*ดูเหมือนว่าความไม่แน่ใจจะยังคงหลงเหลืออยู่ในก้นบึ้งหัวใจของนักลงทุนต่างชาติ ทำให้การขยับตัวขึ้นที่ชัดเจนของดัชนียังเป็นเรื่อง อิมพอสสิเบิ้ล และทำท่าว่าดัชนีจะเข้าสู่ภาวะสาละวันเตี้ยลง...เตี้ยลง...เตี้ยลง...อีกครั้ง ส่งผลให้หุ้นกลุ่มบลูชิพโดนเทกระจาดอย่างไม่เหลือเยื่อใย

*สัญญาณทางเทคนิกถึงดูแผ่วลงไปอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งทำให้นักลงทุนหลายรายขวัญหนีว่าจะซ้ำรอย ขาลงอย่างบูรณาการเหมือนก่อนหน้านี้ "โมนิก้า" เลยขอย้ำอีกครั้งว่า เป็นเรื่องถูกต้องแล้ว เนื่องจากหุ้นหลายตัวปรับขึ้นมาค่อนข้างมาก จึงพักเหนื่อย เพื่อไม่ให้หุ้นแพงเกินไป ซึ่งเป็นเรื่องมีเหตุผล...คำแนะนำให้ซื้อเมื่ออ่อนตัวจึงถูกต้องแล้ว ขอย้ำอีกครั้งค่ะ

*เนื่องจากการเทขายของนักลงทุนต่างชาติที่มีออกมากว่า 4 พันล้านบาท อาจไม่ใช่การปรับพอร์ตลงทุนธรรมดาๆ เหมือนที่กูรูทั้งหลายพูดเป็นต่อยหอยก็ได้ เพราะการที่ดัชนีรูดหลุดทะลุแนวรับสำคัญที่บริเวณ 850 จุดลงอย่างง่ายดาย เหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ไม่มีใครกล้าเข้าไปรับหุ้น หลังเห็นนักลงทุนต่างชาติเคาะออร์เดอร์ขายยาวเป็นหางว่าวนะซี

*ประกอบกับเดี๊ยนเหลือบไปเห็นคำสั่งขายในตลาด TFEX กว่า 10,000 สัญญา ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เปิดเทรด น่าจะเป็นการส่งสัญญาณขาลงตลาดหุ้นไทยได้อย่างชัดเจนเพราะตอนที่ดัชนีปรับตัวขึ้นแรงๆ สัญญาณซื้อก็มากเช่นกันนะค่ะ

*ฉะนั้นนักลงทุนรายใดที่คิดว่า ตนเองไม่เหมาะเล่นหุ้นในภาวะแบบนี้ กรุณาถอยออกไปตั้งหลักนอกตลาดหุ้นชั่วคราว เพราะนี่เป็นสมรภูมิของนักแสวงหาโอกาสที่สามารถทำกำไรได้ทั้ง 2 ขา "โมนิก้า" ถึงต้องออกมากระทุ้งให้นักลงทุนหาจังหวะช้อนซื้อหุ้นให้ดีๆ เพราะการซื้อหุ้นแล้วทนถือระยะกลางถึงระยะยาวมันไม่ก่อประโยชน์อะไรเลยเจ้าค่ะ

*เมื่อนักลงทุนต่างชาติไม่อยากถือหุ้นในตลาดหุ้นไทยอีกต่อไป PTT ซึ่งเป็นหุ้นยอดนิยมถึงโดนเทขายทิ้งหนักก่อนใครเพื่อน ประจวบเหมาะกับราคาน้ำมันในตลาดโลกเริ่มถึงจุดอิ่มตัว แรงเทขายถึงมีมากกว่าใครเพื่อน โชคดีที่มีแรงซื้อเข้ามารับเป็นระยะตลอดทั้งภาคบ่าย ราคาหุ้นเลยลบไปเพียง 2% กว่าๆ หรือลงไปแค่ 8 บาท ก่อนจะมาปิดที่ 306 บาท...หากถามว่าหุ้นมีโอกาสลงต่อไหม เดี๊ยนขอตอบว่ามีล้านเปอร์เซ็นต์เจ้าค่ะ

*เช่นเดียวกับ PTTEP แม้จะสิทธิ์เดินหน้าขึ้นไปสร้างฐานแนวรับที่สูงกว่าเดิม แต่การที่มีแรงเทขายออกมาเป็นจำนวนมาก ประกอบกับสัญญาณทางงทคนิคปรากฏสัญญาณขายหนักตั้งแต่หัววันแบบนี้ ท่าจะไปไม่รอดแล้วหล่ะค่ะ หากเช้านี้ทำท่ายึกยักไม่กล้าขึ้นไปไกลกว่าวันก่อนๆ ที่ผ่านมา ต้องเทขายทิ้งอย่างเร่งด่วน...เพราะ สัญญาณมันฟ้อง ไม่ต้องอาศัยลางสังหรณ์ค่ะ

*อาการหนักพอๆ กัน คือ TOP โดนเทขายอย่างหนักตลอดทั้งวัน จนราคาหุ้นร่วงลงไปถึง 7% หรือลงไป 6.50 บาท ก่อนจะมาปิดที่ 81 บาท พร้อมด้วยแรงเทขายอื้อซ่า"โมนิก้า" พิเคราะห์อย่างละเอียดถี่ถ้วน ขอแนะนำให้ตัดใจขายหุ้นออกไปก่อนตั้งแต่เนิ่นๆเพราะโอกาสที่หุ้นจะกระชากขึ้นแรงในช่วงภาวะการลงทุนพลิกน้อยมีน้อยมาก หรืออย่างดีก็แค่รีบาวนด์เพื่อลงต่อมากกว่านะค่ะ

*ขนาด LANNA อุตสาห์เกาะกระแสขาขึ้นของตลาดมาทีหลัง พ่วงด้วยแรงซื้ออัดแน่นเข้ามาแบบไม่ยั้ง จนมองไม่ออกว่าหุ้นจะหยุดที่ระดับราคาไหนกันแน่ แต่เมื่อภาวะการลงทุนไม่เป็นใจ และนักลงทุนต่างชาติกลับลำ 180 องศา ก็บอกให้รู้ว่าไม่มีความจำเป็นต้องถือหุ้นอีกต่อไป เพราะการที่หุ้นร่วงลงไปถึง 10% ก่อนจะมาปิดที่ 17.70 บาท ลบไป 2 บาทไม่น่าถือหุ้นต่อไปจริงๆ

*ทางด้านพี่เบิ้ม SCC เป็นอีกรายที่ยืนต้านทานแรงเทขายได้อย่างแข็งแกร่ง แม้วานนี้ชาวบ้านชาวเมืองลงหนักกันถ้วนหน้า แต่พี่ท่านก็ยังสามารถประคองตัวอยู่ที่ระดับ 272 บาทได้อย่างแข็งแกร่ง ถือว่าเด็กๆ และยังพอรับได้ เพราะบวกลบกลบหนี้แล้ว ขาดทุนนิดหน่อยยิ่งหุ้นป้วนเปี้ยนไปมาอยู่บริเวณฐานแบบนี้ หากไม่ตัดขายไปเสียก่อน และทนถือต่อไปก็ไม่เห็นจะเสียหายอะไรนี่หน่า

* KEST ได้พิสูจน์กันเสียแล้วว่าการถอยลงมาใต้ 30 บาท หลังจากที่เคราะห์หามยามซวยเข้ามาเยือนและไม่ยอมกลับออกไปจากชายคา..ยอดโบรกเกอร์ที่ใกล้จะเสียแชมป์จึงออกอาการไม่นิ่งเอาเสียเลย...แถมเจอแรงทิ้งช่วงท้ายตลาดถล่มลงมาแบบไม่ยั้งสงสัยจะยับเยินไม่ใช่น้อย งานนี้ไม่แนะนำให้เข้าซื้อเพิ่มเติม แต่ถ้าอยากจนตัวสั่น ก็ไม่ขอศรัทธาเจ้าค่ะ

*สำหรับหุ้นตัวอื่นๆ ที่ "โมนิก้า" ไม่ได้กล่าวถึง ก็มีชะตากรรมไม่ได้ต่างไปจากหุ้นบลูชิพเหล่านี้ และขอแนะนำให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงลงทุนเป็นการชั่วคราว และรอให้แรงเทขายสะเด็ดน้ำกว่านี้อีกสักหน่อยนะจ๊ะ

*ตบท้ายกันที่อากาศช่วงนี้ไม่มีอะไรต้องเป็นกังวล แต่การที่มีฟ้าฝนคะนองในบางครั้งบางคราว อาจทำให้ผู้คนรู้สึกรำคาญบางเล็กน้อย "โมนิก้า" ก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไรเสียหายจะมีอยู่เรื่องเดียวก็คือตลาดหุ้น เพราะดูเหมือนว่าบรรยากาศการลงทุนจะพลิกกลับจากหน้ามือเป็นหลังมืออย่างรวดเร็ว




:lol: