May 5, 2024   12:55:20 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เวทีวิเคราะห์
 

Puu
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 476
วันที่: 05/07/2007 @ 10:09:09
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

เก็งกำไร TTA เป้าหมาย 49.75 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ฟาร์อีสท์ จำกัด แนะนำ "เก็งกำไร" TTA จากการที่วัฏจักรขาขึ้นของ BDI รอบนี้ยาวกว่าที่คาดไว้ ประกอบกับคาดว่า TTA จะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้อย่างเต็มที่จากแนวโน้มขาขึ้นของ BDI ที่พุ่งขึ้นแรงในรอบนี้ ในช่วงผลประกอบการช่วงครึ่งปีหลังของปี 2550 (เม.ย. ? ก.ย. 50) เนื่องจากข้อสังเกตที่ว่าผลประกอบการของ TTA มักจะ Lag กับ BDI ราว 3-6 เดือน ส่วนหนึ่งมาจากสัญญาเช่าระยะสั้นที่มักมีอายุระหว่าง 2-4 เดือน (คิดเป็น 37% ของ จำนวนวันเดินเรือ) ซึ่งสามารถต่อรองอัตราค่าระวางใหม่ได้เมื่อหมดสัญญา จึงได้ทำการปรับเพิ่มประมาณการผลกำไร และประเมินมูลค่าเหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐาน ปี 2550 ด้วย PER ใหม่ที่ 7.30 เท่า (เฉลี่ยถ่วงน้ำหนักจาก PER ของธุรกิจเรือเทกองที่ 7 เท่า และธุรกิจวิศวกรรมใต้น้ำที่ 9 เท่า) ได้ที่ 49.75 บาท ยังมี Upside Gain อีก 11.2% ไม่ โดยยังไม่รวมกำไรจากเงินลงทุนกรณีนำ MM เข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ คงคำแนะนำ ?ซื้อเก็งกำไร?

ถือ TSC เป้าหมาย 8.00 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) แนะนำ "ถือ" TSC การย้ายไปโรงงานแห่งใหม่ที่ชลบุรี ทำให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 32 ล้านชิ้นต่อปี จากเดิม 24 ล้านชิ้นต่อปี นอกจากนี้การย้ายไปโรงงานใหม่ยังได้รับส่งเสริมการลงทุน ทำให้ไม่ต้องเสียภาษี อย่างไรก็ตามภาวะอุตสาหกรรมรถยนต์ในปัจจุบันไม่เอื้ออำนวยทำให้การผลิตไม่เพิ่มขึ้นในระดับที่จะก่อให้เกิดการประหยัดจากขนาด ซึ่งในช่วง 5 เดือนแรกปรากฏว่า ยอดผลิตรถยนต์ ลดลง 1.9% เหลือ 488,200 คัน และ ยอดผลิตรถจักรยานยนต์ ลดลง 9.77% เหลือ 1,370,773 คัน ซึ่งจะส่งผลลบต่อผลการดำเนินงานของ TSC ซึ่งในปีนี้เราประเมินว่ายอดขายจะไม่ขยายตัว ในขณะที่กำไรจะลดลง 6% เหลือ 209 ล้านบาท (กำไรต่อหุ้น 0.8 บาท) คงคำแนะนำ ถือ โดยคาดหวังปีหน้าจะฟื้นตัวตามอุตสาหกรรมรถยนต์ และการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ภายหลังการเลือกตั้ง และ ดอกเบี้ยที่ปรับลดลง

ซื้อ KK เป้าหมาย 41.98 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด แนะนำ ซื้อ KK คาดกำไรสุทธิงวดไตรมาส 2/2550 เท่ากับ 362 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 20% จากไตรมาสก่อนหน้า ปัจจัยสนับสนุนหลัก คือ รายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 6.7% ไตรมาสก่อนหน้าตามการเติบโตของสินเชื่อสุทธิซึ่งคาดไว้ที่ 5% ไตรมาสก่อน (งวดครึ่งปีแรกของปี 2550 คาดว่าสินเชื่อสุทธิขยายตัว 8.2% จากสิ้นปี 2549 ดีกว่าที่คาดไว้ทั้งปี 2550 ที่ 15% จากปีก่อนเล็กน้อย) และ NIM ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 9 bp เป็น 4.91% เพราะจะเริ่มได้รับประโยชน์จากการลดลงของต้นทุนดอกเบี้ยจ่ายบางส่วน ส่วนรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะรายได้จากการซื้อขายหลักทรัพย์ ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามมูลค่าการซื้อขาย ขณะที่ค่าใช้จ่ายดำเนินงานคาดว่าปรับเพิ่มขึ้นเพียง 7.2% ไตรมาสก่อน ตามการขยายสาขาเพิ่มเติม สำหรับคำแนะนำการลงทุนฝ่ายวิจัยยังคงให้ ซื้อ ด้วยจุดแข็งของบริษัทฯ คือ พอร์ตสินเชื่อที่ค่อนข้างกระจายตัว ช่วยลดความผันผวนของธุรกิจได้มาก โดยราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Upside สูงถึง 26% บวกกับเงินปันผลที่คาด Div yield 6.7% p.a. (จ่ายปีละ 2 ครั้ง)

ซื้อลงทุน TOP เป้าหมาย 84.00 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคิน จำกัด แนะนำ ซื้อลงทุน TOP แม้ว่าธุรกิจปิโตรเคมีจะได้รับผลกระทบจากราคาวัตถุดิบที่ปรบตัวเพิ่มขึ้น กระทบส่วนต่างราคา แต่ค่าการกลั่นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ฝ่ายวิจัยคาดว่าบริษัทจะประกาศกำไรสุทธิในไตรมาส 2/2550 ที่ 6,125 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% ไตรมาสก่อนหน้า ผลประกอบการในครึ่งปีหลังคาดจะปรับตัวลดลงจากการหยุดการผลิตเพื่อทำการเชื่อมต่อโครงการขยายกำลังการผลิต ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตใหม่ในปี 2551 เพิ่มขึ้น 22% จาก 225,000 บาร์เรลต่อวัน เป็น 275,000 บาร์เรลต่อวัน ขณะที่เราปรับสมมติฐานค่าการกลั่นในระยะยาวขึ้นจากความต้องการใช้น้ำมันที่แข็งแกร่ง และอัตราการใช้กำลังการผลิตที่อยู่ในระดับสูงกว่า 95% เป็นส่วนสนับสนุน เราปรับราคาที่เหมาะสมเพิ่มขึ้นจาก 76 บาท เป็น 84 บาท เพื่อให้สอดคล้องกับประมาณการผลประกอบการ ยืนคำแนะนำ ?ซื้อลงทุน? ราคาเป้าหมาย 84.00 บาท

ที่มา ทันหุ้น[/color:77071082d4">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com