May 18, 2024   2:45:16 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ภาวะตลาดหุ้นรายวัน
 

Toon
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 973
วันที่: 08/08/2007 @ 10:38:03
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

Daily Trading Strategy
Fundamental View Technical Rebound
Technical View Sideway up 810-825
Futures Market Trading long

ซื้อสะสม KBANK / BAY / PS / AP / TSTH / TASCO
ลดพอร์ต -
เก็งกำไร HANA / CCET / KCE / SPPT / PLE

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้
SCIBS มีความเห็นเป็น Neutral ต่อการลงทุนในวันนี้ แม้ว่าวานนี้ตลาดหุ้นไทยจะแกว่งตัวค่อนข้างมากก็ตาม แต่ด้วยทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลกที่ยังฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะดาวโจนส์ที่ปิดบวกอีก 35 จุด คืนวานนี้ หลังเฟดประกาศยืนอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.25% โดยทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงเติบโตในระดับปานกลาง แม้ว่าจะมีปัญหาด้านอสังหาริมทรัพย์ก็ตาม กอปรกับค่าเงินเยน/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลงเล็กน้อย ทำให้ความกังวลเกี่ยวกับ Carry Trade ลดลง และส่งผลให้เช้านี้ค่าเงินบาท/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าสุดในภูมิภาค 0.75% สำหรับปัจจัยภายในประเทศ แม้ว่านักลงทุนต่างชาติวานนี้จะยังขายสุทธิต่อเนื่องอีก 2,608 ล้านบาทก็ตาม แต่หากพิจารณาตลาด Future เริ่มส่งสัญญาณ Bottom แล้ว จะเห็นได้จากนักลงทุนต่างชาติปิดสถานะ Short Position ไป 164 สัญญาวานี้ และ S50U07 ปิดบวก 4 จุด สวนทางกับ SET50 ที่ลดลง 1.25 จุด ดังนั้น กลยุทธ์ในวันนี้ SCIBS แนะนำ ?ซื้อสะสม? หุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มธนาคารพาณิชย์, กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่ราคาอ่อนตัวลงมามากในช่วงก่อน เช่น KBANK / BAY / PS / AP / TSTH / TASCO เป็นต้น และ ?ซื้อเก็งกำไร? หุ้นกลุ่มส่งออกที่ได้รับผลบวกจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง เช่น HANA / CCET / SPPT / KCE เป็นต้น และ PLE ที่มีประเด็นได้งานใหม่มูลค่า 5.5 พันล้านบาท

ประเด็นสำคัญวันนี้
- คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบข้อเสนอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2551 เพิ่มขึ้น 12,234 ล้านบาท จากที่ขอ 70,489 ล้านบาท โดยกระทรวงคมนาคมได้เพิ่มเติม 1.2 พันล้านบาท กระทรวงมหาดไทย 1.4 พันล้านบาท กระทรวงศึกษาธิการ 2.0 พันล้านบาท รัฐวิสาหกิจต่างๆ 2,448 ล้านบาท
- ธนาคารแห่งประเทศไทย ยืนยันว่านักลงทุนต่างชาติที่ขายหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่อง จะยังไม่ได้นำเงินออกนอกประเทศ โดยนักลงทุนต่างชาติมีทางเลือกที่จะนำเงินมาพักให้ในบัญชีเงินบาทของนอนเรสิเดนท์ที่ใช้ลงทุนในหลักทรัพย์เฉพาะ (SNS) เพื่อรอจังหวะการลงทุนใหม่ได้
- รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานอัลจีเรีย สมาชิกโอเปก ได้ออกมาระบุว่า ยังไม่มีความจำเป็นที่โอเปกต้องเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในขณะนี้ ทั้งนี้ราคาน้ำมันอยู่ในระดับสูงไม่ได้เกิดจากการขาดแคลนอุปทานน้ำมันดิบ

ปัจจัยด้านอุตสาหกรรม
กลุ่มยานยนต์
ประเด็น : Toyota รายงานตัวเลขยอดขายรถยนต์ในประเทศเดือน กรกฎาคม 2550 เพิ่มขึ้น 1.3% เป็น 51,300 คัน แต่เมื่อรวมยอดขายใน 7 เดือนแรกแล้วพบว่ามียอดขายในประเทศลดลง 10% เป็น 343,814 คัน
ความเห็นและคำแนะนำ : แม้ภาพรวมการขายรถยนต์ในช่วง 7 เดือนแรกจะปรับลดลง อย่างไรก็ตาม SCIBS มีความเห็นในเชิงบวกมากขึ้น เพราะเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว ดังเห็นได้จากตัวเลขยอดขายในเดือน ก.ค. 2550 ที่ปรับขึ้น 1.3% และคาดจะเริ่มปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง เพราะในช่วงครึ่งหลังของปีเป็นช่วงฤดูการขายและจะมีรถรุ่นใหม่ๆเข้าสู่ตาลาดมากขึ้น อาทิ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ แบบขับเคลื่อน 2 ล้อ หรือ ฮอนด้า แอคคอร์ โฉมใหม่ ประกอบกับการส่งออกรถยนต์ยังดีสม่ำเสมอ ทำให้ SCIBS คาดการผลิตรถยนต์ปี 2550 จะทำได้ 1.19 ล้านคัน ต่ำกว่าที่อุตสาหกรรมคาดการณ์เล็กน้อยที่ 1.28 ล้านคัน

หุ้นเด่น...ประจำวัน
HANA SCIBS ประเมินผลการดำเนินงานของ HANA ใน Q1/50 จะเป็นไตรมาสที่ต่ำสุดในรอบปี แม้ว่าใน Q2 ปกติจะเป็น Low Season แต่ในปีนี้ เชื่อว่ากำไรจากการดำเนินงานปกติเติบโต 16% qoq เป็น 311 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิที่ 417 ล้านบาทใน Q2/50 เนื่องจากคำสั่งซื้อใน IC Packaging เริ่มฟื้นตัวอย่างมีนัยยะสำคัญตั้งแต่เดือนพ.ค.2550 ที่ผ่านมา นอกจากนี้ใน 2H จะเป็นช่วง High Season ของธุรกิจ ซึ่งเชื่อว่าปริมาณคำสั่งซื้อทั้ง IC Packaging และ PCBA จะยังหนาแน่นต่อเนื่อง SCIBS แนะนำ ?ซื้อ? ราคาเหมาะสม 31.43 บาท (PEG 13.29x, Re 11.86%, G 7.75%)

DERIVATIVE MARKET Trading long
ปัจจัยที่มีอิทธิพล :
- ตลาดหุ้นทั่วโลกฟื้นตัวต่อเนื่อง
- Basis แคบลงเหลือ 5 จุด จากวันก่อนหน้า 12 จุด
- กลยุทธ์การลงทุน : แนะเปิด long ใน S50U07 แบบเก็งกำไรระยะสั้นที่ 574-577 จุด และปิดทำกำไรที่ 582-585 จุด
- กรอบการเคลื่อนไหว SET50: เคลื่อนไหวในกรอบ 576-592
- S50U07 ระหว่าง 570-585
- Turning point : S50U07 < 570 ปิด long เปิด short แทน

TECHNICAL UPDATE Sideway up 810-825
- SCIBS คาดว่าดัชนีตลาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ 810-825 จุด
- สัญญาณทางเทคนิคฯ เมื่อวานแสดงสัญญาณการลงเริ่มชะลอตัว และมีการทดสอบ 806 จุดตามแนวรับที่ให้ไว้ จนกระทั่งได้เกิดสัญญาณฟื้นตัวบางส่วน คาดว่าจะเกิด technical rebound ในวันนี้ ทิศทางตลาดในวันนี้น่าจะเริ่มเคลื่อนไหวในลักษณะ sideway up แล้ว เกิดสัญญาณซื้อเก็งกำไรหุ้นขนาดใหญ่ หลังจากราคาอยู่ใน oversold โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน
- SCIBS แนะนำ ?ซื้อเก็งกำไร? เช่น PTT / PTTEP / TOP

Sector Comment
BANKINGSECTOR นักลงทุนทั่วโลกกังวลต่อการลงทุนใน CDO ของสถาบันการเงิน ขณะที่ BT รับมีการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศที่มีสินทรัพย์อ้างอิง ( Collateralized Debt Obligation : CDO ) จำนวน 1.4 หมื่นล้านบาท
ความเห็นนักวิเคราะห์ SCIBS คาดผลกระทบจากการลงทุนใน CDO จะเป็นการกระทบต่อผลการดำเนินงานของธนาคารในต่างประเทศอย่าง สหรัฐ ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ ขณะที่คาดผลกระทบต่อธนาคารในประเทศไทยจะไม่มากนักและเป็นการกระทบในบ้างธนาคารเท่านั้นอย่าง BT ที่มีการลงทุนใน CDO 14 ชนิดมูลค่าลงทุน 1.4 หมื่นล้านบาทหรือ 6.48% ของสินทรัพย์รวมโดยมีอายุเฉลี่ยการลงทุน 5-7 ปี และมีผลตอบแทนเฉลี่ยสูงกว่า 9% ทั้งนี้เม็ดลงทุนประมาณ 50 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 1.7 พันล้านบาทหรือประมาณ 0.7% ของสินทรัพย์ทั้งหมดเป็นการลงทุนในตลาดปล่อยกู้ลูกหนี้ที่ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน ( Sub Prime ) ในสหรัฐอเมริกาและทำให้ธนาคารต้องมีการตั้งสำรองเพิ่ม 276 ล้านบาทเพื่อรองรับความเสี่ยงดังกล่าวและกระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้ ขณะที่ทาง SCB และ BBL ได้เผยว่าไม่ได้มีการลงทุนใน CDO ส่วน KTB มีการลงทุนใน CDO แต่เป็นจำนวนไม่มากนัก ทั้งนี้การลงทุนของธนาคารไทยส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในพันธบัตรหรือสินทรัพย์ในรูปแบบอื่นและเป็นการลงทุนในประเทศมากกว่าในต่างประเทศ จึงทำให้คาดว่าผลกระทบจาก CDO จะกระทบต่อธนาคารไทยไม่มากนักและไม่มีผลอย่างมีนัยยะสำคัญต่อผลการดำเนินงานของธนาคาร
คำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐาน : SCIBS ยังคงแนะนำ ซื้อ BAY โดยราคาเหมาะสมที่ระดับ 31.22 บาท โดยใช้ PBV08F ที่ 2x และ BBL ที่ 156.33 โดยใช้ PBV08F ที่ 1.7x KBANK ราคาเหมาะสมที่ 96.20 บาทโดยใช้ PBV08F ที่ 2.1x และ KTB ที่ 15.98 บาทโดยใช้ PBV08F ที่ 1.6x และแนะนำขาย SCB และ TMB

Stock Comment
PS ผลประกอบการ Q2/50 เติบโตตามคาดโดยรายได้เติบโต 4.9% yoy และ 18.1% qoq
ความเห็นนักวิเคราะห์ :
- PS รายงานผลประกอบการใน Q2/50 โดยมีรายได้เท่ากับ 2,231 ล้านบาทใกล้เคียงกับที่ SCIBS ประมาณการไว้ที่ 2,240 ล้านบาทโดยเป็นอัตราการเติบโต 4.9% yoy และ 18.1% qoq โดยเป็นสัดส่วนรายได้ที่มาจากโครงการทาวน์เฮาส์ 58% และบ้านเดี่ยว 42%
- จากการเปิดขายโครงการใหม่ใน Q2/50 โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียม IVY รัชดา และต่อเนื่องถึง IVY River ส่งผลให้ PS มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่สูงขึ้นเท่ากับ 352 ล้านบาทสูงขึ้น 45.2% yoy และ 20.6% qoq
- อย่างไรก็ตามอัตราการทำกำไรขั้นต้นของ PS ใน Q2/50 ยังคงแข็งแกร่งที่ระดับ 34.2% เปรียบเทียบกับ 31.5% ใน Q2/49 และ 34.5% ใน Q1/50
- กำไรสุทธิใน Q2/50 เท่ากับ 323 ล้านบาทใกล้เคียงกับที่ SCIBS ประมาณการไว้ที่ 336 ล้านบาทซึ่งเป็นอัตราการเติบโต 10.3% qoq แต่ลดลง 7.3% yoy

คำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐาน :
- SCIBS ยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกต่อ PS โดยจากความแข็งแกร่งของบริษัทและสินค้าที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค ส่งผลให้คาดว่าใน Q3/50 PS อาจจะมี New High Presale และ ณ สิ้นเดือน มิ.ย. 2550 PS มี Backlog ที่รอรับรู้เป็นรายได้กว่า 4,755 ล้านบาทโดยเป็นโครงการแนวราบที่จะรับรู้รายได้ในปีนี้เท่ากับ 3,978 ล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็น Backlog ที่เกิดจากโครงการคอนโดมิเนียม 777 ล้านบาทที่จะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2551 ? 2552
- SCIBS คาดในปี 2550 PS จะสามารถเติบโตอย่างแข็งแกร่งโดยมีรายได้เท่ากับ 9,147 ล้านบาทเติบโต 12.2% yoy และกำไรสุทธิเติบโตสูงถึง 18.7% yoy หรือเท่ากับ 1,547 ล้านบาท
- SCIBS ประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของ PS ด้วยวิธี PEG อิงกับ Theoretical PER ที่ 15 เท่าได้มูลค่าเหมาะสมปี 2550 ที่ 10.20 บาทต่อหุ้นและให้คำแนะนำ ?ซื้อ?
มุมมองทางเทคนิค : PS ราคาหุ้นมีแนวโน้มเป็น sideway เคลื่อนไหวในกรอบ แนะนำ wait and see แนวรับ 7.75 บาท แนวต้าน 8.05 บาท

SAA Consensus :
Net profit (Bt m) EPS (Bt) PE DIV (%) Target price Total Brokers
2007F 2008F 2007F 2008F 2007F 2007F
Average 1,490 1,714 0.68 0.78 11.56 2.97 7.75 21
Source : www.settrade.com

ตารางประมาณการผลประกอบการของ PS
Year ? End Dec 31 2005 2006 2007F 2008F 2009F
Sales (Bt m) 7,621 8,181 9,176 10,340 12,254
Gross Profit (Bt m) 2,648 2,633 3,030 3,423 4,044
EBITDA (Bt m) 1,818 1,725 1,877 2,103 2,506
EBITDA (%chg) 52% -5% 9% 12% 19%
Normalized Profit (Bt m) 1272 1303 1547 1787 2157
Net Profit (Bt m) 1,272 1,303 1,547 1,787 2,157
EPS (Bt) 0.34 0.6 0.68 0.79 0.95
EPS (%chg) -8% 78% 13% 15% 21%
DPS (Bt) 0.18 0.2 0.24 0.28 0.33
Dividend Yield (%) 2.30% 2.50% 3.00% 3.50% 4.20%
BVPS (Bt) 2.95 3.38 3.68 4.22 4.88
P/E (x) 23.09 13 11.52 9.97 8.27
P/BV (x) 2.66 2.33 2.14 1.86 1.61
Source: Company Report, SCIBS Research

SPALI ผลประกอบการ Q2/50 รายได้เติบโต 34.6% yoy แต่ลดลง 13.4% qoq
ความเห็นนักวิเคราะห์ :
- SPALI รายงานรายได้ใน Q2/50 เท่ากับ 1,273 ล้านบาทต่ำกว่าที่ SCIBS ประมาณการไว้ที่ 1,362 ล้านบาทโดยสะท้อนอัตราการเติบโต 34.6% yoy แต่ลดลง 13.4% นอกจากนี้อัตราการทำกำไรขั้นต้นตรงกับที่ SCIBS ประมาณการไว้ที่ 39.3% เนื่องจากการรับรู้รายได้และโอนกรรมสิทธิ์ของโครงการคอนโดมิเนียม City Home ที่เป็นโครงการที่อัตราการทำกำไรขั้นต้นเพียง 35% ซึ่งระดับอัตราการทำกำไรขั้นต้นใน Q2/50 ใกล้เคียงกับ Q1/50 ที่ 39.5%
- กำไรสุทธิใน Q2/50 ของ SPALI เป็นอัตราการเติบโต 30.4% yoy ลดลง 12.3% qoq เท่ากับ 221 ล้านบาทต่ำกว่าที่ SCIBS ประมาณการที่ 240 ล้านบาทเนื่องจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ระดับ 12.9% สูงกว่าประมาณการของ SCIBS ที่ระดับ 12%

คำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐาน :
- SCIBS คาดว่า SPALI จะสามารถเติบโตต่อเนื่องสนับสนุนด้วยจำนวน Backlog ที่มีอยู่ในมือที่หลังจากหักลบรายได้ที่เกิดจากความสมบูรณ์ของการก่อสร้างแล้วเท่ากับ 7,300 ล้านบาทโดยมูลค่า Backlog กว่า 2,000 ล้านบาทจะรับรู้ใน 2H/50 1,300 ล้านบาทจะรับรู้ในปี 2551 ส่วนที่เหลืออีก 4,000 ล้านบาทจะรับรู้ในปี 2552
- SCIBS จึงคงประมาณการและคาดว่าในปี 2550 SPALI จะมีรายได้เติบโต 11% yoy เท่ากับ 5,116 ล้านบาท และกำไรสุทธิเติบโต 5% yoy เท่ากับ 928 ล้านบาท
- จากการประเมินมูลค่าที่เหมาะสมโดยวิธี PEG ที่ 10 เท่าได้ราคาที่เหมาะสมเท่ากับ 5.45 บาทต่อหุ้น และ SCIBS ยังคงแนะนำ ?ซื้อ?
มุมมองทางเทคนิค : SPALI ราคาหุ้นมีแนวโน้มปรับลงทดสอบแนวรับ แนะนำ รอซื้อที่แนวรับ แนวรับ 3.62 บาท แนวต้าน 3.84 บาท

SAA Consensus :
Net profit (Bt m) EPS (Bt) PE DIV (%) Target price Total Brokers
2007F 2008F 2007F 2008F 2007F 2007F
Average 926 968 0.56 0.58 6.75 6.89 4.58 21
Source : www.settrade.com

ตารางประมาณการผลประกอบการของ SPALI
Year ? End Dec 31 2005 2006 2007F 2008F 2009F
Sales (Bt m) 3,441 4,598 5,116 5,372 5,641
Gross Profit (Bt m) 986 1,342 1,429 1,487 1,575
EBITDA (Bt m) 1,007 1,380 1,476 1,533 1,621
EBITDA (%chg) 95% 37% 7% 6% 0%
Normalized Profit (Bt m) 795 880 928 1,019 1,082
Net Profit (Bt m) 830 880 928 1,019 1,082
EPS (Bt) 0.7 0.56 0.54 0.59 0.62
EPS (%chg) 53% -19% -4% 10% 6%
DPS (Bt) 0.25 0.25 0.24 0.26 0.28
Dividend Yield (%) 6.70% 6.70% 6.40% 7.00% 7.50%
BVPS (Bt) 2.14 2.58 2.63 2.96 3.3
P/E (x) 5.41 6.71 7.02 6.4 6.02
P/BV (x) 1.76 1.46 1.43 1.27 1.14
Source: Company Report, SCIBS Research

STEC การรถไฟฯ เตรียมเร่งพิจารณาขยายเวลาให้เสร็จ 16 ส.ค.นี้ก่อนเดินหน้าเจรจาหาแหล่งเงินกู้โครงการแอร์พอร์ตเรลลิงค์ หลังแบงก์ไม่ขยายเวลาปล่อยกู้ (ข่าวหุ้น)
ความเห็นนักวิเคราะห์ : SCIBS ประเมินการก่อสร้างโครงการ Airport Rail Link (ARL) จะสามารถดำเนินต่อไปได้ แม้ปัจจุบันธนาคารผู้ให้กู้ในโครงการ ระบุจะจ่ายเงินงวดสุดท้ายแค่เดือนตุลาคม 2550 และจะไม่ให้เกินกู้เพิ่มเติม แต่คาดรัฐบาลพร้อมที่จะสนับสนุนเพื่อให้โครงการ ARL ไม่เกินการหยุดชะงัก ดังเช่นเคยเกิดขึ้นกับโครงการโฮบเวลล์ในอดีต สำหรับทางแก้ไข อาจทำให้โดย 1) การพิจารณาให้มีการขยายระยะเวลาส่งมอบงานออกไป จากเดิมที่มีกำหนดการส่งมอบงานในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2550 (ระยะเวลาก่อสร้างตามสัญญา 990 วัน เริ่มจากวันก่อสร้าง 21 กุมภาพันธุ์ 2548) 2) รัฐบาลจัดหาแหล่งเงินกู้ใหม่ ซึ่งอาจมีความเป็นไปได้ที่ ร.ฟ.ท อาจทำการของตราสารทางการเงิน โดยมีรัฐบาลเป็นผู้ค้ำประกัน หรือ ให้ธนาคารของรัฐบาลเป็นผู้ให้กู้แทนภาคเอกชน
คำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐาน: ประเด็นข่าวดังกล่าว อาจส่งผลกระทบในเชิงลบต่อราคาหุ้นของ STEC ในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม SCIBS ประเมินว่า โครงสร้างของธุรกิจที่ยังมีความแข็งแกร่ง และมีความพร้อมที่จะประมูลงานเพิ่มเติมทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานปิโตรเคมีและงานโรงไฟฟ้าที่เตรียมเปิดประมูลช่วงปลายปี 2550 จะทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทขยายตัวเพิ่มขึ้น ดังนั้น SCIBS ยังแนะนำ ?ซื้อลงทุนระยะยาว? โดยมีราคาเหมาะสมในปี 2550 เท่ากับ 8 บาท/หุ้น
มุมมองทางเทคนิค : STEC ราคาหุ้นมีแนวโน้มปรับขึ้น หลังจากผ่านเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันขึ้นมา แนะนำ ซื้อเก็งกำไรระยะสั้น แนวรับ 6.05 บาท แนวต้าน 6.65 บาท

SAA Consensus :
Net profit (Bt m) EPS (Bt) PE DIV (%) Target price Total Brokers
2007F 2008F 2007F 2008F 2007F 2007F
Average 345 495 0.28 0.39 22.08 1.84 6.50 21
Source : www.settrade.com

ตารางประมาณการผลประกอบการของ STEC
Year ? End Dec 31 2005 2006 2007F 2008F 2009F
Sales (Bt m) 13,111 14,707 16,673 18,838 21,400
Gross Profit (Bt m) 749 -1,507 675 889 1,102
EBITDA (Bt m) 785 -1,289 855 1,054 1,262
EBITDA (%chg) 173.96 n.m. n.m. 23.36 19.71
Normalized Profit (Bt m) 475 -1785 270 488 679
Net Profit (Bt m) 473 -1780 270 488 679
EPS (Bt) 0.46 -1.51 0.21 0.36 0.5
EPS (%chg) 279.27 n.m. n.m. 69.6 39.12
DPS (Bt) 0.27 0 0.11 0.18 0.25
Dividend Yield (%) 4.32 0 1.73 2.94 4.09
BVPS (Bt) 3.9 3.22 3.76 4.3 4.63
P/E (x) 13.33 -4.07 28.86 17.02 12.23
P/BV (x) 1.58 1.91 1.64 1.43 1.33
Source: Company Report, SCIBS Research[/size:edfa44afd8">[/color:edfa44afd8">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com