Puu
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 476 |  วันที่: 11/07/2007 @ 09:57:48 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต มาตรการแบงก์ชาติก็เอาไม่อยู่แล้ว เงินต่างชาติไหลท่วมตลาดหุ้น หลังเอสแอนด์พีประกาศพร้อมปรับเครดิตไทยขึ้นหลังเลือกตั้ง
@..........ดัชนีปิดบวกอีก 14 จุดวานนี้ ค่าบาทแข็งโป๊กทำลายสถิติทุกวัน ทั้งวันตลาดผันผวนทั้งในแดนลบและบวก ปิดตลาดอยู่ที่ 858.45 จุด เพิ่มขึ้น 14.26 จุด หรือ 1.69% มูลค่าการซื้อขาย 39,943.62 ล้านบาท ต่างชาติยังคงลุยซื้อสุทธิ 4,389.58 ล้านบาท ขณะที่แมงเม่า กองทุนขายทำกำไรกันสนุก
@.......หุ้นไทยได้ตัวช่วย หลัง S&P ประกาศคงเครดิตตราสารหนี้ของไทยทั้งสกุลต่างประเทศและสกุลเงินบาทไว้ แถมยังให้น้ำจิ้มว่ามีโอกาสที่จะทบทวนแนวโน้มเครดิตไปใน"เชิงบวก"จาก"มีเสถียรภาพ" หากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นได้ในปี 2550ส่งผลให้เงินลงทุนไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง @.......ส่วนค่าเงินบาทยังคงแข็งค่าขึ้นทุกวันทำลายสถิติเป็นว่าเล่น วันนี้เงินบาทปิดตลาดที่ 33.45-49 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทแข็งค่าสุดที่ 33.42 บาท/ดอลลาร์ แว่วมาว่าแบงก์ชาติเข้ามาแทรกแซงแต่ก็เอาไม่อยู่ แนวโน้มยังน่าเป็นห่วง
@.......ด้านฉลองภพสั่งธปท.ดูแลค่าบาทอย่าให้ผันผวนมากเกินไป ชี้มาตรการแบงก์ชาติที่ออกมาใหม่มีผลแค่จิตวิทยาเท่านั้น ความเป็นจริงตลาดเงินนอกและในประเทศยังห่างกันมาก
@.......ส่วนผู้ว่าแบงก์ชาติก็ออกมาโทษผู้ส่งออก ทำค่าบาทแข็งผิดปกติ เนื่องจากผู้ส่งออกเทขายเงินดอลลาร์เป็นจำนวนมากกว่าในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา และบางรายถึงขั้นขายล่วงหน้าเงินดอลลาร์แม้จะไม่มีคำสั่งซื้อสินค้า งานนี้เขาน่าจะเรียกว่ารำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง
@.......หุ้น PTT ทำสถิติใหม่ทะลุ 300 บาทแล้วปิดที่ 308.00 บาท เพิ่มขึ้น 12.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,266.67 ล้านบาท ขณะที่เฮียเสริฐยังใจแข็ง ไม่ยอมแตกพาร์เสียที ขอเตือนถ้าช้าเดี๋ยวคนอื่นเขาจะแซงหน้าไปก่อนละ
@.......ส่วนโบรกเกอร์ก็หน้าบานกันไปตามๆกัน วอลุ่มท่วมตลาดวันละ 3-4หมื่นล้านบาทอย่างนี้ มีหวังโบนักปลายปีคงไม่เบา มาร์เก็ตติ้งตีปีกกัน หลังจากอดอยากปากแห้งมานาน
@.......หุ้นกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์เริ่มน่าสนใจขึ้นมาทันที ใครไม่มีรีบไปจับจองได้แล้ว อย่ามัวไปหลงใหลออกสูง อย่างกลุ่มพลังงาน หรือแบงก์มากนัก ลืมมองหุ้นกลุ่มนี้ไปตัวดีๆก็มีเยอะ 5 อันดับแรก KIMENG-SCBS-PHATRA ? ASP- CS
@.......พอหุ้นดีทุกอย่างก็ดีหมด ทั้งปตท.ก็ประกาศจะจ่ายปันผลระหว่างกาล ตามมาด้วย ปูนซิเมนต์นครหลวงก็พร้อมจ่ายปันผลระหว่างกาลเช่นกัน หลังคาดว่า ยอดขายในปีนี้จะเติบโต 10% จากปีก่อนที่มีรายได้จากยอดขาย 2.3 หมื่นล้านบาท หลังจากที่บริษัทได้ปรับขึ้นราคาค่าขนส่ง รวมทั้งในภาคการส่งออกมีปริมาณและราคาสูงขึ้น ตามความต้องการในตลาดโลกที่เติบโตมากขึ้น
@.......ด้านสุภัค เอ็มดีแบงก์ทหารไทย (TMB) ออกมาพูดได้ทุกเรื่องวานนี้ มั่นใจเงินเพิ่มทุนจะเข้ามาทันภายในสิ้นปี แต่พอถามถึงอนาคตผู้บริหารของตัวเองจะเป็นอย่างไร กลับไม่ยอมตอบเสียเฉยๆ จะอุบไว้บอกหลังเพิ่มทุนเสร็จหรือไง
@....... ผู้บริหาร BMCL ออกมาแจกข่าวดี ยอดการใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินในเดือนมิถุนายน 50 มียอดผู้โดยสารสูงเป็นประวัติการณ์ เฉลี่ยประมาณ 200,000 เที่ยวต่อวันทำงาน ซึ่งใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้แล้ว แต่ทำไมราคาหุ้นยังวนเวียนอยู่แถว 1 บาท เมื่อไหร่จะขึ้นสักที ผู้ถือหุ้นเขาเบื่อแล้วนะ
@.......วิวัฒน์ ทีฆคีรีกุล ประธานคณะกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไดสตาร์ อิเลคทริก คอร์เปอเรชั่น(DISTAR) ประกาศขายหุ้น DE ในมือทั้งหมด 5-6% ให้เหตุผลว่าไม่อยากจะถือหุ้น DE ไว้แล้ว เพราะต้องการไปเอาดีกับการจำหน่ายรถโดยสารที่ใช้ก๊าซเอ็นจีวีอย่างเต็มที่
@.......แอสคอน คอนสตรัคชั่น (ASCON)เตรียมเปิดตัวพันธมิตรรายใหม่จากต่างประเทศที่จะเข้ามา ในเร็ว ๆ นี้ ส่วนจะเกี่ยวข้องกับทวีฉัตร จุฬางกูร หรือไม่ขออุบไว้ก่อน
@.......ส่วนทุ่งคา(THL) กลับมาเทรดอีกครั้ง หลังแจ้งจากแก้ไขงบบริษัทและบริษัทย่อย ปี 49 ซึ่งยังมีกำไรเท่ากับ 2.07 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.003 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ขาดทุน 69.02 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.10 บาท
@.......หุ้นบริษัทเดินเรือ TTA และ PSL ยังแรงไม่ตก ราคาปรับขึ้นต่อ โบรกเกอร์มองบวก ธุรกิจเดินเรือแนวโน้มโอกาสที่ค่าระวางเรือจะลงไปต่ำๆ เหมือนในอดีตคงยาก แถม TTA มีเมอร์เมดเป็นตัวช่วยสร้างกำไร จะไปห่วงอะไรอีก
@.......BCP ได้ราคาน้ำมันช่วย คาด ผลประกอบการไตรมาสสอง จะปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสแรกที่ขาดทุนโดยคาดว่าน่าจะพลิกมาเป็นมีกำไรได้จากกำไรสต็อกน้ำมัน ประกอบกับค่าการกลั่นปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
@...... โปรเฟสชั่นแนล เวสต์ เทคโนโลยี (1999) หรือ PROเริ่มเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ คาดในไตรมาส 3 ผลประกอบการจะพลิกฟื้นเป็นกำไรได้หลังบริษัทได้เปิดดำเนินการธุรกิจฝังกลบขยะอีกครั้งภายในเดือน ก.ค.นี้ ตลาดหลักทรัพย์สั่งห้ามเล่นเน็ต IEC ชั่วคราวเป็นเวลา 30 วันทำการ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 11 กรกฏาคมถึง 23 ส.ค.นี้ ป้องกันความเสียหายต่อสภาพการซื้อขายโดยรวม อันเนื่องมาจากมีการเปลี่ยนแปลงของปริมาณหรือราคาซื้อขายในหลักทรัพย์นั้นอย่างรุนแรง
ที่มา ข่าวหุ้น[/color:d0b1db259e">
|
