May 6, 2024   12:52:45 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เจาะกระดานหุ้น : วนเวียนอยู่แค่เนี่ย
 

kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
วันที่: 28/06/2007 @ 07:13:11
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

*ดูเหมือนบรรยากาศการลงทุนภายใต้อิทธิพลทางการเมืองไม่มีอะไรน่ารื่นรมย์เลยสักอย่าง เพราะหุ้นบลูชิพส่วนใหญ่นอนนิ่งแผ่หลาอยู่ที่ฐานแนวรับกันถ้วนหน้า ขณะที่หุ้นเก็งกำไรก็ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนขึ้นมาเสนอหน้า "โมนิก้า" ถึงไม่เชื่อว่าดัชนีจะทะยานขึ้นไปได้ไกลกว่านี้อีกแล้ว

*แม้จะมีบทวิเคราะห์โบรกเกอร์ต่างชาติเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทย แต่นั่นเป็นเพียงการคาดการณ์ภายใต้ตัวแปรคงที่ ขณะที่ตัวแปรจริงๆ ที่มีผลโดยตรงต่อการลงทุนนั้นเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา "โมนิก้า" ถึงไม่เข้าใจว่า โบรกฝรั่งตาน้ำขาวมั่นใจอะไรหนักหนาเจ้าค่ะ

*ขนาดกองทุนในประเทศยังตั้งป้อมเทขายหุ้นทำกำไรลูกเดียว "โมนิก้า" ถึงไม่กล้าแนะนำให้นักลงทุนถือหุ้นยาว เพราะโอกาสที่ดัชนีจะไต่ระดับขึ้นไปสูงกว่านี้มีน้อยเหลือเกินและท้ายที่สุดคงกลับมานอนนิ่งอยู่ที่ฐานแนวรับ 660-650 จุดอีกตามเคย

*เมื่อสถานการณ์ไม่เป็นใจให้นักลงทุนเข้ามาเล่นหุ้นบลูชิบ นักลงทุนเลยโยกเงินไปเล่นหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กเป็นการทดแทน เพราะหุ้นเหล่านั้นขยับขึ้นได้วันละ 4-5%เชียวน่า และหากปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 3-4 วันติดๆ ผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุนจะขยับขึ้นสูงถึงระดับ 15-20% มันก็น่าเสี่ยงอยู่หรอก

*"โมนิก้า" ถึงมั่นใจเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ว่า 2 วันที่เหลือของสัปดาห์นี้ ดัชนีคงวนเวียนไปมาอยู่แค่ระดับ 665-675 จุด พร้อมกันนั้นนักลงทุนก็ควรเลิกมองหุ้นกลุ่มบลูชิบเป็นการชั่วคราว เพราะปรากฎการณ์ Window Dressing เอาเข้าจริงก็คงไม่ร้อนแรงเหมือนกับที่คิดกันไว้ในตอนแรกนะค่ะ

*เช่นเดียวกับเฮียมนตรี ศรไศาล แห่งค่า KEST ก่อนหน้าประมาณ 1-2 ปีหมายมั่นปั้นมือจะรักษามาร์เก็ตแชร์ไม่ให้ต่ำกว่า 10% แต่พอเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ที่บอกว่ามาร์เก็ตแชร์กลับลดลงจนน่าใจหาย แต่คุณพี่ก็ยังทำใจดีสู้เสือว่า "ผมก็ยังเป็นที่หนึ่งอยู่ดี"มันหมายความว่ากะไร

*เนื่องจากเบอร์ 2-3 พร้อมจะแซงหน้าคุณพี่ตลอดเวลา มันน่าเสียวไส้ไม่น้อย แถมยังมีหน้ามาบอกว่า จะรุกคืบเข้าไปยังอินเตอร์เน็ตเทรดดิ้งเพื่อเสริมสร้างรายได้อีกทางหนึ่ง แต่หลงลืมไปว่า BSEC ภายใต้การกุมบังเหียน "ไข่มุกดำ" ประสิทธิ์ ศรีสุวรรณเขาเคลมตัวเองเป็นเจ้าตลาดไม่ใช่เหรอ...เฮียมนตรี จะเอาอะไรไปสู้กับเขามิทราบเจ้าค่ะ

*พูดถึงหุ้นโบรกเกอร์พาลให้นึกถึง บล.เอเพ็กซ์ บริษัทลูกของ บล.แอ๊คคินซันหรือ ASL ของเสี่ยไมค์ขึ้นมาทันที เพราะวานนี้มีข่าวว่าพี่ท่านลดทุนบริษัทลูกเพื่อง่ายต่อการขาย ซึ่งจะทำให้ตัวแม่รับรู้เงินสดเข้ามาในบริษัททันที 300 ล้านบาทแบบนี้ "โมนิก้า"ต้องยอมรับว่าเป็นกลยุทธ์การสูบเงินจากบริษัทลูกที่เหนือชั้นจริงๆ

*ถึงกระนั้นเดี๊ยนก็มองว่าเป็นการกระทำที่ถูกต้องเหมาะเหม็งทุกประการ เพราะพี่ไมค์ต้องการขายแต่ใบอนุญาติเพียงอย่างเดียว ส่วนทรัพย์สินเงินทองทั้งหมดในบริษัทก็ต้องโอนเข้ามาในบริษัทอยู่ดี เดี๊ยนถึงไม่กล้าตำหนิพี่ไมค์สุดหล่อ เพราะหากเป็นตัวเดี๊ยนก็คงทำแบบนั้นเหมือนกัน...อิอิอิ

*ในที่สุด AOT ที่มีปัญหาคาราคาซัง ก็ออกมายอมรับว่าผลกำไรปี 2550 จะต่ำกว่าปีก่อน เพราะต้องสำรองค่าเสื่อมหลังจากเปิดใช้สนามบินอย่างเป็นทางการ แต่ราคาหุ้นกลับอ่อนตัวลงมาแค่ 0.50 บาท ก่อนจะมาปิดที่ 59 บาท พร้อมด้วยแรงรับที่แน่นขนัด เหมือนเป็นการส่งซิกให้รู้ว่า ราคาหุ้นไม่น่าอ่อนตัวลงไปลึกเหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้วเจ้าค่ะ

*เดี๊ยนพูดถึงคนบริหารสนามบินตั้งเยอะ ไม่พูดถึงเจ้าของสายการบินไทย THAIเดี๋ยวชาวบ้านชาวช่องจะหาว่าโอนเอียงได้ จึงขอใช้พื้นที่ตรงนี้พูดถึงสักหน่อย เพราะราคาหุ้นดันรูดลงจนแทบจะกู่ไม่กลับ โชคดีที่มีแรงช้อนซื้อเข้ามาเป็นระยะ ราคาหุ้นถึงยืนหยัดเหนือระดับแนวรับสุดท้ายที่ 42 บาทได้อย่างหวาดเสียว...แถมช่วงนี้ไม่มีสตอรี่ใหม่ๆ คอยค้ำจุน ยิ่งน่าเป็นห่วงพะยะค่ะ

*เหมือนกับในรายของ DTAC ในที่สุดก็พิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของหุ้นด้วยการกระชากขึ้นมาปิดที่ 41.75 บาท บวกไป 1.75 บาท พร้อมด้วยวอลุ่มที่หนาแน่นถึงระดับ 425 ล้านบาท เท่ากับเป็นการย้ำเตือนว่า ทองแท้ย่อมไม่แพ้ไฟ และเดี๊ยนก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก เพราะไม่เสียแรงเชียร์นะซี

*สำหรับหุ้นต้องห้ามที่ "โมนิก้า" ไม่อยากให้นักลงทุนเข้าไปข้องแวะยามนี้ คือ MPTเพราะราคาหุ้นกระชากขึ้นแรงโดยไม่มีเหตุผลสนับสนุนเพียงพอ รวมทั้งประวัติเก่าที่ผ่านมาส่งกลิ่นคาวคละคลุ้งไปทั่ว เดี๊ยนถึงรู้สึกเป็นห่วงนักลงทุนที่คิดจะเข้าไปเล่นหุ้นตัวนี้...ยกเว้นคนที่คิดว่าตัวเองเจ๋งพอ ก็เชิญลุยได้สะดวกโยธิน

*ตบท้ายที่ S2Y หุ้นที่มีปัญหาเรื่องการโอนถ่ายหุ้นกันไปมา จนไม่รู้ว่าจะเข้ามาทำธุรกิจหรือเล่นหุ้นกันแน่...วานนี้แสดงฤทธิ์เดชด้วยการกระโดดขึ้นมาปิดที่ 1.60 บาท บวกไป0.36 บาท หรือขึ้นไปถึง 29% เดี๊ยนคิดว่าโอเว่อร์มากๆ สำหรับหุ้นที่ไม่พื้นเพอะไรน่าจดจำยิ่งสัญญาณ doji evening star โผล่หลาให้เห็นเต็มลูกตา ยิ่งไม่ควรเข้าไปข้องแวะด้วยประการทั้งปวง


:lol:

 กลับขึ้นบน
kaisel
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 3,380
#1 วันที่: 28/06/2007 @ 07:19:09 :
สังคมข่าวหุ้น :


**ทุกวันนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจนกับงบลับไม่ลึกลึกไม่ลับ 800 ล้านบาท จัดซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อความมั่นคงทางทหาร ตามที่ พล.อ.สพรั่งเรียกให้งงๆ แต่เข้าใจง่ายๆ ว่า เครื่องดักฟังโทรศัพท์

**แต่ถึงแม้แคนดิเดต ผบ.ทบ. คนนี้จะพยายามปฏิเสธคอเป็นเอ็นแค่ไหนว่างบยังไม่ชัดเจนว่าเป็นตัวเลขเท่าไหร่ แต่เจ้าที่แถวกระทรวงการคลังก็ส่งข่าวบอกเป็นระยะว่า จริงๆ แล้ว ที่กระทรวงคลังได้รับหนังสือจากกองทัพบก ไม่ระบุหน่วยงานชัดๆ เพื่อขอสนับสนุนเงินบริจาคแล้ว เคาะตัวเลขที่ 800 ล้านบาท เจง เจง อยากรู้ไปตามเอา

**เก็บตกกรณีเขี่ย "วุฒิพงษ์ เพรียบจริยวัฒน์" พ้นเก้าอี้รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ทีโอที ด้วยข้อหามีคำพูดจาที่ไม่เหมาะสมต่อ รมว.ไอซีที แต่สงกะสัยว่าไม่เคยเห็นสิทธิชัยโภไคยอุดม เจ้าตัวที่ถูกพาดพิง ออกมาพูดจาอะไร ซึ่งถือว่าผิดสังเกตมาก

**ทุกทีถ้ามีกรณีกล่าวอ้างที่รุนแรงเช่นนี้ รับรองถึงไหนถึงกัน ควันออกหูไปนานแล้ว

**สืบไปสืบมาคนที่อยู่ในที่ประชุมบอร์ดทีโอทีนัดแรกที่ระแคะระคายเรื่องแซะเก้าอี้ บอกว่า รมต.สิทธิชัยฟังเหตุผลชี้แจงจากวุฒิพงษ์เรื่องที่ไปบอกว่า "ถ้าขวางเทเลคอม พูล ให้ข้ามศพไปก่อนน่ะว่าเป็นการปลุกระดมพนักงานทีโอทีให้มีความฮึกเหิมตามประสานักไฮด์ปาร์คเท่านั้น รมต.สิทธิชัยยังออกปากว่า "วุฒิพงษ์เป็นลูกผู้ชายตัวจริง ทำก็กล้ารับว่าทำ" ไอ้ที่ว่าจะเคืองเลยหายซะงั้น**นี่แหละนักเลงของแท้

**เจ้าตัวที่ถูกพาดพิงยังจบเรื่องจบราวไปแล้วแต่พวกที่ออกมาแถลงข่าวเหยงๆ อ้างเหตุผลปลดซ้ำแล้วซ้ำเล่าล่ะจะให้เข้าใจว่าไง ถ้าไม่ใช่กลบเกลื่อนเหตุผลจริงเรื่องงบลับ 800 ล้านบาท อิอิ

**ก่อนปลด วุฒิพงษ์ทิ้งบอมบ์ต่อหน้า ไม่ทำลับหลัง บอกว่าถ้าปลดก็แฉแน่ แล้วก็ทำจริง ป่านนี้บอร์ดทีโอทียังตามเก็บกู้ซากระเบิดกับผู้สื่อข่าวไม่จบไม่สิ้น

**เตรียมเปิดหวูดแน่นอนแล้ว สำหรับการประมูลไอพีพีรอบสอง รวม 3.2 หมื่นเมกะวัตต์ ซึ่งจะเริ่มขายซองราคาตั้งแต่วันที่ 29 มิ.ย. นี้ ข่าวนี้หุ้นพลังงานลุ้นกันมาตั้งแต่ไก่โห่ วิ่งรับข่าวก็หลายระลอก ทั้งตอนข่าวจริง ข่าวไม่จริง จนถึงป่านนี้คงยังไม่มีสตอรี่ให้เล่น ไว้รอเก็งกำไรกันอีกทีตอนฟันธงแล้วว่าจะแบ่งเค้กให้ใครบ้าง**ที่ภาษีดีสุดหนีไม่พ้น TOP RATCH EGCOMP

**ท่าทางไม่ค่อยมีใครขานรับซักเท่าไหร่ สำหรับการที่ HEMRAJ ซื้อตึก UM Towerรวมพื้นที่ 27,500 ตารางเมตร จากทั้งหมด 35,500 ตารางเมตร เพราะดูแล้วไม่น่าจะเพิ่มมูลค่าให้ผู้ถือหุ้นของบริษัทได้ เนื่องจากเงินสดที่จะได้มา คิดเป็นอัตราผลตอบแทนกระแสเงินสดแค่ 6.7% ต่อปีเท่านั้น

**แต่ข่าวดีๆ ก็มีให้ลุ้น เพราะเห็นว่าจะเจรจากับลูกค้าระดับบิ๊ก ขายที่ล็อตเดียว 100 ไร่ภายในเดือนนี้ ถ้าได้เป้าหมายธุรกิจปีนี้ก็ยังไม่พลาด

**ปิดท้ายขอไว้อาลัยให้พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน ผู้เพียรพยายามจะช่วยชาติในหลายๆ เรื่อง แต่จนถึงวันนี้ยังไม่มีโครงการไหนเป็นไปอย่างที่ใจ พล.ร.อ.บรรณวิทย์ต้องการ ตั้งแต่ที่ดินเซ็นทรัล ปิดสนามบินสุวรรณภูมิ โละผู้บริหารและบอร์ดAOT ไม่มีใครเอาด้วยซักกะคน**แถมล่าสุดยังตกม้าตายท้ายเรื่อง อดนั่งประธานเจรจาแก้สัญญาเอไอเอส เพราะขาดคุณสมบัติ เนื่องจากไม่มีตำแหน่งและส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับทีโอที หน่วยงานภาครัฐคู่สัญญาสัมปทานกับเอกชน และได้รับผลกระทบโดยตรงจากการแก้สัญญา จะเขย่งขาเข้าไปเกี่ยวก็ดูไม่งาม เดี๋ยวจะไม่สมศักดิ์ศรีคนดีช่วยชาติเปล่าๆปลี้ๆ

**เรื่องนี้เอไอเอสคงต้องขอขอบคุณกระทรวงการคลังงามๆ ที่ช่วยทักท้วงกับตำแหน่งประธานเจรจา เพราะถ้าปล่อยไปไม่รู้อะไรจะเกิดขึ้น**ส่วน พล.ร.อ.บรรณวิทย์เวลานี้ควรเก็บตัวเงียบหาเรื่องใหม่ที่เป็นผลงานซึ่งคนชื่นชมจริงๆ แล้วลงมือให้สำเร็จซักเรื่อง ก่อนหมดรัฐบาลทหารเถอะ พ่อคู้นนนน..เผื่อจะมีใครอวยชัยให้พรบ้าง**


:lol:
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com