May 18, 2024   3:03:00 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > Merged Co.(ATC + RRC) มูลค่ากิจการเพิ่มขึ้นปี 2552
 

????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238
วันที่: 04/08/2007 @ 20:36:06
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

การควบรวมกิจการของ ATC และ RRC เป็น Merged Co.(รอตั้งชื่อเพื่อความเหมาะสมต่อไป) แน่นอนในด้านการดำเนินงานแล้ว เป็นผลบวกต่อบริษัทที่ควบรวม รวมทั้ง ปตท. ที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ด้วย ที่จะจัดการบริหารบริษัทในสายโรงกลั่นและปิโตรเคมีในสายอะโรเมติกส์ และที่เกี่ยวข้องได้ชัดเจนขึ้น Merged Co.จะเป็นบริษัทที่มีความแข็งแกร่ง และเสริมสร้างความได้เปรียบทางด้านต้นทุน รวมทั้งเพิ่มมูลค่าในสายธุรกิจโรงกลั่นที่มีความเชื่อมโยงกับอะโรเมติกส์ และผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง



บริษัทประเมินประโยชน์จากการเพิ่มมูลค่า (Synergy benefits) ไว้สูงถึง 169-348 ล้านเหรียญสหรัฐ/ปี (ดูตารางในหน้าถัดไป) โดยจะมีการลงทุนเพิ่ม 365 ล้านเหรียญ หรือมีระยะเวลาคืนทุนราว 1-2 ปี โดยโครงการ Synergy ดังกล่าวจะเกิดขึ้นเมื่อ Aromatic II เดินเครื่อง (โดยจะเริ่มรับรู้ตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นไป) และถือเป็นส่วนเพิ่มจากการร่วมงาน ไม่ได้เป็นส่วนที่ร่วมกันเดินตามแผนก่อนหน้านี้ นอกเหนือจากการ Synergy แล้ว บริษัทจะมีความยืดหยุ่นในการผลิตมากขึ้น เพื่อมุ่งไปสู่ระดับมาร์จินที่ดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นโรงกลั่นหรืออะโรเมติกส์ และยังจะเป็นการลดความเสี่ยงจากความผันผวนของวงจรผลิตภัณฑ์ได้

บริษัทจะมีการประหยัดต้นทุนต่อขนาด (Economies of scale) หลังกำลังผลิตจะเพิ่มขึ้นมาก หลังการควบรวมและการขยายกิจการ โดยโรงกลั่นจะเพิ่มเป็น 280 kbd เป็นอันดับ 1 ของประเทศ ขณะที่อะโรเมติกส์กำลังการผลิตก็เพิ่มจาก 1,185 พันตัน/ปี เป็น 2,228 พันตัน/ปี เป็นอันดับ 1 ของประเทศ และอันดับ 5 ในเอเชีย

ด้านศักยภาพการทำกำไรในอนาคตของ Merged Co. จะมีการเติบโตที่มีเสถียรภาพกว่างบการเงินที่แยกกันของ ATC กับ RRC โดยถ้าเรามองธุรกิจโรงกลั่น อาจกระทบจากค่าการกลั่นที่ชะลอลงในช่วงข้างหน้า ก็จะได้ธุรกิจปิโตรเคมีเข้ามาสนับสนุน ทำให้การทำกำไรของ Merged Co. ดูความผันผวนจะต่ำกว่า ส่วนกำไรที่เรามองในอนาคต จะเห็นการเติบโตมากขึ้นในช่วงปี 2009 หลังโครงการ Aromatics II ดำเนินการ และบริษัทเริ่มได้รับประโยชน์จากการ Synergy ด้วย

ส่วนราคาหุ้นที่ PTT จะรับซื้อแก่นักลงทุนรายย่อยกรณีที่ไม่เห็นด้วยในการควบรวม กำหนดของ ATC ที่ไม่เกิน 65 บาท และ RRC ไม่เกิน 22 บาท กรณีที่ราคาปิดวันที่ 12 กันยายน 2550 ต่ำกว่า PTT ก็จะใช้ราคาที่ปิดวันที่ 12 กันยายนนั้น เป็นราคารับซื้อ

แม้ระยะเวลากว่าจะควบรวมกันได้จริงอาจจะอยู่ในช่วงปลายปี แต่หลังจากที่มีการกำหนดสัดส่วนการแลกหุ้นแล้ว ราคาหุ้นทั้ง 2 ตัวก็ควรจะมีการปรับไปในทิศทางเดียวกัน ถ้าหากวันใดปรับไปคนละทาง ให้ขายตัวแพง และซื้อตัวถูกกว่า

มูลค่าหุ้นของ Merged Co. เราจะยังไม่ใช้วิธี DFCF มาประเมิน เพราะจะขึ้นกับตัวแปรและสมมติฐานอีกค่อนข้างมาก แต่ถ้าเราดูระดับ P/E ที่เราประเมินสำหรับ Merged Co. โดยใช้ราคาแปลงจากราคาปิดของ ATC เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้ราคา Merged Co. ที่ 49.2 บาท ซึ่งทำให้อัตราส่วน P/E จากกำไรต่อหุ้นที่เราคาด อยู่ในระดับเพียง 8 เท่า สำหรับปี 2550 และ 7.2 เท่าสำหรับปี 2551 ซึ่งต่ำกว่าระดับ P/E ที่เปรียบเทียบไม่ว่าจะเป็นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีของไทย ที่ 10-11 เท่า รวมทั้งเทียบกับบริษัทในภูมิภาคระดับ P/E ก็จะอยู่ที่ราว 10-11 เท่า เช่นกัน ซึ่งถ้าหากเราสมมติให้ P/E 9-10 เท่า สำหรับ Merged Co. ก็จะได้มูลค่าหุ้นที่ประมาณ 55.5-62 บาท หรือเทียบเท่าเป็นหุ้น ATC ที่สูงถึง 84.5-94.5 บาท และหุ้น RRC ที่ 28.6-32 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาในตลาด

๐การดำเนินการควบรวม - การควบบริษัท ATC และ RRC จะทำให้บริษัทใหม่หลังควบกิจการ (Merged Co.) เป็นบริษัทที่มีความแข็งแกร่ง และเสริมสร้างความได้เปรียบทางด้านต้นทุน/เพิ่มมูลค่าในสายธุรกิจโรงกลั่นที่มีความเชื่อมโยงกับอะโรเมติกส์และผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง และเป็นการปรับโครงสร้างธุรกิจของบริษัทในกลุ่มปิโตรเคมีและโรงกลั่นของ ปตท. ให้มีความชัดเจนมากขึ้น

+++++++++++++++++++++

ภาพรวม ATC และ RRC ก่อนและหลังการควบรวม

กำลังผลิต ATC RRC ATC+RRC

(Merged Co.) Merged Co. รวม Expansion & Synergy

โรงกลั่นน้ำมัน 145 kbd 145 kbd 280 kbd

อะโรเมติกส์ 1,185 Kton/yr 1,185 Kton/yr 2,228 Kton/yr

๐ ประโยชน์จากการเพิ่มมูลค่า (Synergy benefits) - บริษัทได้ศึกษาโครงการที่จะดำเนินการเพื่อรับประโยชน์หลังการรวมกิจการ โดยโครงการ Synergy จะเกิดขึ้นเมื่อ Aromatic II เดินเครื่อง และถือเป็นส่วนเพิ่มจากการร่วมงาน ไม่ได้เป็นส่วนที่ร่วมกันเดินตามแผนก่อนหน้านี้ จะเห็นว่าประโยชน์ที่เข้ามาจะเริ่มในปี 2552 เป็นต้นไป

บริษัทเปลี่ยนมาใช้คอนเดนเสทกำมะถันสูง (Sour condensate) ในหน่วย CPX II ซึ่งทำให้ลดต้นทุนวัตถุดิบ เนื่องจาก Sour condensate ที่มีราคาถูกกว่า Sweet condensate และเมื่อนำมากลั่นจะได้ Condensate Residue (CR) เพิ่มมากขึ้น และก็จะมีผลให้ได้น้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นมาอีก 28 kbd รวมกับน้ำมันดีเซลที่ได้จากโรงกลั่นอีก 42 kbd เป็น 70 kbd ซึ่งจะทำให้การลงทุน DHDS เพื่อลดกำมะถันในน้ำมันดีเซล มีความคุ้มค่า เนื่องจากขนาดใหญ่ขึ้น เกิด Economies of scale

๐กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นทั้งโรงกลั่นและอะโรเมติกส์ - ในด้านโรงกลั่นน้ำมัน ซึ่งปัจจุบัน RRC มีกำลังผลิต 145 kbd ซึ่งเป็นอันดับ 6 ในประเทศไทย และเป็นอันดับ 57 ในเอเชีย แต่หลังการควบรวมกับ ATC และโครงการที่ร่วมกันแล้วเสร็จ จะทำให้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้นเป็น 280 kbd ซึ่งเป็นอันดับ 1 ของประเทศ แซงหน้า บมจ.ไทยออยล์ (TOP) ที่มีกำลังผลิตหลังรวมส่วนขยายแล้วที่ 275 kbd และอันดับในเอเชียจะขึ้นมาเป็นอันดับ 15

ส่วนด้านอะโรเมติกส์ กำลังผลิตปัจจุบันที่ 1,185 พันตัน/ปี จะเพิ่มเป็น 2,228 พันตัน/ปี ซึ่งมากที่สุดในประเทศไทยอยู่แล้ว ขณะที่ในเอเชียจะทำให้อันดับจากเดิมที่ 13 มาเป็นที่อันดับ 5

แน่นอนประโยชน์ที่ได้จากกำลังผลิตทั้งโรงกลั่นและปิโตรเคมีที่เพิ่มขึ้น ก็จะเป็นเรื่องการประหยัดต้นทุนต่อขนาด หรือ Economies of scale

๐สถานะทางการเงินและศักยภาพการทำกำไร - บริษัทยังไม่ได้มีการออกงบที่แสดงการควบรวมกันออกมา แต่จากข้อมูลงบการเงินปี 2549 รวมการทำกำไรของ ATC และ RRC สำหรับ Merged Co.ออกมา โดยมีการตัดรายการระหว่างกันออกไปเล็กน้อย

อย่างไรก็ตามข้อมูลแนวโน้มสำหรับอนาคต ปี 2550-2553 ฝ่ายวิจัย BSEC เราได้รวมจากการประมาณการที่ทำไว้ก่อนหน้านี้สำหรับ ATC และ RRC ออกมาเป็นของ Merged Co. โดยได้รวมคาดการณ์ประโยชน์ที่จะได้รับจากการ Synergy เข้ามาด้วยสำหรับปี 2552-2553 เพื่อให้เห็นแนวโน้มการทำกำไรในอนาคต ซึ่งข้อมูลดังกล่าวอาจมีการปรับปรุง เมื่อมีข้อมูลในรายละเอียดเพิ่มมากขึ้น

จะเห็นว่าการทำกำไรของบริษัทที่รวมกันแล้ว จะมีการเติบโตที่มีเสถียรภาพกว่างบการเงินที่แยกกัน โดยถ้าเรามองธุรกิจโรงกลั่นอาจกระทบจากค่าการกลั่นที่ชะลอลงในช่วงข้างหน้า ก็จะได้ธุรกิจปิโตรเคมีเข้ามาสนับสนุน ทำให้การทำกำไรของ Merged Co. ดูความผันผวนจะต่ำกว่า ส่วนกำไรที่เรามองในอนาคต จะเห็นการเติบโตมากขึ้นในช่วงปี 2552 หลังโครงการ Aromatics II ดำเนินการ และบริษัทเริ่มได้รับประโยชน์จากการ Synergy ด้วย

ด้านฐานะการเงิน อัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ของ ATC ณ สิ้นไตรมาส 1 อยู่ที่ระดับ 0.96 เท่า ขณะที่ RRC อยู่ที่ 0.28 เท่า ถ้ารวมกันเป็น Merged Co. ระดับ D/E จะอยู่ที่ประมาณ 0.63 เท่า ซึ่งระดับที่ต่ำของ RRC จะช่วยฐานะการเงินของ ATC ทำให้ภาพรวมดูดีขึ้น

๐สถานะทางการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ - จากสถานะในตลาดหลักทรัพย์ ล่าสุด 27 กรกฎาคมที่ผ่านมา ATC มี Market Cap. ที่ 7.29 หมื่นล้านบาท คิดเป็นอันดับ 19 ของตลาด ขณะที่ RRC มี Market Cap. ที่ 7.11 หมื่นล้านบาท คิดเป็นอันดับ 20 ของตลาด แต่ถ้าคิดรวมกันเป็น Merged Co. แล้ว ขนาด Market Cap. จะเพิ่มมาที่ 1.46 แสนล้านบาท และคิดเป็นอันดับ 10 ของตลาด ซึ่งผลดีของ Market Cap. ที่ใหญ่ขึ้น ก็จะดึงดูดเงินลงทุนจากกองทุนใหญ่ๆ ต่างประเทศได้เพิ่มขึ้น รวมทั้งสภาพคล่องในการซื้อขายก็จะเพิ่มขึ้น

๐รายละเอียดของการจัดสรรหุ้นของบริษัทใหม่ให้กับผู้ถือหุ้น ATC และ RRC -ในการควบบริษัท จะมีการจัดสรรหุ้นของบริษัทใหม่ให้แก่ผู้ถือหุ้นของ ATC และ RRC ที่มีชื่อปรากฏในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นของแต่ละบริษัทดังกล่าว ณ เวลาที่กำหนดของวันประชุมผู้ถือหุ้นร่วมกันของบริษัท และ RRC โดยจะจัดสรรหุ้นของบริษัทใหม่ให้แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราส่วนดังนี้

1 หุ้นเดิมใน ATC ต่อ 1.524428135 หุ้น ในบริษัทใหม่

1 หุ้นเดิมใน RRC ต่อ 0.516755300 หุ้น ในบริษัทใหม่

หากมีเศษหุ้นที่เกิดขึ้นจากการคำนวณตามอัตราส่วนดังกล่าวมากกว่าหรือเท่ากับ 0.5 หุ้น จะมีการปัดเศษหุ้นนั้นขึ้น ในกรณีที่เศษหุ้นนั้นน้อยกว่า 0.5 หุ้น จะมีการปัดเศษหุ้นนั้นทิ้ง และบริษัทใหม่จะจ่ายเงินชดเชยให้แก่ผู้ถือหุ้นที่ไม่ได้รับจัดสรรหุ้นของบริษัทใหม่เฉพาะในส่วนของเศษหุ้นที่ถูกปัดทิ้งนั้น ในราคาและภายในเวลาที่จะมีการกำหนดกันต่อไป ทั้งนี้ อาจจะมีการพิจารณารายละเอียดและหลักการในการปัดเศษหุ้นเพิ่มเติมเพื่อความเหมาะสมต่อไป

๐ทุนของบริษัทใหม่ - บริษัทใหม่จะมีทุนจดทะเบียนเท่ากับ 29,938.49 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวนทั้งสิ้น 2,993.85 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท โดยทุนจดทะเบียนของบริษัทใหม่เป็นหุ้นที่ชำระแล้วจำนวน 2,963.63 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท ซึ่งเท่ากับทุนชำระแล้วทั้งหมดของ ATC และของ RRC รวมกัน ด้านจำนวนหุ้นยังมิได้ชำระ คือ 30.22 ล้านหุ้น ซึ่งคำนวณมาจากจำนวนหุ้นของ ATC และ RRC ที่ได้จัดสรรเตรียมไว้เพื่อรองรับการใช้สิทธิของ Warrant ของ ATC และ RRC คูณด้วยอัตราส่วนการแลกหุ้นของ ATC และ RRC

๐ การรับซื้อหุ้นคืนจากผู้ถือหุ้นที่คัดค้านการควบรวมกิจการ - ในกรณีที่อาจมีผู้คัดค้านการควบรวมดังกล่าว ปตท.เสนอที่จะเป็นผู้รับซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นของ ATC และ RRC โดยมีรายละเอียดดังนี้

กรณี ATC - อ้างอิงราคาหุ้น ATC ที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ครั้งสุดท้ายก่อนวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของ ATC ครั้งที่ 1/2550 ทั้งนี้ ราคาหุ้นสามัญของ ATC ที่ ปตท.จะรับซื้อจากผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิขายต้องไม่เกินกว่า 65 บาทต่อหุ้น

กรณี RRC - อ้างอิงราคาหุ้นสามัญของ RRC ที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ครั้งสุดท้ายก่อนวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของ RRC ครั้งที่ 1 /2550 ทั้งนี้ ราคาหุ้นสามัญของ RRC ที่ ปตท.จะรับซื้อจากผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิขายต้องไม่เกินกว่า 22 บาทต่อหุ้น

นั่นหมายความว่า ถ้าราคาหุ้นในตลาดที่ปิดวันที่ 12 กันยายน 2550 มีราคาต่ำกว่าราคาที่ ปตท. กำหนดไม่เกิน 65 บาท สำหรับ ATC และ 22 บาท สำหรับ RRC แล้ว ก็จะใช้ราคาปิดนั้นเป็นราคาอ้างอิง สำหรับผู้คัดค้านการควบรวมกิจการที่ต้องการจะขาย (อย่างเช่นถ้าสมมติปิดตลาดวันที่ 12 กันยายน 2550 ราคา ATC ปิดที่ 62 บาท และ RRC ปิดที่ 21 บาท PTT ก็จะรับซื้อที่ราคาดังกล่าว)

ส่วนกรณีที่ราคาหุ้น ATC และ RRC มีราคาสูงกว่าราคาที่ PTT กำหนดรับซื้อไว้ ก็ไม่มีปัญหา เพราะผู้ถือหุ้น ATC หรือ RRC สามารถขายในตลาดได้อยู่แล้ว

- บทวิเคราะห์ฉบับนี้คัดลอกมาจากบริษัทหลักทรัพย์บีฟิท จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้จัดทำวิเคราะห์ในวันที่ 1 สิงหาคม ในบทวิเคราะห์ Hot Shot

 กลับขึ้นบน
innocent
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 729
#1 วันที่: 04/08/2007 @ 20:46:46 :
[b:518ae21959">รอ merge ดีก่า.. 8O [/color:518ae21959">[/b:518ae21959">
 กลับขึ้นบน
บุคคลทั่วไป
บุคคลทั่วไป
#2 วันที่: 05/08/2007 @ 14:40:49 :
โห๋ย...อิ...ต้าง...โส...ปี...แหน่ะ[/color:a1f202cd1d">[/size:a1f202cd1d">
 กลับขึ้นบน
innocent
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 729
#3 วันที่: 07/08/2007 @ 22:11:42 :
[quote:a31f88b3a0=โคนเมืองโนน">โห๋ย...อิ...ต้าง...โส...ปี...แหน่ะ[/color:a31f88b3a0">[/size:a31f88b3a0">[/quote:a31f88b3a0">

[b:a31f88b3a0">โคนเมืองโนน อยู่ใกล้วัดใกล้วา น่าจะจายเย็น ๆ หน่อยดิ

ทำเปงวายรุ่นจายร้อนไปด้ายยยย..... 8O [/color:a31f88b3a0">[/b:a31f88b3a0">
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com