Toon
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 973 |  วันที่: 09/07/2007 @ 08:47:46 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต คอลัมน์"หุ้นขวัญใจรายวัน"มาพบกันบนพื้นที่ใหม่แต่เนื้อหายังเหมือนเดิม ท่ามกลางหุ้นกำลังอยู่ใน"ภาวะกระทิง"แม้ว่าจะพักฐานอยู่เป็นระยะ..แต่จากมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นเป็นสิ่งที่น่าสนใจว่า..เม็ดเงินต่างชาติ กำลังหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสายตลอดช่วงไตรมาส3 พร้อมปรากฎการณ์เทขายทำกำไรช่วงปลายปีนี้...
:APนิวไฮนับตั้งแต่เข้าตลาด
หุ้น AP เกิดปรากฎการณ์ใหม่ ทำนิวไฮนับตั้งแต่เข้าตลาดหลังถูกประเมินว่าดยอดพรีเซลปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 75% นอกเหนือจากยอดพรีเซลที่ทำได้ 5,300 ล้านบาท ช่วงไตร2 ที่ผ่านมา และช่วงครึ่งปีหลัง AP จะสามารถทำยอดพรีเซลอีก 6,000 ล้านบาท
ส่วนยอดขายปี 2550 น่าจะอยู่ที่ 14,000 ล้านบาทเติบโตจากปีก่อนที่เคยทำได้แล้ว8,072 ล้านบาท และจากยอดพรีเซล ที่เติบโตแบบก้าวกระโดด ทำให้สิ้นปีเติบโตมากกว่า100% ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 2 น่าจะลดลงประมาณ 38% แต่เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ช่วงครึ่งปีหลังจากการรับรู้รายได้จากคอนโดมีเนียม
ทำให้หุ้น AP มีมูลค่าเพิ่มขึ้นจาก 7.10 บาทเป็น 8.10 บาท เพื่อสะท้อนผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง แม้ว่าราคาปัจจุบันจะผันผวน แต่ด้วยแนวโน้มผลการดำเนินงาน ที่ดีขึ้นจากการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ
...จึงประเมินว่าหุ้น AP น่าลงทุนเป้าหมาย 8.10 บาท...
:BHเล่นได้ยาวรับกำไรโต30%
หุ้น BH นับเป็นทีเด็ดตัวหนึ่งในกลุ่มโรงพยาบาล หลังเซ็นสัญญาเพื่อเข้าบริหารโรงพยาบาล AI Mafraq สหรับอาหรับอิมิเรตเป็นเวลา 4 ปี และเชื่อว่าจะทำให้ BH เริ่มรับรู้รายได้ปี 51 ประมาณ 130 ล้านบาท ถือเป็นปัจจัยบวกระยะยาวอย่างมีนัยสำคัญ..
ส่วนปัจจัยระยะสั้นงบ Q2 จะมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน หลังจากปริมาณคนไข้เพิ่มขึ้น และการปรับเพิ่มอัตราค่าบริการช่วงที่ผ่านมา ทำให้ตัวเลขกำไรปีนี้น่าจะอยู่ที่ระดับ 1,400 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 30% ทำให้อัตราการเติบโตของ EPS อยู่ที่ 26-27% และผลตอบแทนจากผู้ถือหุ้น(ROE)ไม่ต่ำกว่า 40%
...ทำให้ BH น่าจับตามาสุดด้วยราคาเป้าหมายอยู่ที่ 63 บาท...
:VNGของดีแต่หุ้นน้อยเกินไป
หุ้น VNG มีนัยสำคัญมากขึ้นหลังทิศทางสินค้าหลัก MDFB และ PB กำลังสดใส เห็นได้จากช่วงไตรมาส 2-3 ปีนี้ แนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ประการแรกมาจากปริมาณการผลิต MDFB และปริมาณขายสูงขึ้น ประการที่สองราคาผลิตภัณฑ์ PB และ MDFB ปรับขึ้นและมีแนวโน้มว่า PB จะยังขยับขึ้นต่อได้จากอุปทานที่ลดลง
แต่ช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า มีความเสี่ยงว่าราคา MDFB จะอ่อนตัวลง เนื่องจากมีกำลังการผลิตใหม่ประมาณ 2 แสนลูกบาก์ศเมตรต่อปีทยอยเข้าสู่ตลาด ส่วนกำไรสุทธิช่วงไตรมาส 2 น่าจะทำได้ประมาณ 225 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 7%
ส่วนทิศทางปี 50-51 มีโอกาศเติบโตต่อเนื่อง โดยหลักมาจากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะ MDFB ที่ใช้กำลังการผลิตมากขึ้นและการขยายกำลังการผลิตส่วนของ PB จะเพิ่มขึ้นราว 10% และอัตรากำไรขั้นต้นทรงตัวระดับ 32-33%
หุ้น VNG จัดเป็นหุ้นเกรด A แต่สภาพคล่องค่อนข้างต่ำ เป้าหมาย 6.10 บาท
ข่าวหุ้น[/size:98f8a308ef">
|
