Puu
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 476 |  วันที่: 22/06/2007 @ 10:39:56 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต SET Index วันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน 2550 ปิดที่ดัชนี 776.20 จุด -0.90 จุด มูลค่าการซื้อขาย 23,522 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,042.07 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 440.95 ล้านบาท
นักลงทุนทั่วไปขายสุทธิ 1,601.12 ล้านบาท SET Index ทำ High ที่ดัชนี 777.72 จุด +13.94จุด และ Low ที่ดัชนี 765.27 จุด +1.49 จุด แม้ดัชนีวานนี้จะค่อนไปในแดนลบแต่หุ้นในกระดานต่างเดินหน้าเขียวกันยกใหญ่ในหุ้นเล็กเก็งกำไรหลายๆ ตัวที่มาเกทัพกันเต็มกระดานโดยเฉพาะ IEC ที่แรงแบบฉุดไม่อยู่บวกกับวอลุ่มที่มีเข้าอย่างหนาแน่น ครองอันดับTop1 ไปครอง ซึ่งปิดบวกไปกว่า 23% ส่วนทางด้านหุ้นยักษ์ใหญ่ในกลุ่มพลังงานนั้นมีแรงขายถ่วงตลาดอยู่ตลอดวันแต่ดัชนีก็ร่วงลงไปไม่มากนักเมื่อเทียบกับการปรับขึ้นจากเมื่อวันก่อน โดยหุ้นแบงค์ยังคงมีแรงซื้อมากเข้ามาต่อเนื่อง ทำให้ดัชนีลดลงไม่มากนัก หุ้นที่น่าสนใจวันนี้ DTAC มาเป็นน้องใหม่ในตลาดหุ้นไทยวันแรก และเป็นหุ้นตัวแรกของ ตลท. ที่จดทะเบียนควบ
2 ตลาด หรือ Dual Listing ซึ่งมูลค่าหลักทรัพย์ ณ IPO จะใหญ่เป็น1 ใน 15 อันดับแรกของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยคือสูงประมาณ 9.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งทำให้ Market Capของตลาดหุ้นไทยเติบโตขึ้นอีก อย่างไรวันนี้ก็สุดสัปดาห์แล้วซึ่งในช่วงวันหยุดนี้จะมีการชุมนุมประท้วง K.KARZIP ก็ได้แต่หวังจะไม่มีเหตุรุนแรงใดใดเกิดขึ้น และการเทรดวันนี้หากถือเงินสดได้คงจะดีกว่าแล้วค่อยไปลุยต่อในสัปดาห์หน้ากัน... KSL ราคาเปิด - ปิด9.35 บาท มูลค่าการซื้อขาย2.16 ล้านบาท จากคาดการณ์ผลประกอบการQ3 จะออกมาค่อนข้างดี โดยได้รับปัจจัยบวกจากการปรับต้นทุนค่าอ้อยลดลงดังนั้นบริษัทจะได้รับประโยชน์จากการปรับครั้งนี้ประมาณ 260 ลบ. ซึ่งจะส่งผลกระทบผ่านต้นทุนขาย และทำให้อัตรากำไรขั้นต้นQ3 ของบริษัทจะปรับตัวสูงขึ้นกว่าปกติที่ตาม Seasonaนอกจากนี้จากราคาอ้อยขั้นสุดท้ายที่คาดว่าจะลดลงทำให้ Processing Return ที่ได้รับจะอยู่ที่ประมาณ 306 บาท/ตันอ้อย ซึ่งต่ำกว่าที่ สนอ. การันตีไว้ที่ 342 บาท ซึ่งตามกฎหมาย สอน. จะต้องจ่ายเงินชดเชยกลับมาแก่โรงงานน้ำตาล บริษัทคาดว่าจะมีการบันทึกเข้ามาในQ4
หลังจากที่มีการประกาศราคาอ้อยขั้นสุดท้ายเรียบร้อยแล้วและนอกจากนี้ KSL ยังมีแผนที่จะย้ายโรงงานน้ำตาล 2 ซึ่งมีแผนจะย้ายไปจ.สระแก้วเพื่อรองรับโครงการส่งเสริมการปลูกอ้อยที่บริษัทได้ไปดำเนินการไว้
ถ้าเป็นไปตามแผนคาดว่าจะเริ่มการผลิตที่ใหม่ได้ในปี 2010 และกำลังการผลิตจะขยายขึ้นกว่าเดิมน่าจะเป็นข่าวดีสำหรับบริษัทที่มีแผนลงทุนระยะยาวทำให้เกิดความมั้นใจในการลงทุนดังนั้นK.KRAZIP แนะนำ "ซื้อ" โดยมีแนวรับที่ 9.20 บาท แนวต้าน9.50บาท
LPN
ราคาเปิด 8.10บาท ราคาปิด8 บาท มูลค่าการซื้อขาย36.56 ล้านบาท หลังจากประสบความสำเร็จมียอดจอง 100% จากการเปิดขายโครงการลุมพินีวิลล์ รามอินทรา ? หลักสี่ เฟส 1ทำให้การเปิดจองอีกโครงการ ลุมพินีวิลล์ รามอินทรา ? หลักสี่ เฟส 2 ได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าเช่นกันและทำให้ LPN
มียอดจองแล้ว 75% ของมูลค่าในเฟส 2 ทั้งหมดและคาดว่าการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมของ LPN
ได้เข้าถึงอุปสงค์กลุ่มที่คาดว่าจะเติบโตสูงสุดในปีนี้คือกลุ่มตลาดระดับกลางและล่างโดยเฉพาะระดับล่างที่มีอุปสงค์ในระดับสูงในขณะที่ LPN เป็นผู้ประกอบการที่มีอุปทานเสนอขายมากที่สุดรายหนึ่งส่งผลให้ยอดขายของโครงการที่ระดับราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาทได้รับการตอบรับดี ดังนั้นK.KRAZIP แนะนำ "ซื้อ" โดยมีแนวรับที่ 7.90บาท แนวต้าน8.30บาท
STAR
ราคาเปิด 1.65 บาท ราคาปิด 1.64 บาท มูลค่าการซื้อขาย 0.48 ล้านบาท ล่าสุด STAR ตั้งดีลเลอร์เพิ่ม 2-3 รายที่จังหวัดภูเก็ต และมีการจัดแสดงสินค้าซึ่งได้รับการตอบรับอย่างน่าพอใจ
แนวโน้มความต้องสินค้าสุขภัณฑ์ระดับคุณภาพสูงเพื่อติดตั้งใหม่ และซ่อมเสริมทดแทนของเดิมยังมีอีกมาก และถือเป็นการเพิ่มฐานลูกค้าระดับสูงได้ จึงสอดคล้องกับนโยบายการทำตลาดในระดับกลางและบน
ซึ่งจะช่วยเพิ่มฐานลูกค้าระดับ First Class ได้อีกมาก ส่วนแนวโน้มรายได้ปีนี้คาดว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าที่ 300 ล้านบาท เพราะตลาดยังมีความต้องการสินค้าสุขภัณฑ์อีกมากทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ซึ่งมาตรฐาน และระดับราคาของสินค้าของ STAR นับว่ามีความสามารถแข่งขันได้ดีหากเทียบกับคู่แข่งอื่นๆ และต่อจากนี้ STAR เตรียมทยอยออกสินค้าสุขภัณฑ์รุ่นใหม่อีก 6-7 รุ่นในครึ่งปีหลัง เพื่อส่งเสริมยอดขายให้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกที่สินค้าที่ออกมา 3-4 รุ่นได้รัการตอบรับอย่างดี ดังนั้น K.KRAZIP แนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" โดยมีแนวรับที่ 1.60 บาท แนวต้าน 1.78 บาทฝากดูตัวลูกด้วยก็ดีทำท่าจะแรงกว่าแม่ซะอีก
HEMRAJ
ราคาเปิด 1.06 บาท ราคาปิด 1.07 บาท มูลค่าการซื้อขาย 27.28
ล้านบาท มีบริษัทย่อยH-Phoenix Property Company Limited ลงนามในสัญญาซื้ออาคารสำนักงาน UM Towe ซึ่งปัจจุบัน HEMRAJ เช่าเป็นสำนักงานใหญ่อยู่ ในการเข้าซื้อสินทรัพย์ดังกล่าว CEO ของ HEMRAJ เปิดเผยว่าจะใช้อาคารสำนักงานเอง 1,500 ตารางเมตร และที่เหลือ 26,000 ตารางเมตร
ไว้ปล่อยเช่า ซึ่งคาดว่าจะพัฒนารายได้ค่าเช่าให้ดีกว่าเดิมได้ ส่วนที่ดินเปล่านั้นจะไว้ใช้พัฒนาในอนาคต
จะใช้เงินทุนหมุเวียนกิจการในการเข้าซื้อ K.KRAZIP เห็นว่าเป็นผลดีในระยะยาวกับHEMRAJ ที่จะเพิ่มรายได้ค่าเช่า และการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายต่อไป ซึ่งทำเลดังกล่าวมีศักยภาพที่ดีในอนาคตโดยเฉพาะเมื่อ แอร์พอร์ต ลิ้งค์ แล้วเสร็จ คาดการณ์อัตราการเติบโตของกำไรปกติปี2550 สูงมากเป็น 33% YoY และคาดการณ์อัตราผลตอบแทนเงินปันผลปีนี้สูงเป็น 7.0% K.KRAZIP คงคำแนะนำ "ซื้อ" โดยมีแนวรับที่ 1.04 บาท แนวต้าน1.10 บาท
ที่มา ทันหุ้น[/color:4bc2a8ec35">
|
