 เดือนฟ้องว่า หุ้นกลุ่มบลูชิพให้ผลตอบแทนไม่ต่ำกว่า 30% นะจะบอกให้


:lol:

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com