ที่มา ชัย จิระเสวีนุประพันธ์

หัวข้อข่าว : กลยุทธ์การลงทุนสัปดาห์นี้

แนวโน้ม SET INDEX ให้น้ำหนักเป็น NEUTRAL โดยคาดว่าจะมีช่วงแกว่งตัวระหว่าง 768 ? 787 จุด (กรณีที่มากกว่าที่คาดจะมีเป้าหมายที่ 792 จุด) สำหรับประเด็นที่ต้องติดตามสัปดาห์นี้ ได้แก่
1. การับร่างรัฐธรรมนูญ
2. ตัวเลขเงินเฟ้อของกระทรวงพาณิชย์
3. ราคาน้ำมัน / ค่าระวางเรือ / ค่าการกลั่น (ซึ่งยังคาดว่าจะขยับขึ้นอยู่ในระดับสูงต่อไป)
4. การคาดการณ์ผลประกอบการ (ซึ่งทาง CNS ขอเสนอหุ้นเด่นใน 3 กลุ่มธุรกิจก่อน และจะทยอยเพิ่มเติมในฉบับถัดไป)

? หุ้นเด่น แนะนำ ลงทุนระยะกลาง มีดังนี้
5 months loan growth edges up 0.9% YTD
ยอดเงินให้สินเชื่อในรอบ 5 เดือนแรกของปี 50 (ม.ค.-พ.ค.) เพิ่มขึ้นในเกณฑ์ต่ำ 0.9% YTD เมื่อเทียบกับยอดสินเชื่อทั้งปี 49 ที่เท่ากับประมาณ 5.0% สำหรับในเดือน พ.ค. ธนาคารส่วนใหญ่มีสินเชื่อเติบโตเพียงเล็กน้อย ยกเว้น KTB ที่สินเชื่อเติบโตสูงจากการปล่อยกู้ภาครัฐฯ และ SCB ที่มียอดสินเชื่อฟื้นตัว สำหรับหุ้นในกลุ่มธนาคารในรอบสับดาห์ที่ผ่านมา เติบโตค่อนข้างสูงจากแนวโน้มในการเติบโตในปี 51 ที่คาดว่าจะดีจากฐานปี 50 ทีคาดว่าจะหดตัวลง อย่างไรก็ตาม CNS คงแนะนำ ?Neutral? สำหรับกลุ่มธนาคารพาณิชย์ โดยเชื่อว่าหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ยังมีแรงกดดันในระยะสั้นจากปัจจัยลบในเรื่อง NPLs ที่เพิ่มขึ้นและสินเชื่อที่เติบโตต่ำ แนะนำ หุ้น Top pick ได้แก่ BBL และ KBANK (รายละเอียดสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก CNS)

IPP bidding starts: Upside on the pipeline
เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2550 กระทรวงพลังงานได้ประกาศรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตเอกชนสำหรับการผลิตไฟฟ้าในประเทศเป็นจำนวน 3,200 เมกกะวัตต์ โดยไฟฟ้ามีกำหนดการป้อนเข้าระบบสายส่ง (grid) ในช่วงปี 2555-2557 ซึ่งถือว่าสอดคล้องกับที่ได้มีการคาดการณ์เอาไว้ ผลการประมูลคาดว่าน่าจะมีการประกาศได้ภายในเดือนธันวาคม 2550 ซึ่งจะเป็นผลดีกับกลุ่มไฟฟ้า ทั้งนี้เรายังคงแนะนำหุ้น top picks คือ EGCO (TP Bt118), RATCH (TP Bt52) และ TOP (TP Bt82) สำหรับรายละเอียดสามารถค้าหาข้อมูลเพิ่มเติบได้จาก CNS

Strategy responding to rise in raw materials cost
CNS ชอบ CPF ในกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อฝ่าวิกฤติต้นทุนวัตถุดิบอาหาร ทั้งนี้ Nomura ได้วิเคราะห์ว่าบริษัทอาหารในญี่ปุ่นต้องปรับตัวจากสถานการณ์ต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น โดยสร้างความแตกต่างของสินค้าสำหรับตลาดในประเทศรวมทั้งแสวงหาตลาดใหม่ในต่างประเทศเพื่อสร้างกำไรให้เพิ่มขึ้น ซึ่ง CNS วิเคราะห์กลยุทธ์บริษัทในไทย พบว่า CPF มีความโดดเด่นในการสร้างความแตกต่างของสินค้าในตลาดในประเทศพร้อมกับขยายตลาดและฐานการผลิตในต่างประเทศ ขณะที่ TUF และ KSL ยังสร้างความแตกต่างในตลาดในประเทศได้ไม่ดีนัก แต่ทำได้ดีในการขยายตลาดและเพิ่มการลงทุนในต่างประเทศ (สำหรับรายละเอียดสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติบได้จาก CNS)

สำหรับหุ้นที่แนะนำ TRADING รายสัปดาห์ ได้แก่ SIAM, IRP, ATC, HMPRO, SCIB


:lol: