April 30, 2024   10:26:43 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > หุ้นเด่นเล่นสั้น
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 10/08/2007 @ 09:01:22
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

SET
เมื่อวานนี้ดัชนีมีความผันผวนอย่างมากโดยช่วงเช้าสามารถดีดตัวขึ้นได้ถึงระดับ 842 จุดที่ซึ่งเป็นบริเวณ gap ที่เปิดไว้ เพียงไม่นานภายหลังจากทดสอบแนวต้านนั้น ดัชนีปรับลดลงอย่างรุนแรงสู่ระดับ 811 จุดอีกทั้งยังเป็นการปรับลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 10 สัปดาห์อีกหน พร้อมด้วยแท่งเทียนรูปแบบ Bearish Engulfing ขณะเดียวกับที่สัญญาณ RSI เริ่มหักหัวลง องค์ประกอบต่างๆ นี้แสดงถึงความเสี่ยงระยะสั้นที่เพิ่มมากขึ้น การดีดกลับจะมีระยะทางไม่มาก กลับกันอาจจะปรับลงต่ำกว่าจุดต่ำครั้งก่อนที่ 805 จุด ทั้งนี้โอกาสจะลงไปสร้างฐานบริเวณ Down Trend Line เดิมช่วง 780-790 จุดค่อนข้างสูง

มุมมองระยะกลาง - MAKRO
กลยุทธ์การลงทุน: ซื้อ
หากพิจารณาถึงแนวโน้มระยะยาวของ MAKRO นั้น จะพบว่าแนวโน้มขาขึ้นเริ่มต้นเมื่อราคาฝ่าเส้นค่าเฉลี่ย 200 สัปดาห์ บริเวณ 40.00 บาท เมื่อ พ.ค. 46 ทั้งนี้นับแต่นั้นมา ทุกครั้งที่เกิดการปรับฐานใหญ่ เส้นค่าเฉลี่ย 25 สัปดาห์จะทำหน้าที่แนวรับอย่างมีนัยสำคัญ เช่นเดียวกับการปรับฐานที่เกิดขึ้น เมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่านมา MAKRO ยืนเหนือเส้นแนวรับนี้อย่างมั่นคง สำหรับระยะสั้น MAKRO อาจเข้าสู่ภาวะสร้างฐานโดยแกว่งตัวในกรอบ 75.00-85.00 บาท ก่อนที่จะดีดตัวทดสอบจุดสูงสุดเดิมบริเวณ 100.00 บาทในระยะกลาง

หุ้นเด่น เล่นสั้น - GENCO
กลยุทธ์การลงทุน: ซื้อ
จากกราฟรายสัปดาห์ ราคามีรูปแบบการกลับตัว (Reversal pattern) ยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 สัปดาห์ พร้อมกับการสะสมกำลังมาระยะหนึ่ง เพื่อรอการ break up ของราคา นอกจากนั้น ยังมีสัญญาณซื้อจาก RSI & Stochastic อีกด้วย ดังนั้น ในระยะกลาง มีโอกาสที่หุ้นจะขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 0.90-0.95 บาท ตามลำดับ อีกทั้งยังเป็นกรอบแนวต้านตาม neckline อีกด้วย จึงแนะนำ "ซื้อ" โดยให้แนวรับที่ 0.75-0.80 บาท สำหรับจุด Stop loss อยู่ที่ 0.73 บาท เมื่อหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน

หุ้นเด่น เล่นสั้น - RASA
กลยุทธ์การลงทุน: ซื้อ
พิจารณาจากกราฟรายวันมี Golden Cross เกิดขึ้นพร้อมกับรูปแบบ Continuation pattern ในขาขึ้นอย่างชัดเจน เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วัน นอกจากนั้น ยังมีสัญญาณซื้อจาก RSI & Stochastic ดังนั้น ในระยะกลาง มีโอกาสที่หุ้นจะขึ้นไปทดสอบเป้าหมายที่ 11.00-11.30 บาท อีกทั้งยังเป็นกรอบแนวต้านตาม Fibonacci@161.8 อีกด้วย จึงแนะนำ "ซื้อ" โดยให้แนวรับที่ 9.50-9.80 บาท สำหรับจุด Stop loss อยู่ที่ 9.30 บาท เมื่อหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน



:lol:

 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#1 วันที่: 10/08/2007 @ 12:51:19 :
TICON: กำไรจะฟื้นตัวโดดเด่นที่สุดในไตรมาส 4/50 - ซื้อ

เติบโตต่อเนื่อง ปรับคำแนะนำเป็นซื้อ
แนวโน้มกำไรในครึ่งปีหลังจะเติบโตต่อเนื่องทั้งจากรายได้จากการให้เช่าตามความต้องการโรงงานให้เช่าและยังมีกำไรจากการขายเงินลงทุนและสินทรัพย์ การที่ราคาหุ้นปรับตัวลงตามภาวะตลาด จนปัจจุบันให้ Upside 14% และผลตอบแทนปันผล 6.3% เพิ่มความน่าสนใจการลงทุน เราจึงปรับคำแนะนำเป็นซื้อ โดยยังคงราคาตามปัจจัยพื้นฐานปี 51 ที่ 21.7 บาท (Sum of the Parts Valuation)

กำไรไตรมาส 2/50 เติบโต 3% จากไตรมาสก่อน
TICON มีกำไร 85 ล้านบาทในไตรมาส 2/50 เติบโต 3% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนเนื่องจากรายได้จากการให้เช่าโรงงานเพิ่มขึ้น 5% และอัตรากำไรจากการขายโรงงานให้ลูกค้า 3 โรงดีขึ้นกว่าไตรมาสก่อน หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไรลดลง 87% เพราะไม่มีกำไรจากการขายโรงงานให้ TFUND เช่นปีก่อน

คาดผลประกอบการจะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง
เราคาดว่าแนวโน้มความต้องการโรงงานให้เช่ายังเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกนับจากต้นปีพื้นที่ให้เช่าโรงงานบริษัทเติบโตถึง 16.4% โดยเฉพาะจากกลุ่มลูกค้าโลจิสติกส์ นอกจากนี้ในไตรมาส 3/50 บริษัทจะมีการบันทึกกำไรจากการขาย TFUND ให้ GE Real Estate Investment Holdings จำนวน 70 ล้านบาท และในไตรมาส 4/50 จะมีกำไรจากการขายโรงงาน 50 แห่งให้ TFUND ซึ่งจะทำให้บริษัทกำไรประมาณ 840 ล้านบาท (ก่อนภาษี) ทำให้กำไรจะเติบโตต่อเนื่องและสูงสุดในไตรมาส 4/50

ยังคงประมาณการกำไร
คาดว่าปี 50 กำไรบริษัทจะเติบโต 9% เป็น 950 ล้านบาท ตามการเติบโตของรายได้ค่าเช่าและกำไรจากการขายโรงงานให้ลูกค้าและ TFUND แต่กำไรจะลดลง 9% ในปี 51 เนื่องจากเราประมาณการอย่างอนุรักษ์นิยมว่าบริษัทมีการขายโรงงานให้ลูกค้าลดลงและมีกำไรจากการขายเงินลงทุนลดลง

:lol:
 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#2 วันที่: 10/08/2007 @ 12:52:26 :
SCCC: ไตรมาส 2/50 กำไรสุทธิ 945 ล้านบาท - ตามคาด - ขาย

ราคาหุ้นเต็มมูลค่าแล้ว"
ณ ราคาหุ้นปัจจุบัน SCCC ซื้อขายที่ PER ปี 51สูงถึง 18 เท่า และเกือบเต็มมูลค่าพื้นฐานปี 51 ที่เราประเมินไว้ที่ 288 บาท (DCF, WACC 10.7%) จึงคงคำแนะนำขาย

ไตรมาส 2/50 กำไรสุทธิ 945 ล้านบาท - ตามคาด
SCCC มีกำไรสุทธิ 945ล้านบาท ลด 17% จากไตรมาสก่อน เพราะอัตรากำไรที่ลดจาก 35% ในไตรมาสก่อนเป็น 29% จากต้นทุนพลังงานที่เพิ่ม ส่วนยอดขายลดลงตามฤดูกาล เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนกำไรลดลง 9% เพราะอัตรากำไรลด และยอดขายปูนซีเมนต์ลดลงตามตลาดในประเทศที่ชะลอตัว ทำให้ยอดขายรวมลดลง 5%

ฐานะการเงินแข็งแกร่ง - จ่ายปันผลระหว่างกาล 6.5 บาท/หุ้น
ณ สิ้นไตรมาส 2/50 บริษัทมีฐานะเงินสดสุทธิ ด้วยภาระหนี้สินที่ต่ำเพียง 339 ล้านบาท บริษัทจ่ายปันผล 6.5 บาท/หุ้น สำหรับกำไรในครึ่งแรกปี 50 คิดเป็นอัตราเงินปันผลจ่าย 74% ของกำไร กำหนด XD วันที่ 21 ส.ค. 50 ณ ราคาหุ้นปัจจุบันให้อัตราปันผลตอบแทน 2.4%

คงประมาณการกำไรปี 50 ที่ 3.84 พันล้านบาท ทรงตัวจากปีก่อนหน้า
ยอดขายและกำไรในครึ่งแรกปี 50 คิดเป็น 50% และ 54% ของประมาณการทั้งปี 50 ที่เราคาดยอดขายไว้ที่ 23.3 พันล้านบาท และ 3.84 พันล้านบาท ตามลำดับ (คาดกำไรปี 50 ทรงตัวจากปีก่อนหน้า เพราะเราคาดว่าอัตรากำไรจากการดำเนินงานที่เป็นเงินสด (EBITDA margin) จะลดจาก 25.6% ในปี 49 เป็น 25% ในปี 50 จากราคาส่งออกที่มีแนวโน้มลดลงตามการชะลอตัวของตลาดสหรัฐฯและต้นทุนพลังงานที่ทรงตัวสูง) ดังนั้นจึงคงประมาณการเดิม


:lol:
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com