*ดูเหมือนสถานการณ์หลายๆ อย่างจะเป็นใจให้หุ้น DTAC ปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงในวันนี้ หลังจากราคาหุ้น แทคที่สิงค์โปร วิ่งขึ้นไปรอถึงระดับ 1.31 เหรียญ พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในรอบ 1 เดือนกว่า เหมือนเป็นการส่งสัญญาณล่วงหน้าว่า หุ้นดีแทคในประเทศไทย จะวิ่งตามก้นไปติดๆ นะจะบอกให้

*หากคิดคำนวณแบบตรรกโดยเอาราคาหุ้นที่สิงค์โปรแปลงเป็นเงินบาทได้ที่ระดับ45.85 บาท ยิ่งมั่นใจเป็นร้อยเท่าพันเท่าว่า ราคาหุ้นมีโอกาสวิ่งขึ้นไปปิดเหนือจอง 40บาทสูงมาก เพราะกระแสเรื่อง arbitrage กำลังมาแรงเหลือเกิน "โมนิก้า" ถึงมั่นใจเต็มอกตูมๆ ว่า ขึ้นชัวร์ป๊าบ...บบบบ

*อีกทั้งช่วงที่ผ่านมาเดี๊ยนได้แอบไปดอมๆ มองๆ ฟังการบรรยายของ บล.กสิกรไทยซึ่งเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับหุ้นตัวนี้อย่างทะลุปรุโปร่ง ยิ่งมั่นใจเป็นทวีคูณว่า คุณพี่รพีสุจริตกุล จะไม่ทำให้น้องโมต้องผิดหวัง เพราะก่อนที่หุ้นจะเข้าซื้อขายพี่ท่านเล่นขุดสารพันข่าวดีออกมาสร้างสตอเบอรี่มากมายหลายเรื่อง...เดี๊ยนถึงเชื่อว่า การเข้าเทรดครั้งนี้จะปิดฉากอย่างสวยงาม สมดั่งชื่อ Happy DTAC

*ก่อนจะไปยังเรื่องการซื้อขายหุ้นในประเทศไทย "โมนิก้า" ขอวกกลับไปที่ข่าวพ.ต.ท ทักษิณ ชินวัตร เตรียมเทคโอเว่อร์สโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หรือ ทีม"เรือใบสีฟ้า" อย่างเป็นทางการ ด้วยจำนวนเงิน 81.6 ล้านปอนด์ (162.6 ล้านดอลลาร์) หรือราว 5,630 ล้านบาท นะจะบอกให้

*โดยวงเงินเทคโอเวอร์จำนวนเงิน 81.6 ล้านปอนด์นั้น รวมถึงเงินจำนวน 40เพนซ์ ซึ่งเป็นราคาต่อหุ้นของสโมสร และหนี้สินของสโมสรจำนวน 60 ล้านปอนด์ และการเทคโอเวอร์ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ครั้งนี้ ส่งผลให้ บริษัทยูเค สปอร์ตส์ อินเวสเมนต์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ครอบครองหุ้นในสโมสรทั้งสิ้น 56% นะค่ะ

*แม้เรื่องดังกล่าวจะไม่เกี่ยวข้องกับหุ้นในประเทศไทย แต่ก็เป็นเรื่องที่กระเทือนซางไปทุกหย่อมหญ้า และคงทำให้พวกปากหอยปากปูเม้าท์แตกกันอีกหลายวันเลยทีเดียว "โมนิก้า" ถึงขอร่วมแจมเรื่องดังกล่าวตั้งแต่หัววัน...อิอิอิ

*สำหรับบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวานนี้ ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นเร้าใจเหมือนก่อนหน้านี้ เพราะมีแรงเทขายทำกำไรออกมาตลอดทั้งวัน แต่โชคดีที่มีแรงช้อนซื้อเข้ามารับเป็นระยะด้วยเช่นกัน จึงเท่ากับเป็นการเปิดโอกาสให้ราคาหุ้นดีดตัวกลับขึ้นต่อในวันนี้นะจะบอกให้

*ส่วนหุ้นที่ต้องกล่าวถึงมากเป็นพิเศษในยามนี้ คงหนีไม่พ้นหุ้นเก็งกำไรยอดนิยมอย่างIEC เพราะราคาหุ้นพุ่งพรวดแบบไม่ทันตั้งตัวไปถึงระดับ 1.24 บาท แต่สุดท้ายกลับอ่อนตัวลงมาปิดที่ 1.06 บาท และบวกไปเพียง 0.20 บาท หรือขึ้นไปกว่า 23% ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขาย 1,398 ล้านบาท หรือขึ้นแท่นอันดับ 1 ในกระดาน Most Activeแบบนี้...คงเป็นการลากไปเชือดอีกตามเคยนะที่รัก

*เช่นเดียวกับในรายของ LIVE พอไม่มีใครมาตรวจสอบธุรกรรมการซื้อขาย ขาใหญ่ก็สบช่องปั่นราคากันอีกรอบ เผอิญกระแสหุ้นเก็งกำไรไม่แรงพอ ราคาหุ้นก็เลยวิ่งขึ้นมาปิดที่ 5.30 บาท บวกไป 0.58 บาท หรือขึ้นไป 12.28% แต่เท่านี้ก็มากพอสำหรับพวกคนที่ชอบ ซื้อเช้า ขายบ่าย นะจะบอกให้

*เหมือนกับในรายของ CCET-W1 ร้อนแรงสุดๆ และแอบขึ้นมาติดในกระดาน MostActive บ่อยครั้งเหลือเกิน ทั้งที่เมื่อคิดคำนวณ บวก ลบ คูณ หาร และเอาเรื่องการแปลงสิทธิ์เพื่อเอาส่วนต่างกำไรมาประกอบเป็นเรื่องราว ก็มีน้ำหนักไม่มากพอจะดันหุ้นขึ้นมาปิดถึงที่ 1.63 บาท บวกไป 0.08 บาท เมื่อรวมเบ็ดเสร็จ 7 วันที่หุ้นขึ้นมาถึง 50% มันร้อนแรงไหมหล่ะ
*งานนี้ใครทราบถึงสาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้นวิ่งระเบิดเถิดเทิง ทั้งที่ตัวแม่ CCETย่ำต๊อกอยู่ที่ 5.95 บาท กรุณาร้อยท่อต่อสายตรงมาหา "โมนิก้า" ด่วนจี๋ แล้วเดี๊ยนจะมีรางวัลงามๆ มามอบให้ถึงบ้านเลยทีเดียว

*เนื่องจากช่วงบ่ายมีการโยกเงินเข้าไปเล่นเก็งกำไรหุ้นสองแม่ลูก SVI และSVIW-2 กันอย่างโจ๋งครึม จน "โมนิก้า" ต้องยกหูเช็คข่าวให้วุ่นไปหมด รวมทั้งต้องเช็คดูว่า การใช้สิทธิ์แปลงสภาพเพื่อเอากำไรส่วนต่างมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ผลปรากฎว่าเลยเวลาใช้สิทธิ์มาหลายวันแล้วเจ้าค่ะ

*การที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1.43 บาท บวกไป 0.10 บาท และปิดที่ 0.79 บาท บวกไป0.14 บาท หรือขึ้นไปถึง 21% จึงเป็นเรื่องที่ต้องติดตามดูกันต่อไปว่าจะเป็นการดันราคาเพื่อออกของ หรือจะเป็นการดันราคาเพื่อเพิ่มทุนกันแน่

*"โมนิก้า" ประหลาดใจสุดๆ เห็นจะเป็นในรายของ S2Y ช่วงต้นปีเพิ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงกลุ่มผู้ถือหุ้น พร้อมกับหันเหไปทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กันหมาดๆ แต่ล่าสุดกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ที่เพิ่งเข้ามาช่วงต้นปีกลับแบ่งขายหุ้นให้กับพันธมิตรใหม่ในราคา 1 บาททั้งที่ราคาในกระดานอยู่สูงถึง 2.64 บาท มันน่าสงสัยไหมว่า ก๊วนนี้กำลังเล่นเกมการเงิน และยักย้ายถ่ายเทเงินกันไหมหล่ะ

*ตบท้ายกันที่เจ้าคิงคอง KK ราคาหุ้นค่อยๆ ขยับขึ้นวันละเล็กละน้อย จนล่าสุดวิ่งขึ้นมาปิดถึงที่ 32.50 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือรวมเบ็ดเสร็จขึ้นมาแล้วประมาณ 6วัน พร้อมกับให้รีเทิร์นกับผู้ถือหุ้นเกือบ 14% คงเป็นอะไรที่มากกว่าดันราคากันธรรมดาแน่ๆและเดี๊ยนกำลังสงสัยว่า เป็นการเล่นอินไซด์ผลประกอบการไตรมาส 2 มากกว่าประเด็นอื่นเสียด้วยนะค่ะ